Group Blog
 
 
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
เห็นธรรมด้วยปัญญา

Zombie CostumeSanta CostumeNinja CostumePoison Ivy CostumePower Ranger CostumeMary Poppins CostumeCat CostumeTomb Raider Halloween CostumeDisney Princess CostumeCow CostumeUnderworld Selene CostumeHow To Make A Predator CostumeWerewolf CostumeEaster Bunny CostumeAdult Halloween CostumePrincess CostumeWolf CostumeMother Nature CostumeCaptain Jack Sparrow CostumeSouthern Belle CostumeSnow White CostumeJoker CostumeUnique Halloween CostumeMad Scientist CostumeRealistic Pirate CostumeDragon CostumeSherlock Holmes CostumePlayboy Bunny CostumePattern For Peter Pan CostumeAdult CostumeMr Grinch CostumeKnight CostumeCowgirl CostumeRaggedy Ann CostumeStatue Of Liberty CostumePot Of Gold CostumeAce Frehley Halloween CostumeViking CostumeGorilla CostumeFairy Godmother CostumeRoman CostumeMaster Chief CostumeFlamingo CostumePrincess Leia Slave CostumeBumble Bee CostumeBelly Dance CostumeButterfly CostumeElvis CostumeSpiderman CostumeLion Costume

เมื่อพระอริยสาวกถามพระพุทธองค์ว่า การเห็นความจริง เห็นไตรลักษณ์ เห็นอริยสัจสี่นั้น เห็นด้วยอะไร พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า ให้เห็นด้วยปัญญาจักษุ

หมายถึงว่า มีความเห็นตรงตามความเป็นจริงของโลกและชีวิตว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบเป็นโลกและจักรวาลนั้น เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป มีความแปรปรวนอยู่ตอลดเวลา ไม่สามารถคงอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอด บังคับบัญชาไม่ได้ เพราะเกิดจากเหตุจากปัจจัยมาประชุมรวมตัวกันชั่วคราว พร้อมด้วยเหตุปัจจัยที่ต้องแยกแตกสลายก็ต้องแตกสลาย เพราะสิ่งนี้เกิด สิ่งนั้นจึงเกิด เพราะสิ่งนั้นดับ สิ่งนี้จึงดับ หรือสรุปเป็นคำๆ เดียวว่า ไม่เที่ยง

รูปก็ดี นามก็ดี ไม่เที่ยง ทั้งหลายทั้งปวง คือ สิ่งที่มากระทบตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็ไม่เที่ยง ตัวเราก็ไม่เที่ยง เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีอะไรรอดจากความจริงของโลกและชีวิตนี้

ทุกข์ในโลก แบ่งเป็นสอง คือ

ทุกข์ที่ธรรมชาติสร้าง ได้แก่ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย และทุกข์ที่เราสร้าง ขึ้นมา คือ ความโศกเศร้า รำพึงรำพัน การโหยหา ความไม่สบายใจ ความลำบากใจ (โดยย่อ อุปทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์)

การดับทุกข์ที่เราสร้างขึ้นมาได้ ก็ดับทุกข์ที่เกิดตามธรรมชาติได้ เพราะการเกิดแก่เจ็บตาย หรือการเกิดชาติภพ มาจากการที่คนเรายังมีทุกข์ หรือมีบาป หลงเหลืออยู่ในจิตใจ

เมื่อเกิดความ คิดเห็นแบบนี้ คือมีดวงตาเห็นธรรม คือผู้เห็นธรรมแล้วด้วยปัญญาจักษุ ไม่ได้หมายถึงต้องมองเห็นด้วยตา ไม่ว่าจะเป็นตานอก หรือตาใน

พระ สารีบุตรได้ยินคำของพระอัสสชิกล่าวว่า "ธรรมใดเกิดแต่เหตุ" ก็เกิดมีดวงตาเห็นธรรม คือ ถึงบางอ้อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากเหตุจากปัจจัยไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาลอยๆ

พระ พุทธองค์ใช้วิธีการนั่งสมาธิ ประกอบด้วยวิปัสสนา ที่บอกว่าไม่เหินห่างจากฌาน นั้นเป็นวิธีการหาความจริง ไม่ใช่วิธีการดับทุกข์ (วิธีการวิจัย ไม่ใช่ผลการวิจัย) พระพุทธองค์จะบอกเรื่องนี้กับพวกพราหมณ์ เพราะพวกพราหมณชอบถามว่าท่านตรัสรู้ด้วยตนเองได้อย่างไร เพราะพระพุทธองค์สั่งสมบุญบารมีมาว่า ๔ อสงไขย์แสนกัปล์ จึงพบปัญญาที่จะนำมาดับทุกข์ได้ด้วยตนเอง หรือพูดง่ายๆ ว่า การนั่งสมาธิจนพบวิธีการดับทุกข์นั้นเกิดขึ้นได้เฉพาะผู้ที่สามารถบรรลุเป็น พระพุทธเจ้าได้เท่านั้น

เปรียบเหมือนการค้นพบยาปฏิชีวนะ หากเราป่วยจะรักษาตน ก็คือเอายามากิน ไม่ใช่ไปเดินย้อนรอยวิธีการค้นพบยา หรือเอาวิธีการที่พระพุทธองค์ค้นพบมาปฏิบัติ คือการเจริญความเห็นเพื่อสร้างปัญญาที่ดับทุกข์ได้





Create Date : 26 มีนาคม 2553
Last Update : 26 มีนาคม 2553 14:59:35 น. 0 comments
Counter : 125 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

somkitjar
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add somkitjar's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.