40 ปีของโทรศัพท์มือถือ
" เราอยากจะสาธิตเรื่องที่น่าประหลาดใจ "
Martin ' Marty ' Cooper ยืนอยู่ด้านนอกโรงแรม Manhattan Hilton
พร้อมกับถือวัตถุที่ในมือซึ่งในเวลานั้นมีขนาดเทียบเท่ากับรองเท้าบูตของเด็ก ๆ
" ผมมีเครื่องนี้พร้อมกับปุ่มกด และผมจะพูดคุย(ทางโทรศัพท์)ได้ "
เขายังจำได้ว่าบรรดาฝูงชนต่างมาห้อมล้อมรอบ ๆ ตัวเขา
บนถนนสายที่หก Sixth Avenue ในมหานครนิวยอร์ค
ผู้คนต่างจ้องมองเขาด้วยความสงสัย
ในขณะที่เขาสาธิตให้เห็นถึงวิธีการโทรศัพท์ได้บนทางเท้า
ที่ไม่มีตู้โทรศัพท์และไม่มีสายโทรศัพท์
ภาพการใช้โทรศัพท์มือถือครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ที่มาของภาพ //propakistani.pk/wp-content/uploads/2013/04/Martin-Cooper.jpg
ตอนนั้น Martin Cooper ยังเป็นหัวหน้าทีมวิจัยพัฒนาการใช้งานแบบไร้สาย
ของฝ่ายระบบการสื่อสาร บริษัท โมโตโรล่า
ในขณะที่กำลังเดินใช้โทรศัพท์มือถืออยู่บนทางเท้าของมหานครนิวยอร์ค
และเ็ป็นการใช้งานโทรศัพท์มือถือครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ในตอนปลายปี 1972 (ตามข้อมูลของผู้ออกแบบ)
Martin Cooper ได้ให้ทีมนักออกแบบลงมือออกแบบโทรศัพท์มือถือ
แล้วได้แบบที่ร่างมาจำนวนห้าแบบ แต่เขาเลือกแบบล่างสุดนี้
ที่มาของภาพ //www.nytimes.com/2013/03/17/magazine/who-made-that-cellphone.html
จากช่วงเวลานั้นเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 1973 (2516)
Martin Cooper ได้ใช้สิ่งที่กลายเป็นโทรศัพท์มือถือ DynaTAC ในเวลาต่อมา
โทรศัพท์มือถือของพวกเราทุกคนในตอนนี้
ได้เปลี่ยนแปลงสภาพจากเดิมที่เหมือนแท่งอิฐก้อนเทอะทะ/อุ้ยอ้าย
กลายเป็นสภาพหรูหรา สีเงินวาววับเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี
แล้วในตอนนี้กลายเป็นแฟชั่นที่หลากหลายจำนวนมากมาย
มีทั้งเป็นโทรศัพท์ลูกผสมกับแท็บแล็บ เช่น Galaxy Note
(ฝาแฝดคนที่สามของ เขาค้อ เขาทราย เป็นคนเกาหลีชื่อ ซัมซุง กาแลคซี่ - ขำขัน)
โทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้ในรถยนต์เทียบอดีตกับปัจจุบัน
ที่มาของภาพ //www.mobilegazette.com/motorola-4500x.htm
ด้วยการเดินบนถนนเส้นทางสายนั้น
เขาได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง
" เรารู้ดีว่าสักวันหนึ่งทุกคนจะมีโทรศัพท์มือถือใช้
แต่ก็ยากที่จะจินตนาการว่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วงชีวิตของผม
ในตอนนี้คาดว่ามีโทรศัพท์มือถือเกือบห้าพันล้านเครื่องทั่วโลก ว้าว "
Martin Cooper ให้สัมภาษณ์กับ CNN เมื่อปีที่แล้ว
โทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นกระติกน้ำแข็ง
ที่มาของภาพและรายละเอียดเพิ่มเติม //www.koratsound.com/home/index.php?topic=6431.0
Martin Cooper กับทีมงานกำลังแข่งขันกันสร้างโทรศัพท์มือถือ
แข่งกับทีมวิจัยพัฒนา Bell Labs บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์ AT & T
ทีมงาน Martin Cooper ต่างต้องทำงานกันอย่างหนักประมาณสามเดือน
จึงได้รูปแบบโทรศัพท์มือถือที่ Martin Cooper เลือกใช้งาน
ในการเดินออกไปที่ท้องถนนพร้อมกับใช้งานโทรศัพท์มือถือ
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 1973(2516)
วิวัฒนาการโทรศัพท์มือถือ
ที่มาของภาพ //www.dreamsrain.com/images/2011/06/Mobile_phone_evolution.jpg
คนที่้ Martin Cooper พูดคุยด้วยครั้งแรกคือ
Joel Stanley Engell
หัวหน้าทีมวิจัยพัฒนา Bell Labs ที่บริษัท AT & T
ที่มาของภาพ //web.mit.edu/invent/iow/freneng.html
ผมโทรไปหาเขาแล้วพูดว่า
" Joel นี่ผม Marty โทรมาจากโทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือจริง แบบใช้มือถือ แบบพกพาได้ โทรศัพท์มือถือจริง ๆ "
แล้วในตอนนั้นที่ผมจำได้คือ
คู่แข่งที่เป็นเพื่อนผมปกติเป็นคนช่างพูดอยู่แล้ว
" ผมจำไม่ได้ว่าเขาพูดอะไรบ้าง
แต่มันช่างเป็นช่วงเวลาที่เงียบจริง ๆ ในตอนนั้น
ผมคาดเดาว่า ในตอนนั้นเขากำลังกัดกรามฟันเขาอยู่
ปกติเขาเป็นคนสุภาพมาก แล้วเขาจบการรับสาย
ต่อมาเมื่อผมถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้
เขาบอกว่าเขาจำไม่ได้แล้วในช่วงเวลานั้น "
Martin Cooper เล่าถึงความหลัง
หลังจากจบการแสดงสาธิตในวันนั้น
Martin Cooper ได้พบกับผู้สื่อข่าวในห้องประชุมโรงแรม Manhattan Hilton
โทรศัพท์มือถือครั้งแรกมีน้ำหนักมากกว่าสองปอนด์(เกือบหนึ่งกิโลกรัม)
ได้สร้างความสนใจอย่างล้นหลามจากเหตุการณ์ด้านนอกโรงแรมแล้ว
แต่ถึงกระนั้นมันคือชัยชนะทางด้านวิศวกรรม
เพื่อพิสูจน์ว่าโทรศัพท์มือถือไม่ได้เป็นของหลอกลวง
เขาจึงยื่นมันไปรอบ ๆ ผู้สื่อข่าว
จนกระทั่งนักข่าวสาวคนหนึ่ง
ขอใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อโทรกลับไปประเทศออสเตรเลีย
แล้วเธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้ยินเสียงแม่เธอ
ดังออกมาจากเครื่องพลาสติกที่หุ้มห่ออุปกรณ์ภายใน
แต่มันต้องใช้เวลาถึง 10 ปีสำหรับโทรศัพท์รุ่น Motorola DynaTAC 8000X
DynaTac (Dynamic Adaptive Total Area Coverage)
ด้วยน้ำหนักเพียง 28 ออนซ์ (794 กรัม) ก่อนจะขายให้กับลูกค้าได้ในปี 1984 (2527)
โดยได้รับอนุญาตจาก U.S. Federal Communications Commission
(คณะกรรมการกำกับกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ)
ในวันที่ 21 สิงหาคม 1983 (2526)
(หมายเหตุ หลังจากรับใบอนุญาตแล้ว ต้องพัฒนาระบบวางเครือข่าย เสารับส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
โครงสร้างพื้นฐาน วิเคราะห์จุดคุ้มทุน รายได้ กำไรขาดทุนจากการให้บริการโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ อีกเกือบหนึ่งปี)
การทำตลาดครั้งแรกขายที่ราคา 3,995 เหรียญสหรัฐ(119,850.-บาท) เครื่องยาวประมาณหนึ่งฟุต
เมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone 5 ปัจจุบันที่มีน้ำหนักไม่เกิน 4 ออนซ์ ยาวน้อยกว่า 5 นิ้ว (จากบนถึงล่าง)
รุ่น 16 GB ราคาขายเริ่มต้นที่ 199 เหรียญสหรัฐ (5,970.-บาท)
ที่มา //store.apple.com/us/buy/home/shop_iphone/family/iphone5?product=IPHONE5
Martin Cooper ตอนนี้วัย 84 ปีแล้ว
แต่เรื่องที่สำคัญคือ การสร้างสรรค์กับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
จนเป็นความก้าวล้ำนำหน้าจากงานวิจัยที่เขาได้มีส่วนในการสร้างมันขึ้นมา
" ผมจำต้องบอกพวกคุณว่า พวกเราต่างเป็นนักฝันมากที่สุดเท่าที่จะฝันได้
แต่พวกเราไม่เคยคิดฝันเลยว่า สิ่งเหล่านี้จะสามารถหลอมรวมเป็นสิ่งใหม่ขึ้นมาได้อีก
และผมยังไม่แน่ใจจริง ๆ ว่า เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ
โทรศัพท์ตอนนี้มีความสลับซับซ้อน ยุ่งยากกับการใช้งาน
จนไม่แน่ใจว่ามันออกแบบสร้างขึ้นสำหรับคนทั่วไปจริง ๆ
หรือออกแบบสำหรับพวกวิศวกรกันแน่ "
ที่มาของภาพ //techpinions.com/marty-coopers-billion-dollar-spectrum-contest-idea/12962
" ถ้าผมมีเวทย์มนตร์ เรื่องราวเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา และเป็นเรื่องทั่วไป
และจะมีการใช้งานโทรศัพท์มือถือกันอย่างแท้จริง
ขณะที่กำลังทำงานกับโทรศัพท์ในรถยนต์
พร้อมกับคิดว่า ผู้คนในโลกจะพกพาโทรศัพท์มือถือติดตัวพวกเขา "
และเขาชอบพูดติดตลกว่า
" เมื่อคุณคลอดแล้ว คุณจะถูกกำหนดพร้อมด้วยหมายเลขโทรศัพท์
แนวคิดเรื่องนี้เป็นเรื่องของอนาคตสำหรับในปี 1960 (2503)
เพราะแบตเตอรี่โทรศัพท์รถยนต์ในตอนนั้นหนักถึง 30 ปอนด์ (75 กิโลกรัม)
แต่ในต้นปี 1970(2517) อิเล็กทรอนิกส์ทำให้มีการพัฒนา
สามารถใช้กับแบตเตอรี่ขนาดเล็กลง และชิ้นส่วนมีขนาดเล็กมาก
จนสามารถพกพาโทรศัพท์ได้ "
หลัีงจากนั้น ต้องใช้เวลาถึงสิบปีก่อนจึงจะสามารถใช้/ซื้อโทรศัพท์มือถือได้
ซึ่งมันได้กลายเป็นอัตลักษณ์ส่วนหนึ่งของคนวัยหนุ่มสาวในยุคนั้น
Michael Kirk Douglas แสดงเป็น Gordon Gekko
จาก //en.wikipedia.org/wiki/Gordon_Gekko
ในปี 1987 (2530) ภาพยนตร์เรื่อง Wall Street
ขณะที่ Gordon Gekko กำลังเดินเล่นบนชายหาดช่วงที่ดวงตะวันกำลังฉายแสง
แล้วพูดกับโทรศัพท์มือถือขนาดเท่าก้อนอิฐว่า นี่โทรศัพท์ปลุกตอนเช้า เพื่อน "
แต่ในตอนนี้ ทุกคนต่างสามารถใช้โทรศัพท์มือถือทำหน้าที่นาฬิกาปลุกได้เช่นกัน
ที่มาของภาพ //www.thegloss.com/2013/02/27/sex-and-dating/wed-bed-dead-fictional-millionaires/
ไม่ว่าพวกคุณจะขอบคุณหรือตำหนิพวกเขา
(เพราะการใช้โทรศัพท์มือถือของลูกหลาน
การมีข้อความหรือภาพหลุดต่าง ๆ นานา
การหลอกลวงต้มตุ๋นจากแกงค์ Call Center
หรือผู้ให้บริการที่เอารัดเอาเปรียบต่าง ๆ นานา)
แต่ในตอนนี้ พวกเราทุกคนยังไม่เคยหยุดพูด หรือ
หยุดส่งข้อความ หรือ หยุด Twitter, Intragram, Facebook
หลังจากได้ใช้โทรศัพท์มือถือกันแล้ว
Alex 'Sandy' Pentland
ที่มาของภาพ //www.indialogues.in/Dspeakers_AlexPentland.htm
Alex 'Sandy' Pentland ผู้อำนวยการ Human Dynamics Lab ที่ MIT
ได้ศึกษาข้อมูลโทรศัพท์มือถือเพื่อค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์
โดยใช้ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือติดตามการเคลื่อนไหวของคน
การโทรศัพท์ ข้อความต่าง ๆ รูปภาพ ที่มีอยู่ในเครื่อง
จะสามารถเปิดเผยเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคนเราได้มาก
ถ้าอยากจะรู้อะไรเกี่ยวกับตัวคุณเอง
ให้ศึกษาข้อมูลตัวคุณเองจากโทรศัพท์มือถือ
เรื่องนี้ผมคาดเดาได้มาก
คนเรามักจะให้ความสนใจเฉพาะสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิต
ในขณะเดียวกันเรามักจะมีนิสัยจะมองไม่เห็นตัวตนของตนเอง
คุณอาจบอกว่าคุณไม่ชอบไปกินอาหารที่ Tex-Mex
แต่ถ้าพบคุณได้เสมอที่ร้านอาหาร Tex-Mex
ผมต้องไม่เห็นด้วยกับคำพูดแบบนี้
หากคุณกำลังดูข้อมูลมือถือของผม คุณสามารถจะทำนายได้ว่า ผมจะไปไหนในวันอังคาร? เรื่องนี้อาจเป็นไปได้
ในการศึกษาครั้งล่าสุด หากคุณตรวจสอบที่ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้คน
แล้วจะพบว่าพฤติกรรมของพวกเขาจะเปลี่ยนไป ก่อนที่พวกเขาจะบอกว่ารู้สึกป่วย
ใช่ ในทางกลับกัน พวกเราทุกคนต่างตอบสนองที่สอดคล้องกันมาก เมื่อเราเป็นไข้หวัด
พวกเราต่างเวียนวนไปกับเรื่องราวต่าง ๆ ก่อนที่จะล้มลงด้วยความเจ็บป่วย
เรื่องราวที่ผ่านมานั้นคือ ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของกิจกรรมต่าง ๆ ก่อนที่จะเจ็บป่วยจริง ๆ
ถ้าคุณถามผู้คนที่ถูกทำการศึกษา จะบอกได้ว่า พวกเขาใช้เวลากี่ชั่วโมงในการนอนหลับ
คุณค้นพบอะไรบ้าง เมื่อคุณดูบันทึกการนอนหลับด้วยข้อมูล Logfiles
การโทรศัพท์ ข้อความรับ/ส่ง รายการอื่น ๆ ในโทรศัพท์มือถือ
มันจะเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ที่มีแนวโน้มมากระหว่าง
การรับรู้ทางเครือข่ายสังคมกับการนอนหลับที่ดี
หากคุณไม่ได้นอนหลับสนิทแล้ว
คุณจะมีแนวโน้มกลายเป็นคนตัดขาดจากโลกภายนอก
คนบางคนที่ได้ทำการศึกษาจะพบว่า
มีความสัมพันธ์อย่างมาก
พวกเขาต้องการการนอนหลับสนิท
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเครือข่ายมนุษย์
เทอะทะ/อุ้ยอ้ายและแพงเกินไปหรือไม่
" The brick " ก้อนอิฐน้ำหนักเกือบ 2 ปอนด์ พูดได้เพียงครึ่งชั่วโมง
สำหรับการชาร์ตแต่ละครั้ง และราคาขาย 3,995 เหรียญสหรัฐ (119,850.-บาท)
ไม่แพงเลยในปี 1984 (2527) เพราะผู้ซื้อต่างแย่งชิงกัน
เพื่อจะซื้อโทรศัพท์มือถือใช้เป็นครั้งแรก ให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะซื้อได้
หลังจากมันวางตลาดแล้ว แต่แน่นอนไม่ใช่กับ Rudy Krolopp
หัวหน้าทีมออกแบบ Motorola DynaTAC 8000X
Rudy Krolopp ตอนนี้วัย 74 ปีและเกษียณการทำงานแล้ว
ยังคงจำได้ถึง " ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ " เกี่ยวกับ DynaTAC
และรู้ว่า " การลงมือทำของพวกเรา ได้ทำอะไรที่มีนัยสำคัญจริง ๆ "
อิฐก้อนนี้ใช้เวลาเกิดถึงช่วงทศวรรษ
ก่อนที่จะได้รับการวางขายในท้องตลาด
Krolopp ได้รับมอบหมายให้ร่วมโครงการโดย Martin Cooper
หัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนาการใช้งานแบบไร้สาย
และ Martin Cooper ถูกขนานนามในภายหลังว่า
บิดาของโทรศัพท์มือถือ โดย CEO Robert Galvin ของโมโตโรล่า
ทั้ง Cooper กับ Krolopp ต่างมีชื่ออยู่ในเอกสารสิทธิบัตรร่วมกับ
John Mitchell อดีตหัวหน้าฝ่ายการสื่อสารของบริษัท
" Marty เรียกผมเข้าพบที่ห้องทำงานในวันหนึ่ง
ของเดือนธันวาคมปี 1972 (2515) แล้วพูดว่า
เราจะการสร้างโทรศัพท์มือถือแบบพกพา "
Krolopp รำลึกและเล่าต่อว่า
" ห้าเอ้ย โทรศัพท์มือถือแบบพกพา เป็นไปได้ยังไงวะ "
หลังจากการพูดคุยกันในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ
Krolopp กับทีมงานมีเวลาเพียงหกสัปดาห์
ที่จะกลับมาพร้อมกับรูปแบบโทรศัพท์มือถือ
เรื่องนี้จำเป็นและเร่งด่วนมากเพราะ
Federal Communications Commission
(คณะกรรมการกำกับกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ)
กำลังพิจารณาว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะอนุญาตให้ AT & T
ขยายงานติดตั้งเครือข่ายเพื่อให้บริการโทรศัพท์ไร้สายในท้องตลาด
และบริษัทผู้ให้บริการทางโทรศัพท์ AT & T
กำลังเร่งรีบวิจัยพัฒนาสร้างโทรศัพท์มือถือ
ทำให้โมโตโรล่าไม่ต้องการที่จะหลุดพ้นวงจรธุรกิจดังกล่าว
หลังจากการประชุมร่วม Cooper
ทาง Krolopp ได้ร่วมกับทีมงานทำการออกแบบ
แล้วสร้างแบบจำลองโทรศัพท์มือถือตามแนวคิด
" พวกเราได้ความคิดนี้ขึ้นมาในวันหนึ่งจากการพูดคุยกับพวกวิศวกร "
เขากล่าวพร้อมกับนึกถึงความประหลาดใจ
กับขนาดที่เล็กของโทรศัพท์มือถือในช่วงเวลานั้น
" มีคนเพียงแปดคนในห้องนั้น Cooper พูดว่า
ใครที่ไม่เชื่อในเรื่องนี้สามารถทำได้ คือ ไสหัวออกไปจากห้องนี้เลย "
ไม่มีใครยอมออกไปจากห้องนั้น แต่มันใช้เวลาอีก 10 ปี
และใช้เงินถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (สามพันล้านบาท)
เป็นต้นทุนในการวิจัยพัฒนาสร้างโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
ก่อนที่โทรศัพท์มือถือจะใช้ได้อย่างเป็นทางการในปี 1983 (2526)
เรื่องที่ล่าช้าเกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากสาเหตุ
ความจำเป็นในการสร้างเสารับส่งสัญญาณและโครงสร้างพื้นฐาน
Krolopp พูดถึงโมโตโรล่ารุ่นใหม่ Razr คือ
" จริง ๆ เหนือกว่า DynaTac มาก แต่เรื่องราวที่ทำในอดีต ยังคงเป็นเพียงตัวแทน
ยอดบนของภูเขาน้ำแข็ง ในการออกแบบโทรศัพท์มือถือเท่าที่สามารถจะทำได้ "
" โอ้ ถ้าเป็นไปได้ พวกเรายินดีที่จะได้กลับไปทำเรื่องนั้นอีก "
เขากล่าวว่า Razr มีขนาดเครื่องที่บางมาก
" พวกเรามีความสามารถในการออกแบบมัน
แต่พวกเราไม่สามารถที่จะสร้างมันขึ้นมาได้
เพราะยุคนั้นยังไม่มีแบตเตอรี่ขนาดเล็กที่ใส่ลงในเครื่องได้
และยังไม่สามารถใช้เสาอากาศที่มีขนาดเล็กได้เลย
ทำให้ไม่สามารถจะทำให้แป้นกดปุ่มทำงานได้
เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปมากในตอนนี้ "
Rudy Krolopp หัวหน้าทีมออกแบบโทรศัพท์มือถือเครื่องแรก
เปรียบเทียบ DynaTAC8000X กับ Motorola Razr ที่ Schaumburg รัฐอิลลินอยส์
เรียบเรียงจาก //www.nbcnews.com/id/7432915/#.UV16MDc0-HQ
ภาพปี 1972 (2515) "portable radio-telephone" โทรศัพท์แบบวิทยุสื่อสารเคลื่อนที่
โดย Pye Telecommunications ที่งานแสดงสินค้า London
ตั้งชื่อว่า Communications Today, Tomorrow and the Future
เครื่องมือสื่อสารสำหรับวันนี้ พรุ่งนี้ และอนาคต
Martin Cooper ถือโทรศัพทรุ่นล่าสุด Motorola DynaTAC 8000X
ทำให้เป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลก
ที่โทรศัพท์ได้บนทางเท้าในมหานครนิวยอร์ค ในปี 1973 (2516)
Tony James มือเบสคลื่นลูกใหม่ของสหราชอาณาจักร British
วงดนตรี Sigue Sigue Sputnik กับเพื่อนสาว Janet Street Porter ในปี 1986 (2529)
โทรศัพท์มือถือรุ่นก้อนอิฐ หรือรู้จักกันว่ารุ่น "Zack Morris phone"
หลังจากที่มีการนำมาประกอบในภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง " Saved by the Bell "
Franck Piccard นักกีฬาชาวฝรั่งเศส พูดจากโทรศัพท์มือถือ
หลังจากจบการแข่งขัน the Mens Super G Slalom
ในการแข่งขันปี 1988 (2531) กีฬาโอลิมปิคฤดูหนาว Winter Olympic Games
ใน Calgary ประเทศ Canada หลังจากที่เขาได้รับเหรียญทองคำ
หนึ่งในวัฒนธรรมป๊อปที่โดดเด่นมากที่สุดคือ
โทรศัพท์มือถือก้อนอิฐที่ปรากฎในรายการโทรทัศน์ " The A-Team"
ที่มีการออกอากาศตั้งแต่ปี 1983-87 (2526-2530)
นักแสดงเป็นคนเซ่อ ๆ ซ่า ๆ รายนี้ได้แย่งชิงบทบาทเด่นของ Hannibal
แต่เราคาดว่า Mr. T's B.A. Baracus (ไม่ปรากฎในรูป) ให้โอกาสเขา
มันไม่ใช่ iPhone ภาพนี้ในปี 1989 (2532)
Allan Z. Loren ประธาน Apple Computer USA
กำลังพูดโทรศัพท์มือถือขณะที่ด้านหลังมีนักปั่นจักรยานกำลังขับขี่
Motorola MicroTAC Classic วางตลาดในปี 1991 (2534)
มันทันสมัยมากหลังจากปลายปี 1989 (2532) ที่ออกรุ่น MicroTAC 9800x
ที่ตั้งราคาขายสูงถึง 3,495 เหรียญสหรัฐ (104,850 บาท)
NASCAR ที่ขับโดย Rusty Wallace กำลังพูดโทรศัพท์มือถือ
ขณะที่กำลังฝึกซ้อมอยู่ที่ Daytona 500 ในเดือนกุมภาพันธ์ 1996 (2539)
บางทีเขาอาจจะกำลังบ่นเรื่องช่างตัดผมที่ได้ตัดทรงผมบนหัวของเขาก็ได้
Pat Buchanan ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิีบดี สังกัดพรรค Republican
กำลังให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุกระจายเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือที่เืทอะทะ/อุ้ยอ้าย
ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งภายในรถยนต์ประจำตัว
ที่ Roswell รัฐจอเจีย ในเดือนมีนาคม 1996 (2539)
Philips สาธิตโทรศัพท์ดิจิตอลรุ่นใหม่ The Synergy ในปี 1997 (2540)
ในการแถลงข่าวที่ Dubai โทรศัพท์รุ่นนี้สามารถใช้ wireless
เพื่อใช้งาน e-mail Internet และ faxes ได้
พร้อมรับมือกับ Y2K พนักงานบริษัท Samsung Electronics
เสนออุปกรณ์รุ่นใหม่พิเศษ Millennium Multimedia Phone IMT-2000
ที่งานแสดงสินค้าในปี 1999 (2542) ใน Geneva ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
Nigel Rundstrom ของ Nokia แสดงโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ของบริษัท
ที่ตั้งชื่อว่า DoCoMo Nokia NM502i ในมหานครโตเกียว ในเดือนมีนาคม ปี 2000 (2543)
แต่ไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับการสวมหมวกของเขาว่าสวมไว้ทำไม
แม้แต่ Bill Gates ประธานบริษัท Microsoft
ยังมีภาพการถือโทรศัพท์มือถือรุ่นน่าเกลียด(เทียบกับตอนนี้)
ขณะที่เขากำลังแสดงวิสัยทัศน์เรื่อง คนรุ่นใหม่
ในการรายงานประจำปีที่ห้องประชุม COMDEX
ที่ Las Vegas ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2000 (2543)
ภาพถ่ายในปี 2000 แสดงโทรศัพท์มือถือของ Ericsson MP3 Handsfree
กับโทรศัพท์มือถือ Samsung Uproar MP3 Phone
เป็นแนวคิดที่น่ารักมาก ที่ทำให้โทรศัพท์มือถือสามารถฟังเพลงได้
แต่ข่าวร้ายคือ มันไม่ทำการตลาดอีกแล้ว
โทรศัพท์มือถือ Palm Treo 600 ในภาพเป็นของปี 2004 (2547)
สามารถใช้งานร่วมกับ voice calls รับส่ง e-mail กับการใช้งาน Internet
พร้อมกับสายนำสัญญาณขนาดเล็ก อุปกรณ์ชิ้นนี้ผลิตขึ้นมาสามปีก่อนที่ iPhone จะวางตลาด
แต่ไม่สามารถทำให้ Palm อยู่รอดได้ มันยุติสายการผลิตในปี 2012 (2555)
ที่มาของภาพ //edition.cnn.com/2013/04/03/tech/mobile/first-cell-phone-call/index.html?hpt=hp_c3
หมายเหตุ เก็บความจากหนังสือของ จุไรรัตน์ อุณหกะ
อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการสายการบริหาร การลงทุนบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด
เธอเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่อยู่กับชินวัตร ยุคเริ่มก่อตั้งกิจการและลงทุนด้านโทรศัพท์มือถือ
เธอเล่าว่า ผู้ขายโทรศัพท์มือถือพร้อมเทคโนโลยีจากต่างชาติ
ไม่เชื่อว่าเมืองไทยจะลงทุนและมีกำลังทรัพย์ซื้อโทรศัพท์มือถือพร้อมเทคโนโลยีได้
เพราะ GDP ของประเทศไทยตอนนั้นโตไม่เกินกว่าร้อยละ 2 และมีมูลค่าเงินต่ำมาก
เมื่อเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนและเงินตราต่างประเทศ
จึงส่งฝรั่งตัวแทนมาดูกิจการและธุรกิจตลอดจนความเป็นไปได้ของการขายครั้งนี้
เธอจึงพาฝรั่งคนนั้นขึ้นนั่งรถตุ๊กตุ๊ก แล้วให้คนขับวิ่งบนถนนสายสีลม
(ถนนสายการค้าและการเงินที่ขึ้นชื่อที่สุดในประเทศไทย ช่วงยังไม่มีรถลอยฟ้า
ที่โด่งดังในละแวกถนนสายนี้คือ ซอยละลายทรัพย์ กับ ซอยพัฒน์พงศ์)
พร้อมกับชี้ให้ดูจำนวนรถยนต์หรูหราต่างประเทศที่วิ่งขับขึ่บนถนนสายนั้น
แล้วบอกว่าคนพวกนี้คือ ลูกค้าโทรศัพท์มือถือของบริษัท ฯ
ฝรั่งตัวแทนเห็นจำนวนรถยนต์หรูหราวิ่งบนท้องถนนแล้ว
จึงตกลงกลับไปบอกเจ้าของที่เมืองนอกว่ายอมขายแบบ turn keys (เหมาเบ็ดเสร็จ) ให้
ช่วงปีแรกบริษัท ฯ ตั้งเป้าหมายขายโทรศัพท์มือถือเพียง หนึ่งพันเครื่อง
แต่แล้วขายได้มากกว่าหนึ่งหมื่นเครื่อง ทำให้ต้องปรับเป้าขายใหม่หมด
เพราะคนรวยกับคนอวดรวยจะนิยมซื้อมาใช้กันมาก
แย่งกันซื้อกับแย่งกันมีใช้แทนโทรศัพท์มือถือรุ่นกระติกน้ำแข็ง
(ราคาตอนนั้นเครื่องประมาณ เจ็ดหมื่นกว่าบาท หรือเก้าหมื่นบาทถึงแสนกว่าบาท
แล้วแต่รุ่นหรือยี่ห้อการค้าที่มีการนำเข้ามาขาย ยิ่งรุ่นแรก ๆ ราคาหลักแสนบาท)
เรียกว่า ใครมีโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้แล้ว
เวลาไปนั่งตามร้านอาหารต้องวางโชว์อวดรวยให้ชาวบ้านหมั่นไส้เล่น ๆ
ทำให้ต่อมาต้องขยายเครือข่ายรับส่งโทรศัพท์มือถือเพิ่มเติม
ก่อนขยายไปยังกรุงเทพฯ กับปริมณฑล
ตามดัวยหัวเมืองใหญ่ ๆ เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ ขอนแก่น โคราช หัวหิน เป็นต้น
ของผู้เขียนรุ่นแรกจำได้ว่าก่อนรุ่น 3310
ราคาประมาณปี 2539 เครื่องละ 19,000.-บาท
(เครื่องน้ำท่วมเสียหายไปในเดือนพฤศจิกายนปี 2543)
เครือข่าย ดี... ราคาปล่อยของเพื่อทำการตลาดในหาดใหญ่
แถวลพบุรีราเมศวร์พ้นจาก BigC ไม่มีสัญญาณแล้ว มีในเมืองกับสนามบิน
อำเภอเมืองสงขลา กับวัดพะโคะ(อำเภอสทิงพระ ไม่มีสัญญาณในช่วงนั้น)
เรียกว่าซื้อโทรศัพท์มือถือเครือข่ายนี้มาเจ็บตับมาก หาสัญญาณยากมาก
สมัยนั้นค่าบริการรายเดือนเดือนละ ห้าร้อยบาท
ค่าโทรศัพท์คิดเป็นนาทีละ สามบาทถึงสิบห้าบาท
แล้วแต่ระยะทางเครือข่ายใกล้ไกล
กับจดทะเบียนโทรศัพท์มือถือไว้ที่จังหวัดไหน
จึงมักจะมีการหลอกเครือข่ายสัญญาณ
ด้วยการจดทะเบียนที่เดียวกันโทรหากันได้ราคาถูก
แต่สมัยนี้ทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว
เพราะระบบทันสมัยมากกว่าเดิมมาก
ค่าใช้โทรศัพท์มือถือในสมัยนั้น
เรียกว่าแพงกว่าการใช้โทรศัพท์แบบลวดทองแดง(ภาษาชาวบ้าน)
ที่ลากสายยาวไปต่อประจำที่บ้านหรือที่สำนักงาน
จ่ายค่าโทรศัพท์มือถือช้าเกินกว่าหนึ่งสัปดาห์
จะมีทนายความออกหนังสือทวงถามทันที
เรียกว่าไม่ได้ราคากับคุณค่าในการออกหนังสือทวงถามเลย
หมายเหตุ คำศัพท์บางคำขอใช้ภาษาต่างด้าวด้วยข้อจำกัดทางด้านภาษา
ผิดพลาดขออภัย ช่วยชี้แนะ จะรีบมาแก้ไข ขอบคุณครับ
เรียบเรียงจาก //edition.cnn.com/2013/04/03/tech/mobile/first-cell-phone-call/index.html?hpt=hp_c3
//www.nytimes.com/2013/03/17/magazine/who-made-that-cellphone.html
//www.nbcnews.com/id/7432915/#.UV16MDc0-HQ
//www.motorolasolutions.com/US-EN/About/Company+Overview/History/Timeline
| Create Date : 05 เมษายน 2556 |
| Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2557 16:56:45 น. |
|
8 comments
|
| Counter : 3029 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [
และอุ้มโหวต Techno Blog ให้ด้วยค่ะ