ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
15 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 

ลูกศรคอนกรีตขนาดยักษ์ชี้ไปทิศตะวันตกในสหรัฐ





ตามเส้นทางตอนกลางของสหรัฐ
มักจะพบเห็นลูกศรคอนกรีตขนาดยักษ์
ทิ้งร้างอยู่เป็นแนวเกือบเป็นเส้นตรง
หัวลูกศรชี้ไปทางทิศตะวันตกทั้งหมด
สามารถพบเห็นได้ตามเส้นทาง
จากตะวันออกจรดตะวันตก






เรื่องราวลูกศรคอนกรีตมีที่มายาวนาน
ในยุคแรกที่มีกิจการไปรษณีย์ด่วน
จากทางทิศตะวันออกเมืองนิวยอร์ค
ไปจรดทิศตะวันตกเมืองซานฟรานซิสโก






ในยุคที่ระบบวิทยุโทรเลขยังไม่ทันสมัย
ยังไม่มี Internet GPSใช้งานเหมือนทุกวันนี้
ต้องใช้คนขับขี่ม้าหรือใช้รถม้า
ขนส่งข้าวของ/เอกสารข้ามประเทศ
พร้อมกับการดูเข็มทิศหรือแผนที่
หรือสังเกตทิศทางจากดวงดาวดวงตะวัน
ถ้าเกิดหลงทางขึ้นมาจะเสียเวลามาก
หรืออาจจะตายกลางทะเลทรายได้ในบางแห่ง




การเดินทาง/ไปรษณีย์ในยุคนั้น
จึงต้องกำหนดจุดพักระหว่างทาง
เพื่อเป็นจุดพักแรมของผู้คน
หรือพนักงานขนส่งสินค้าจะได้แวะพัก
ผลัดเปลี่ยนม้าหรือผลัดเวรขนส่งต่อไป






ต่อมา เมื่อเริ่มมีการใช้เรือบินทหารมากขึ้น
รัฐบาลสหรัฐจึงได้ใช้ประโยชน์จากแนวขนส่งเดิม
ในปี 1924 จึงมีการสร้างลูกศรคอนกรีตขนาดใหญ่
ยาวประมาณ 50-70 ฟุตชี้ไปทางตะวันตก
พร้อมกับหอคอยติดตั้งไฟนำทาง
ใช้น้ำมันจุดไฟตะเกียงให้แสงสว่าง
ติดตั้งตามแนวเส้นทางนี้
แสงไฟนำทางจากหอคอยแต่ละจุด
สามารถมองเห็นได้จากที่ไกลถึง 10-15 ไมล์(16.09-24.14 กิโลเมตร)
ตามทำเลที่ตั้งที่เป็นที่ราบหรือพื้นที่สูง
ตามแนวเส้นลองติจูดจากตะวันออกจรดตะวันตก






เส้นทางนี้มีการใช้ประโยชน์มาก
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กับ 2
มีการขนส่งเสบียงอาหารยุทโธปกรณ์
และเอกสารด้วยทางเรือบินตามเส้นทางนี้มาก
นักบินจะขับเรือบินไปตามแนวเส้นทางนี้
ยิ่งในยามค่ำคืนจะสามารถบินได้โดยไม่หลงทาง






ในยุคที่ยังไม่มีเรดาห์  วิทยุการบิน GPS เหมือนทุกวันนี้
ถ้าเกิดหลงทางแล้วเจอลูกศรขนาดยักษ์นี้
หรือเห็นไฟนำทางบนหอคอยแล้ว
ผู้คนที่ใช้เส้นทางนี้จะสามารถคลำทาง
เพื่อออกเดินทางต่อไปได้อีก
แม้ในทุกวันนี้คนที่หลงทางกลางทะเลทราย
ถ้าพบลูกศรนี้ก็แสดงว่าพอมีทางรอดแล้ว






ต่อมาเมื่อวิทยุการบินมีการพัฒนาดีขึ้นกว่าเดิม
ความจำเป็นในการใช้หอคอยไฟแสงสว่างนำทางและลูกศรคอนกรีต
จึงค่อย ๆ หมดความจำเป็นไปในที่สุด
จึงถูกปล่อยทิ้งร้างและถูกวัชชพืชปกคลุม
เสื่อมสภาพสลักหักพังเสื่อมสลายไปตามธรรมชาติ
เพิ่งจะมีการสร้างทดแทนจำลองแบบเดิมในนิวเม็กซิโก






เรียบเรียง/ที่มา


หมายเหตุ
การใช้เส้นทางเดินเก่าเป็นแนวนำทาง
เมืองไทยมีสมัยพระยารัษฏานุประดิษฐ์ (คอซิมบี๋)
ที่นำยางพารามาปลูกเป็นทางการรายแรกในไทย
อดีตเจ้าเมืองตรัง  สมัยยังต้องส่งส่วยสาภาษีอากรให้เมืองหลวง
ตอนสร้างถนนเขาพับผ้าตัดจากตรังไปพัทลุง
เพราะเมืองพัทลุงปลูกข้าวมาก 
ส่วนเมืองตรังขาดแคลนข้าว
กับการคมนาคมติดต่อไปมาหาสู่กันยาก
ท่านใช้วิธีการให้นำโจรเก่าหรือโจรร้าย
นำทางหนีทีไล่ในการหลบหลีกตำรวจในป่าเขา
บนทางเดินโจรที่ตัดเส้นทางระหว่างตรังกับพัทลุง
แล้วทำเป็นแนวตัดถนนบนเส้นทางนี้
สมัยนั้นยังไม่มีระเบิดเวลาเจอหินก้อนใหญ่ ๆ
จะใช้ไม้ฟืนจุดไฟเผาแล้วเอาน้ำเย็นราด
ให้ก้อนหินแตกออกมาเป็นเสี่ยง ๆ
แล้วค่อยใช้คนใช้ช้างลากทิ้งไป

สุดท้ายท่านตายกับกระสุนปืน
ที่มีการยิงผิดคนแต่ถูกตัวท่าน
ตอนอยู่ที่ท่าเรือกันตัง(ถ้าจำไม่ผิด)
เพราะคนรอบข้างของท่านเองไปก่อเหตุ
กล่าวคือ หมอที่ยิงถูกตัวท่าน
กล่าวหาว่าน้องชายท่าน
ไปเป็นชู้กับภริยา
หมอจึงมาดักยิงน้องชายท่าน
แต่ยิงผิดคนแต่ถูกตัวท่าน
ทำให้ต้องนอนเจ็บอยู่เกือบอาทิตย์
ก่อนตายเพราะพิษบาดแผล  
ส่วนหมอที่ยิงท่านศาลตัดสินให้ปล่อยตัวจำเลยไป
พบกับท่านที่ปรโลกต่อไปด้วยการประหารชีวิต




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2557
0 comments
Last Update : 24 มกราคม 2558 22:51:35 น.
Counter : 1387 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.