ยังมีคนเลวพอ ๆ กับ Hitler
หลังจากมีการวิพากษ์วิจารณ์เปรียบเทียบกันในเครือข่ายออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นความเลวร้ายของ นาซี กับ ฮิตเลอร์ กับผู้นำรายอื่น ๆ หรือที่เรียกกันว่า การจัดระเบียบของ Godwin's Law //goo.gl/fXkCbG มีการนำข้อมูลต่าง ๆ มานำเสนอกันอย่างมากมาย จนได้ข้อสรุปที่น่าจะเชื่อถือได้ว่า มีผู้นำที่เลวร้ายและโหดร้ายพอ ๆ กัน ที่เป็นที่เกียจชังของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย/ประชาชน 1. Heinrich Himmler
ฮิตเลอร์เป็นผู้นำเยอรมันนีก็จริง แต่ Himmler คือ ผู้บัญชาการ หน่วยทหาร SS และ Gestapo (สายลับ) การควบคุมสั่งการทั้งสองหน่วยงาน ทำให้มีผลกับนักโทษ/เชลยเยอรมันนี ตายมากกว่าจำนวนกว่า 10 ล้านคน
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง Himmler ถูกจับขึ้นศาลอาชญากร อยู่ภายใต้การควบคุมของอังกฤษ แต่ชิงฆ่าตัวตายก่อนที่จะมีการตัดสินคดี หลังตายไม่มีใครมานับญาติด้วย (เพราะกลัวติดร่างแหไปด้วย)
Credit : Keystone-france/Gamma-Keystone/Getty Images
2. Nero
แม้ว่านักวิชาการบางคนจะตั้งคำถามว่า ตำนานเรื่องความโหดร้ายของ Nero เป็นเรื่องจริงหรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องราวความบ้าคลั่งของจักรพรรดิ์โรมันรายนี้ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั่งสีซอในขณะที่มีการเผากรุงโรม แต่เรื่องเลวร้ายที่สุดน่าจะมาจากตำนาน Tacitus เรื่อง Nero จับคนนับถือศาสนาคริสต์ จุ่มตัวลงในน้ำมันแล้วจุดเป็นตะเกียงแสงสว่างยามค่ำคืน
Credit : Alberto Pizzoli/AFP/Getty Images 3. Pope Gregory IX
แม้ว่า Pope Gregory IX จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับ ศาลศาสนาที่สืบสวนสอบสวนคนที่ต่อต้านศาสนาคริสต์ (ถ้าตัดสินว่ามีความผิดจะถูกลงโทษด้วยการเผาทั้งเป็น) แม้ว่าจะได้พยายามที่จะหยุดยั้งและป้องกัน การตายและการสูญเสียของชีวิตชาวบ้านในเรื่องนี้ แต่ก็มีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลวในเรื่องนี้
เพราะผลการกระจายอำนาจศาลศาสนาในปี 1184 มักจะเกิดจิตวิทยาฝูงชนที่บ้าคลั่ง/หรือทัศคติเล่นพรรรคเล่นพวก ทำให้มีการทรมานและฆ่าคนที่ถูกกล่าวหาจำนวนมาก
หลังจากปี 1231 Gregory ได้ดำรงตำแหน่งพระสันตปาปา ได้ออกโองการ(คำสั่งทางกฎหมาย) ให้อำนาจดังกล่าวนี้ กลับมารวมศูนย์ไว้ที่วาติกันเพื่อการกำกับและดูแล รวมทั้งห้ามการใช้ความรุนแรงกับผู้ถูกกล่าวหา ระยะแรกก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ผลจากการที่มีโครงสร้างรวมศูนย์ ยิ่งทำให้มีการนองเลือดมากขึ้นกว่าเดิม (เพราะมีขอบเขตอำนาจมากกว่าเดิม) Gregory จึงเป็นคนที่วางรากฐานวิธีการ จัดการคนต่อต้านศาสนาคริสต์ได้อย่างโหดร้าย จนกระทั่ง Pope Innocent IV มีคำสั่ง ให้ยกเลิกศาลศาสนาในปี 1252
Credit : Wikimedia Commons
4. Caligula (Gaius)
Gaius หรือ Caligula จักรพรรดิโรมัน แม้จะครองอำนาจเพียงช่วงสั้น ๆ ในประวัติศาสตร์ แต่ได้สร้างเรื่องราวที่เป็นตำนานเล่าขานกันมากมายว่า เป็นพวกบ้ากามซาดิสท์ พวกบ้ากามวิตถาร ทรราชย์ที่บ้าคลั่งกระหายเลือดอย่างแรงส์ส์ เลยได้ชื่อว่าเป็นจักรพรรดิ์รายแรกของโรมที่ถูกลอบสังหาร
Credit : Mondadori/Mondadori/Getty Images
5. Ferdinand And Isabell
เพราะมีความรู้สึกว่าตกอยู่ภายใต้การบงการ เรื่องศาลศาสนาของพระสันตปาปา ที่สั่งการโดยตรงจากกรุงโรม ในการใช้อำนาจศาสนาครอบงำยุโรปในช่วงนั้น ทำให้กษัตริย์สเปญ Ferdinand กับ Isabell สร้างวิธีการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดี คนที่ต่อต้านศาสนาคริสต์ในแบบฉบับสเปญ โดยการตั้งสำนักงานศาลศาสนาแห่งสเปญ แม้ว่าการสืบสวนสอบสวนจะมีความรัดกุมรอบคอบกว่าเดิม แต่ก็ยังมีคนตายเพราะเรื่องนี้ประมาณ 3,000 - 5,000 คน ตามประมาณการของนักวิชาการ เชื่อว่าตัวเลขผู้ตายนี้พอ ๆ กับประเทศอื่น ๆ ในยุโรป
Credit : Afp/AFP/Getty Images
6. Attila The Hun
แม้ว่าจะไม่มีภาพที่แท้จริงของ Attila แต่กองทัพที่มีเชื้อสายของพวกฮั่น Huns (เผ่าพันธุ์กลุ่มหนึ่งของพวกมองโกล ที่ครอบครองยุโรปตะวันออกมาช่วงหนึ่ง จะเห็นพวกฝรั่งตาชั้นเดียวในแถวยุโรปตะวันออก มีเห็นบางส่วนในฮังการี รัสเซีย) นักวิชาการส่วนมากยอมรับว่า Attila เป็นพวกคนเชื้อสายเอเชียตะวันออก ผลงานมหาโหดของมหาโจรรายนี้คือ ไม่มีใครรอดชีวิตกับการเผชิญหน้ากับ Attila เพราะ Attila มีเลือดบ้ามากมีความสุขกับการทำสงคราม ภาพดังกล่าวเขียนขึ้นโดย Mór Than's ในปี 1870
Credit : Mór Than/Wikimedia Commons
7. Maximilien Robespierre
นักกฎหมาย นักการเมือง และผู้นำการปฏิวัติฝรั่งเศส Robespierre เจ้าแห่งวาทะกรรมและผลงานที่เลวร้ายสุด ๆ ในช่วงยุคสมัยแห่งความเงียบสงัด (ทุกคนต่างกลัวตายถ้วนทั่วหน้า) เพราะฝรั่งเศสมีศึกสองด้านทั้งสงครามกลางเมืองกับสงครามกับต่างชาติ ทำให้ต้องรวบอำนาจทั้งหมดมารวมที่ศูนย์กลางภายใต้คณะกรรมการปฏิวัติ แล้วคณะกรรมการชุดนี้ต่างสร้างความสยดสยอง ด้วยการใช้กฎหมายเป็นอาวุธขจัดฝ่ายตรงข้าม ด้วยการตัดสินประหารชีวิตด้วยกิโยติน
แม้ว่า Robespierre จะไม่ได้สั่งฆ่าใครโดยตรง แต่ถ้อยคำและข้อกล่าวหาจากปากของสารเลวผู้นี้ มักชี้นำให้สมุนบริวารจัดการฝ่ายตรงข้ามด้วยกิโยติน สุดท้ายสารเลวรายนี้ถูกพรรคพวกที่กลัวว่า จะกล่าวหาว่าเป็นปฎิปักษ์กับรัฐฝรั่งเศส(ฝ่ายต่อต้าน) รวมหัวกันก่อการรัฐประหารแล้วจัดการตัดหัว Robespierre ด้วยกิโยตีน
Credit : Keystone-france/Gamma-Keystone/Getty Images
ส่วนเพื่อนชั่วแก้งค์โหดคณะกรรมการปฏิวัติอีกราย Jean Paul Marat ถูกลอบสังหารโดยหญิงชาวบ้าน (Charlotte Corday) Marie-Anne Charlotte de Corday d'Armont ในปี 1793 สตรีชาวบ้านแทงตายขณะที่ Marat นอนแช่ในอ่างน้ำ Corday เองก็ถูกประหารด้วยกิโยติน เธอให้การในชั้นศาลต่อหน้า Maximilien Robespierre ว่า ฆ่าคนชั่ว 1 คนทำให้คน 100,000 คนรอดชีวิต (เหมือนกับนิยายกำลังภายในที่ชอบพูดว่า กำจัดมารพิทักษ์ธรรม ฆ่าคนชั่ว 1 คนช่วยคนดีรอดตายนับ 1,000 คน อาตมายินยอมลงนรกพร้อมกับเจ้า ส่วนมากมักจะเป็นพระวัดเส้าหลิน) ตามตำนานเล่าว่าเธอไม่หวาดกลัวกับการตาย เดินเข้าหลักประหารด้วยตนเองท่ามกลางเสียงตบมือให้เกียรติของชาวบ้าน ผลงานของ Corday ตามมาด้วยการตามล้างตามเช็ดสมุนบริวารแก้งค์นี้ ฝรั่งเศสจึงพอสงบลงจากโชกเลือดได้ชั่วคราว
Marat ถูกแทงด้วยมีดโดย Corday
Jean Paul Marat นอนตายในอ่างน้ำ
ภาพจำลองการให้การต่อสู้เธอกับฝูงหมาป่า (คณะกรรมการปฏิวัติ)
ภาพวาดตอนที่เธอเดินไปขึ้นหลักประหารชีวิต
อนุสรณ์สถานบ้านเกิดของเธอ
8. Genghis Khan
ตำนานมหาโจรที่เล่าขานในประเทศจีนและเอเซียอาคเนย์ ที่นักประวัติศาสตร์บางรายยกย่องว่าคือ ผู้สร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่และเผยแพร่วัฒนธรรมที่กว้างไกล แต่ในบริบทของโลกชาวอาหรับ มหาโจรรายนี้คือ อสูรกระหายเลือด ปลิ้นปล้อนหลอกลวง จอมโหดชอบฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ มีการประมาณการจากนักวิชาการโลกอาหรับว่า Genghis Khan ได้สั่งฆ่าผู้คนเขตที่ราบสูงอิหร่าน เป็นจำนวนมากระหว่าง 10 ถึง 15 ล้านคน ทำให้ประชากรแถบนี้มีน้อยมากและบรรบาง กว่าจะเพิ่มจำนวนคนได้ถึงระดับนี้ ต้องใช้เวลาจนถึงต้นศตวรรษที่ 20
Credit : Frederic J. Brown/AFP/Getty Images
9. Muammar Gaddafi
Gaddafi อดีตผู้นำลิเบียที่ถูกประชาทัณฑ์จนตาย ในตอนแรกเป็นคนดีแต่ภายหลังกลายเป็นคนเลว คือผู้นำความทันสมัยอย่างมากให้กับประเทศ หลังจากที่เข้ามากุมอำนาจในปี 1969 ได้มีการปรับปรุงประเทศนำไปสู่การพัฒนา และให้การสนับสนุนกิจกรรมองค์กการ pan-Agrican มีผลผลักดันให้ลิเบียเป็นแกนนำองค์กรนี้
แต่น่าเสียดายในภายหลัง มีการวิจารณ์และกล่าวหาว่าปกครองแบบเผด็จการ มีการทรมานนักโทษและการละเมิดสิทธิมนุษยชน มีการข่มขืนนักโทษหญิงฝ่ายต่อต้านจำนวนมากจากพลพรรคในสังกัด แม้ว่าจะมีการสอบสวนจากองค์กรระหว่างประเทศ ในระหว่างและหลังการรัฐประหาร 2011 ที่โลกตะวันตกสนับสนุนฝ่ายกบฎ แต่สุดท้ายในตอนนี้ คุกตะราง การสังหารหมู่ และการละเมิดสิทธิมนุษยชน รากเง่าดั้งเดิมของอำนาจเผด็จการยังคงอยู่ในประเทศนี้ (เพราะแตกแยกเป็นหลายภาค มีขุนศึกครองเมืองแต่ละเมือง)
Credit : Epsilon/Getty Images News/Getty Images
10. Ayatollah Ruhollah Khomeini
Khomeini ผู้นำสูงสุดคนแรกของอิหร่านช่วงปี 1979 ถึง 1989 Khomeini รวมหัวชาวบ้านขับไล่จักรพรรดิ์ Shah แห่งอิหร่าน จนระหกระเหินไปเสียชีวิตที่สหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นเริ่มต้นการสถาปนารัฐอิสลาม ความเลวร้ายที่ตามมาคือ การไร้สิทธิ์ไร้เสียงของ สตรี ชนกลุ่มน้อย คนที่ไม่นับถือศาสนาอิสลาม จะได้รับการปฏิบัติที่เลวร้ายด้อยกว่าคนทั่วไป(เพศชาย) ภายใต้การปกครองที่ยึดมั่นศรัทธาพระเจ้าองค์เดียว รวมทั้งมีส่วนสนับสนุนวิกฤติจับตัวประกันชาวอเมริกัน ในปี 1988 มีการประหารนักโทษการเมือง จำนวนคนตายเชื่อว่าอยู่ระหว่าง 1,400 ถึง 30,000 คน
Credit : Gabriel Duval/AFP/Getty Images 11. Saddam Hussein
แม้ว่า Saddam Hussein ผู้นำอิรัคจะไม่ได้ครอบครองอาวุธร้ายแรง ตามข้อกล่าวหาและการหาเรื่องเข้าไปตรวจสอบอาวุธจากสหรัฐอเมริกา แต่ผลจากการบุกยึดอิรัคและตามล่าจับกุมอดีตประธานาธิบดีในปี 2003 ทำให้มีการเปิดเผยว่าภายใต้การปกครองที่ยาวนานถึง 20 ปี มีผลงานการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชนเผ่า Kurds, Shabaks, Yazidis, Assyrians, และ Mandeans ในปี 2007 New York Times ตั้งข้อสังเกตว่า ภายใต้การปกครองของ Hussein เชื่อได้ว่า มีส่วนในการสั่งฆ่าคนตายมากกว่า 1 ล้านคน
Credit : Pool/Getty Images News/Getty Images
12. Leopold II Of Belgium
ทุกวันนี้เบลเยี่ยมเป็นเมืองน่าท่องเที่ยว เมืองแห่งชอคโกแลต แต่ในยุคการครองราชย์ของ Leopold ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ชาตินี้กลับมีสันดานชั่วร้ายผิดแปลกยิ่งกว่าชาติอื่น ๆ มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความทารุณโหดร้ายต่อชาวพื้นเมืองอัฟริกา นักประวัติศาสตร์ยุคใหม่ตั้งข้อสังเกตว่า คำสั่งของ Leopold ในเรื่อง "Congo Free State" คือ ค่ายกักกันแรงงาน ที่มีผลนำไปสู่ความตายของผู้คนมากกว่า 10 ล้านคน
Credit : Wikimedia Commons
13. Mao Zedong
แม้ว่าจะมีผลงานที่น่ายกย่องคือ การรวบรวมประเทศจีน ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทำให้ยุติสงครามกลางเมือง จากบรรดาเหล่าขุนศึกมลรัฐต่าง ๆ ที่แย่งชิงกันเป็นใหญ่ บรรดาสตรี ชนกลุ่มน้อย พวกสอพลอ เรียกท่านว่า ประธานเหมา
แต่อย่าลืมความตายของคนจีนนับได้มากกว่า 10 ล้านคน จากนโยบายบ้า ๆ บอ ๆ ของท่านประธานกับภริยาเจียงชิง ภายใต้การปกครองเผด็จการที่ยาวนานถึง 27 ปี มากกว่าผู้นำทางการเมืองชาติอื่น ๆ ในยุคศตวรรษที่ 21
หมายเหตุ ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมของเหมา มีการกล่าวหาและประนามพ่อแม่ตนเอง นี่คือผลงานจิตวิทยาที่ชั่วร้ายมาก เพราะการทำให้เยาวชนจีนจำนวนมาก ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ครูบาอาจารย์แล้ว ก็ต้องหันมาเชื่อฟังพรรคคอมมิวนิสต์ นำไปสู่การทำลายล้าง/ทำลายศาสนาวัตถุ ทุบตีพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ด้วยข้อหาเอียงขวาเป็นพวกปฏิกิริยาต่อพรรค ฯ นี่คือ คำประนามหยามเหยียดของนักวิชาการจีนรุ่นใหม่
Credit : -/AFP/Getty Images
14. Pol Pot
นักปฏิว้ติผู้เลื่อมใสลัทธิคอมมิวนิสต์ พอลพต ผู้นำองค์กรสูงสุดของกัมพูชา เปิดฉากเข่นฆ่าชาวบ้านจำนวนมาก แล้วบังคับชาวบ้านไปใช้แรงงานในชนบท มีผลทำให้ชาวบ้านตายมากกว่า 1 - 3 ล้านคน พอลพลได้หลบหนีมาแถวชายแดนไทยในปี 1979 คาดว่าฆ่าตัวตายเองในปี 1988 แต่มีข่าวลือว่าถูกวางยาพิษ
หมายเหตุ
คนเขมรด่าพอลพตว่า มันตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จเก่ง
นวลเจีย ผู้นำหมายเลขสองเป็นคนสยาม ในเขตเสียมราษฏร์พระตะบองศรีโสภณ รัฐไทยเดิม จบการศึกษารุ่น 5 มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ช่วงหลบหนีมาแถวชายแดนไทย ได้รับความช่วยเหลือจากบรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่รุ่น 5 หลายครั้งหลายครา ในเรื่องการรักษาพยาบาลและการดำรงชีพ
Credit : Prasit Sangrungrueng/AFP/Getty Images
15. Idi Amin Dada
ประธานาธิบดีอูกันด้า เจ้าของอภิมหาตำแหน่งมากมาย แต่ที่ชอบมากที่สุดคือ พ่อแห่งชาติอูกันดา เถลิงอำนาจตั้งแต่ปี 1971 ถึง 1979 การรัฐประหารเต็มไปด้วยความรุนแรงความทารุณโหดร้าย แม้ว่าอดีตพ่อแห่งชาติจะรอดชีวิตจากการถูกรัฐประหาร แต่ถูกเนรเทศไร้แผ่นดินจนตายในประเทศซาอุดีอารเบียในปี 2003 แต่มรดกเลือดสมัยยังมีอำนาจอยู่คือ อำนาจทหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชน และความตายชาวบ้านมากว่า 500,000 คน ตามรายงานขององค์กรสิทธิมนุษยชน Amnesty International
Credit : -/AFP/Getty Images
16. Ivan IV
Ivan ผู้โหดร้าย มีชื่อเสียงโด่งดัง เรื่องความบ้าเลือดกับความบ้าคลั่งมาก ผลพวงจากความต้องรวบรวมอาณาจักรรัสเซีย จากชนเผ่ากลุ่มต่าง ๆ ที่หลากหลายเชื้อชาติ รวมทั้งจิตใจอารมณ์ที่คุ้มดีคุ้มร้ายผีเข้าผีออกของ Ivan จึงนำไปสู่การฆ่าฟันคนจำนวนหลายพันคน แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า จะมีการขับไล่คนออกจากเมือง Novgorod ทำให้มีคนตายมากกว่า 3,000 คน แต่ยังมีพฤติกรรมบ้าบอคอแตกอื่น ๆ เพราะ Ivan ฆ่าลูกชายของตนเอง และบรรดาทายาทสายเลือดตนเองด้วย
Credit : Wikipmedia Commons
เรียบเรียง/ที่มา
หมายเหตุ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
Create Date : 20 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 24 มกราคม 2558 22:53:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2225 Pageviews. |
|
|