ศีล คือ ชีวิต
คนที่บอกว่าเขารักชีวิต แต่เขาไม่รักษาศีล จะ เชื่อถือได้อย่างไรว่าเขารักชีวิตจริง
ศีล คือชีวิต ชีวิต คือศีล
คนไม่มีศีล เปรียบเสมือนต้นไม้ที่ไม่มีราก เมื่อถูกลม พัดก็ย่อมล้ม
คนไม่มีศีล เหมือนการสร้างบ้าน สร้างตึกที่ไม่มี รากฐานไม่มีเสาเข็ม ย่อมล้มเป็นธรรมดา
คนไม่มีศีล เหมือนคนไม่มีเท้าย่อมเดินไม่ได้ เหมือนรถไม่มีล้อแล่น วิ่งไม่ได้
คน ไม่มีศีล เหมือนคนเป็นใหญ่เป็นโต แต่ไม่มีความรู้ ย่อมปกครอง ทรัพย์ ปกครองลูกน้องไม่ได้ดี
คนไม่มีศีล จะเจริญสมาธิและกระทำให้เกิดปัญญา และวิมุตติไม่ได้ และสำเร็จมรรคผลนิพพานไม่ได้
คนมีศีล ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟก็ไม่ไหม้ (ไม่ ว่าจะอยู่ในหมู่คนพาล หรือคนดี ย่อมรักษาตัวรอดได้)
คนมีศีล จะนั่งนอน หลับตื่น ก็เป็นสุขอยู่ในกาลทุกเมื่อ ไม่มีวิปฏิสาร (คือความเดือดร้อนใจ)
คนมีศีล มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียวย่อมประเสริฐกว่า ผู้ไม่มีศีลซึ่งมีชีวิตอยู่ ตั้งร้อยปี
คนมีศีล ย่อมไม่ทำบาปแม้ในที่ลับ เพราะมีความตรงและ จริงใจต่อตนเอง
คนมีศีล ย่อมไปสู่ทุคติจตุรบาย
ศีลคือ เครื่องรางที่ป้องกันอบายภูมิได้อย่างศักดิ์สิทธิ์
คนมีศีล ย่อมมีสุคติเป็นที่ไปเบื้องหน้า
คนมีศีล จะค้าขายก็จะมีแต่ความเจริญโดยส่วนเดียว
คนมีศีล เข้าสมาธิก็ง่าย ไม่สะดุ้งตกใจง่าย
คนมีศีล ย่อมไม่ฝันลามก ย่อมไม่ฝันร้าย
คน มีศีล บรรลุธรรมก็ง่าย
คนมีศีล ย่อมไม่ก่อกรรมทำบาป
คนมี ศีล คือผู้ที่มีจิตศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง (คือเชื่อในพระรัตน ตรัยจริงๆ)
คนมีศีล ย่อมเห็นโทษของบาปแม้เพียงเล็กน้อย
เพราะ ผิดศีลข้อ ๑ จึงมีกรรม อายุสั้น มีโรคภัยไข้เจ็บมาก
เพราะผิด ศีลข้อ ๒ จึงมีกรรม ทรัพย์สมบัติต้องวิบัติด้วยแรงกรรมต่างๆ เช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ
เพราะผิดศีลข้อ ๓ จึงมีกรรม ภริยา-สามี นอกจิต นอกใจ บุตร-ธิดา ไม่อยู่ในโอวาทคบชู้สู่ชาย
เพราะผิดศีลข้อ ๔ จึงมีกรรม พูดจาไม่มีคนเชื่อถ้อยฟังคำ ตาบอด หู หนวก เป็นอัมพาต
เพราะผิด ศีลข้อ ๕ จึงมีกรรม โง่เง่า หลงทำกาลกิริยา เป็นบ้า เป็นใบ้
รักษาศีลให้ได้ มีสุคติเป็นที่ไปแน่นอน
รักษาศีลให้ได้ มีโภคทรัพย์แน่นอน
รักษา ศีลให้ได้ มีนิพพานเป็นที่ไป และเข้าถึงแน่นอน
Create Date : 01 เมษายน 2553 |
Last Update : 1 เมษายน 2553 14:56:34 น. |
|
0 comments
|
Counter : 225 Pageviews. |
|
|
|
| |