สวนศิลป์ลดระดับเสียงเครื่องบินที่บินขึ้นลงได้
ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของสนามบิน Amsterdams Schiphol Airport บริเวณรอบ ๆ ทางวิ่งขึ้นลงของเครื่องบิน มีการสร้างแนวป้องกันยกร่องพื้นดินและทางระบายน้ำ รูปร่างเหมือนเหลี่ยมเพชรเชื่อมประสานกัน
Buitenschot Land Art Park คือ พื้นที่สีเขียว/พื้นที่สาธารณะกว่า 80 เอเคอร์(200 ไร่) ที่เหมือนงานศิลปะและแนวขุดยกร่องเป็นแนวสูง พร้อมกับมีทางราบและทางระบายน้ำ ใช้เป็นเส้นทางจักรยานและสนามกีฬา แต่องค์ประกอบดังกล่าวเป็นส่วนเสริมเท่านั้น เพราะวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่แท้จริงคือ การลดระดับเสียงความถี่ต่ำของเครื่องบินที่บินขึ้นลง
สนามบิน Schiphol ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ Amsterdam คือหนึ่งในสนามบินที่การจราจรพลุกพล่านมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เป็นศูนย์กลางของ KLM Royal Dutch Airlines และจุดแวะพักที่สำคัญในการขนส่งสินค้าไปที่ทวีปเอเซีย มีเที่ยวบินขึ้นลงมากกว่า 1,600 เที่ยวในแต่ละวัน เมื่อลองเปรียบเทียบกับสนามบิน Atlantas Hartsfield-Jackson สนามบินที่การจราจรพลุกพล่านที่สุดในสหรัฐอเมริกาและในโลก จะมีเที่ยวบินขึ้นลงมากกว่า 2,500 เที่ยวในแต่ละวัน ดังนั้น สนามบิน Schiphol จึงมีการจราจรพลุกพล่านและมีเสียงดัง
ในปี 1916 เมื่อกองทัพดัชท์ ได้สร้างสนามบิน พวกเขาเลือกพื้นที่ลุ่มแห่งนี้เพราะขนาดของพื้นที่ ที่มีความราบ กว้างขวาง และเป็นที่โล่ง ทำให้เหมาะสมกับการบินขึ้นลงของเครื่องบิน แต่ในทางกลับกันคุณสมบัติดังกล่าวนี้ ทำให้เกิดผลข้างเคียงคือ คล้ายเสียงโทรโข่งยักษ์ ที่ส่งกระจายเสียงเครื่องบินไปรอบ ๆ บริเวณสนามบิน
ชาวบ้านและคนที่อยู่อาศัยในละแวกใกล้สนามบิน ต่างเริ่มบ่นเกี่ยวกับเสียงดังของเครื่องบิน ยิ่งในปี 2003 ที่มีการสร้างทางวิ่ง Polderban ที่ยาวที่สุดและทันสมัยที่สุดในสนามบิน คนที่พักอาศัยสามารถได้ยินเสียงอึกทึกเหล่านี้ แม้ว่าอยู่ห่างไกลไปจากสนามบินถึง 18 ไมล์ (28.9 กิโลเมตร) แล้วก็ตาม และเสียงก็ดังแบบไม่หยุดหย่อนด้วยในแต่ละวัน
เสียงภาคพื้นดินจากการบินขึ้นลงของเครื่องบิน เป็นเรื่องยากมากในการควบคุมเรื่องเสียง เพราะเส้นทางเดินทางของคลื่นเสียง ไม่สามารถป้องกันได้ด้วยแผ่นคอนกรีตป้องกันเสียง ที่วางอยู่ตามด้านข้างถนนหรือบนทางด่วนรถยนต์ เพราะเป็นคลื่นความถี่ต่ำ จะกระจายสัญญาณได้ไกลกว่า/ไร้ทิศทาง จึงแทรกซึมเข้าไป/ทะลุแผ่นป้องกันเสียงได้
ต่อมาในปี 2008 ทางสนามบินได้แนวทางแก้ไขแบบใหม่เพราะหลังจากให้ Netherlands Organization for Applied Scientific Research [TNO] เป็นแกนนำในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องเสียงนี้ ก็ค้นพบว่า ในฤดูใบไม้ร่วง หลังจากพื้นที่ทำไร่ทำนาที่ผ่านการไถพรวนแล้ว ระดับเสียงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะร่องดิน/การยกร่องดินของชาวไร่ชาวนา ที่มีในหลายแบบหลายแนวได้ดูดซับคลื่นเสียง หรือลดทอนเสียงลงได้และทำให้เสียงเงียบลงได้
ประเทศ Netherlands มีชื่อเสียงและประวัติยาวนาน ในเรื่องการสร้าง/ดัดแปลงสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ เพื่อตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของชาวบ้าน เช่น ใน Amsterdam มีการสร้างระบบคลองขุดด้วยคนโดยรอบ ๆ จำนวนมาก
ดังนั้น โครงการขนาดใหญ่ในเรื่องการแก้ไขปัญหาเรื่องเสียงของสนามบิน Schiphol จึงได้เริ่มลงมือทำขึ้นมา ด้วยการปรับปรุงภูมิทัศน์แวดล้อมสนามบิน เพื่อลดทอนระดับเสียงภาคพื้นดินให้น้อยลงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยการอนุมัติให้ H+N+S Landscape Architects
Dutch Profiles: H+N+S landscape architects
และศิลปิน Paul De Kort นักออกแบบสวนเขาวงกต
Paul De Kort ได้ใช้หลักการ/รูปแบบการทำงานในยุคศตวรรษที่ 17 ของ Chladni ที่ทำการทำลองเรื่องเกี่ยวข้องกับเสียง acoustics นักวิทยาศาสตร์เยอรมัน Ernst Chladni ที่ใช้ทรายหรือเกลือ โรยบนแแผ่นโลหะแล้วสีซอไปมา ผลจากเสียง มีการสร้างแรงสั่นสะเทือนทำให้มีการกระจายรูปภาพตามเสียงได้ นอกจากนี้ Paul De Kort ยังได้ทำการศึกษาเรื่องราวในประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับเทคนิคการทำฟาร์มในพื้นที่ลุ่มน้ำมาก่อน Harlemmermeer เพื่อเป็นแนวทางในการออกแบบครั้งนี้ " ผมพยายามสร้างสรรค์การเอื้อประโยชน์ร่วมกัน ระหว่างองค์ประกอบภูมิประเทศที่มีแนวยกร่องเป็นสันเขา กับสภาพแวดล้อมที่ดูน่าพึงพอใจ
Chladni Plates
De Kort ใช้เครื่องมือ GPS ในการระบุ/กำหนดตำแหน่ง เพื่อทำการไถพรวนรูปทรงแนวตั้งเป็นร่องที่สมมาตรจำนวน 150 แถว มีความสูงถึง 6 ฟุตวัดจากด้านล่างของร่องที่ระบายน้ำได้ในตัว ในหุบเขาจำลองแห่งนี้ ได้มีสวนหย่อมขนาดเล็กและเส้นทางรถจักรยาน ทั้งยังได้สร้างประติมากรรมเพื่อเป็นเกียรติประวัติของโครงการนี้ ให้ชื่อว่า สดับตรับฟัง Listening Ear รูปร่างคล้ายจานพาราโบลาขนาดใหญ่ ที่วางตะหง่านอยู่เหมือนกำลังรับฟังเสียงรอบด้านของสนามบินแห่งนี้
โครงการนี้เสร็จสิ้นในเดือนตุลาคม 2013 Buitenschot (สวนศิลป์แนวร่องไถพรวน) ลดระดับเสียงลงได้เกือบครึ่งหนึ่งได้ทันที มีการติดตั้งตัวจับ/วัดระดับเสียงจำนวน 38 เครื่อง รอบ ๆ บริเวณพื้นที่เป้าหมายโครงการแห่งนี้ และเมื่อได้มีการทดสอบอีกครั้งในปี 2014 เสียงในแต่ละพื้นที่ไม่เคยเกินกว่าระดับที่ต้องการเลย รวมทั้งสนามบินพยายามที่จะร่วมมือในการลดระดับเสียงลง ด้วยการเปลี่ยนเส้นทางบินขึ้นลงตามแนวร่องดินดังกล่าว รวมทั้งให้สายการบินต่าง ๆ พยายามปรับปรุงเส้นทาง/การบินอย่างรวดเร็วด้วย
ผลการศึกษาของ NASA พบว่าโครงการสนามบิน Schiphol การเผชิญหน้ากับระดับเสียงที่หลากหลายมากมายของเครื่องบิน เป็นกรณีศึกษาและสร้างผลกระทบที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง เพราะถ้าความกังวลจากระดับเสียงมีการแก้ไขเพียงมิติเดียว เช่น การลดจำนวนเที่ยวบินลง จะสร้างผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจได้ (ทำให้เศรษฐกิจหดตัวลงได้อย่างมาก) " การบริหารจัดการระดับเสียงของเครื่องบิน มีศักยภาพที่สร้างผลกระทบได้อย่างกว้างขวาง ต่อการพัฒนาของประเทศ ระหว่างประเทศ การค้า และมีผลเชิงลบอย่างมากกับอุตสากรรมการบิน " ผลการศึกษาระบุไว้
เสียงจากเครื่องบินที่บินขึ้นลงในสนามบิน เป็นประเด็นที่มีการถกเถียงและคัดค้านกันมาก มีการประท้วงกันมากเรื่องเสียงเหล่านี้ทั้งที่สนามบิน LaGuardia และ JFK ใน New York City และเรื่องการลดระดับเสียงในสนามบินนี้ทำให้ FAA กำลังสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จากผลการศึกษาเรื่องเสียงในสนามบินเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี ส่วนสนามบินที่การจราจรพลุกพล่าน เช่น ที่สนามบิน Melbourne และ Londons Gatwick ต่างกำลังเริ่มก่อสร้างแนวลดเสียงเลียนแบบธรรมชาติ ที่คล้ายคลึงกับแบบสนามบิน Schiphol
นักวางแผนในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่เพียงแต่สนามบิน ต่างสนใจรูปแบบภูมิทัศน์ที่แก้ไขปัญหาเรื่องเสียงดัง ใน Delhi ประเทศอินเดีย ผู้อยู่อาศัยในละแวก Panchsheel Park ต่างบ่นเกี่ยวกับเรื่องระดับเสียงอึกทึกที่สูงเกินขีดทั้งวันทั้งคืนแล้ว และได้ยื่นคำร้องกับ National Green Tribunal หน่วยงานของรัฐสภา ให้สร้างแนวร่องสวนเพื่อลดระดับเสียงลง
ผลการศึกษากว่า 10 ปีของ U.S. National Parks Service มีการตีพิมพ์เผยแพร่ในเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ ระบุว่ามีระดับเสียงที่รบกวนในพื้นที่วนอุทยานกว่า 600 แห่ง ที่ตรวจสอบพบได้ในแต่ละสถานที่ Kurt Fristrup นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นหัวหน้าทีมในการศึกษาเรื่องนี้ คาดการณ์ว่ามลพิษทางเสียงมีการเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุก ๆ 20 ปี การตรวจวัดและป้องกันเสียงแบบสนามบิน Schiphol จะช่วยลดระดับเสียงให้เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลงได้
แต่สำหรับ Paul De Kort กล่าวว่ารู้สึกเห็นใจเหมือนกัน ที่ผู้โดยสารบนเครื่องบินไม่ได้ชื่นชมผลงานสวนศิลป์ของเขา พื้นที่ลดเสียงอยู่เบื้องหลังเครื่องบินที่บินขึ้นลงในสนามบิน ซึ่งความจริงแล้วผู่โดยสารต่างบินจากไปในทิศทางอื่น ทำให้ไม่สามารถมองเห็นพื้นที่แห่งนี้ได้จากบนอากาศ(เครื่องบิน) "
เรื่องเล่าไร้สาระ
เนเธอแลนด์ มีชื่อเรียกหลายอย่างเช่น ฮอลแลนด์ ฮอลันดา ดัชส์ วิลันดา ชาวดัชส์มีชื่อเสียงมากในเรื่องระบบชลประทาน การสร้างคูคลองระบายน้ำและมีพื้นที่ส่วนมากต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ในประวัติศาสตร์สมัยอยุธยาเรียกว่า ชาววิลันดา ที่สงขลามีหลุมศพชาววิลันดา อยู่ตรงปากทางเข้าคลังน้ำมัน ปตท. บริเวณมรหุ่มสุลต่านสุไลมาน (กูโบว์ ป่าช้าชาวมุสลิม ภาษาชาวบ้าน) สันนิษฐานว่าเป็นศพชาววิลันดา รายที่ได้รับการฝังน่าจะเป็นทหารรับจ้าง หรือนายช่างที่มาก่อสร้างป้อมค่ายประตูเมืองสงขลา หรือช่วยในการหล่อปืนใหญ่ของเจ้าเมืองสงขลา สมัยสุลต่านสุไลมาน (ทวดหุม ภาษาชาวบ้านสงขลาเรียกท่าน) ต้นตระกูลนามสกุล ณ พัทลุง ศรียาภัย ทิพย์ธารา ณ ป้อมเพ็ชร ที่เคยทำสงครามรบกับพระนารายณ์มหาราช จนต้องเจรจาสงบศึกกันไม่มีใครแพ้ใครชนะ
ส่วนในอินโดนีเซีย ชาวบ้านจะเกลียดชังชาวดัชส์อย่างแรง ใครที่ถูกเรียกคำนี้หมายความว่า เป็นคนขี้โกงมากด้วยเล่ห์เหลี่ยมเต็มไปด้วยความชั่วร้าย เพราะเคยบังคับคนพื้นเมืองให้ปลูกสมุนไพร ส่วนมากเป็นพริกไทย และกาแฟ
และห้ามชาวบ้านกินกาแฟโดยเด็ดขาด จนชาวบ้านต้องไปเก็บเม็ดกาแฟจากขี้ชะมด Kopi Luwak ปรากฏว่าหอมอร่อยและรสชาติดีมาก ก็ถูกห้ามเก็บกินกาแฟจากขี้ชะมดอีก ราคากาแฟขี้ชะมดตอนนี้กิโลกรัมละหลายหมื่นบาทเป็นอย่างต่ำ ผลความโลภและความชั่วร้ายของชาวดัชส์ ทำลายระบบนิเวศน์ประเทศนี้วอดวายไปมากมาย และตามประวัติศาสตร์ชาวบ้านต่างอดตาย จากการขาดแคลนอาหารและพื้นที่เพาะปลูกข้าว จึงไม่ต้องสงสัยว่า ทำไมตอนอินโดนีเซียได้เอกราช จึงขับไล่ไส่ส่งพวกดัชส์กับพวกลูกครึ่ง ออกจากประเทศนี้ไม่ต่างจากไล่หมูไล่หมา
เรียบเรียง/ที่มา
Create Date : 17 ตุลาคม 2558 |
Last Update : 1 มีนาคม 2559 21:51:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1247 Pageviews. |
|
|