Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
20 เมษายน 2552

เรื่องเล่าแห่งมหาภารตะยุทธิ์ (10)

จาก blog ที่แล้วจะเห็นว่ามีตัวละครที่ถูกสาปโดยนางเทราปตี 3 คน
คือ ทุรโยธน์ ทุหศาสัน และกรรณะ ซึ่งเรารู้ว่าสองคนแรกคือ พี่น้องเการพ
แต่กรรณะล่ะ เป็นใครถึงได้เข้านอกออกใน ใกล้ชิดพี่น้องเการพเช่นนั้น
สำหรับผม กรรณะเป็นตัวละครที่มีมิติมากที่สุดในเรื่องนี้เลยทีเดียว

จำเรื่องพิธีขอลูกของพระนางกุณตีได้ไหม ว่าครั้งที่นางยังเป็นวัยรุ่น
ฤาษีทุรวาส ผู้หยั่งรู้เรื่องราวว่าในอนาคต ว่าราชวงศ์กุรุจะมีปัญหาในการสืบสันตติวงศ์
จึงเดินทางมายังแคว้นที่พระนางอาศัยอยู่ เพื่อมาสอนคาถาที่สามารถใช้เรียกเทพ
ให้มาปรากฏกายต่อหน้าได้
หลังจากฤษีทุรวาสจากไป พระนางได้ทดสอบคาถาบทนั้นทันที
พระอาทิตย์ก็มาปรากฏกาย แล้วก็ขอมีอะไรกับพระนาง

เมื่อพระนางคลอดบุตรออกมา ก็ไม่สามารถจะเลี้ยงดูไว้ได้
เนื่องจากจะเป็นทีครหานินทา เพราะยังไม่ได้แต่งงาน จึงเอาบุตรแห่งสุริยเทพ
ที่เกิดมานั้นใส่ตะกร้าหวายซึ่งปูรองด้วยผ้าไหมอย่างดีลอยน้ำไป
พระอาทิตย์ก็ให้พรและบอกว่าบุตรของนางจะเป็นนักยิงธนูฝีมือเยี่ยม
พร้อมกับได้วางเกราะวิเศษที่ไม่มีผู้ใดจะทำลายได้ไว้กับตัวทารก

ทากรกน้อยลอยไปตามกระแสน้ำ สารถีของท้าวธฤตราษฏร์ชื่อนันทนะ
และภรรยาคือนางราธาซึ่งไม่มีบุตรด้วยกันได้เก็บไปเลี้ยงไว้
เมื่อเติบโตขึ้นกรรณะก็ได้เล่าเรียนร่วมกับพี่น้องเการพและปาณฑพ
แต่เมื่อถึงวิชาการยิงธนูขั้นสูง โทรณาจารย์กลับปฏิเสธที่จะสอนให้
เนื่องจากเป็นสิ่งที่บุคคลวรรณะกษัตริย์เท่านั้น ที่จะมีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียน

กรรณะจึงออกตามหาอาจารย์ของโทรณาจารย์ ซึ่งก็คือฤๅษีปรศุรามนั่นเอง
หากโทรณาจารย์มีฝีมือธนูเยี่ยมเพียงใด ปรศุรามผู้เป็นอาจารย์ย่อมเหนือกว่า
แต่นิสัยของปรศุรามนั้นเกลียดวรรณะกษัตริย์เป็นอย่างยิ่ง กรรณะจึงต้องโกหกว่า
ตนเป็นวรรณะพราหมณ์ ปรศุรามจึงสอนวิชาให้กรรณะเหมือนดั่งลูกของตนเอง

แต่วันหนึ่งปรศุรามได้ออกไปเที่ยวป่ากับกรรณะ เมื่อเหนื่อยล้าก็ได้นอนบนตักของกรรณะ
แล้วเผอิญมีแมลงตัวหนึ่งได้เข้ามากัดด้วยฟันที่แหลมคมที่ขาของกรรณะ
กรรณะไม่อยากให้ฤๅษีปรศุรามที่ตนรักและเคารพเหมือนบิดาต้องตื่นขึ้น
จึงทนความเจ็บปวดไว้ได้ แต่เลือดของกรรณะกลับกระเด็นเข้าที่ใบหน้าของปรศุราม
ฤๅษีปรศุรามตื่นขึ้นมาและรู้ว่ากรรณะเป็นคนวรรณะกษัตริย์ เพราะมีเพียงวรรณะนี้เท่านั้น
ที่จะทนกับความเจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้ จึงสาปกรรณะว่า ในเวลาที่คับขัน
ในเวลาแห่งความเป็นความตาย เจ้าจะลืมวิชาที่ข้าสอนมาจนหมดสิ้น

กรรณะจึงจำต้องเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางนั้นได้เจอกับเสียงแปลก ๆ
ด้วยสัญชาตญาณ กรรณะจึงยิงธนูออกไปยังเสียงนั้น
แต่กลับกลายเป็นว่าได้ยิงธนูเข้าใส่วัวที่กำลังติดหล่มอยู่ของพราหมณ์ผู้หนึ่งตาย
พราหมณ์ผู้นั้นจึงสาปว่า หากกรรณะสู้กับศัตรูก็ขอให้รถศึกของเขาติดหล่มโคลน
และศัตรูนั้นจะไม่ฟังคำขอร้องของกรรณะที่ต้องการต่อสู้ที่ยุติธรรม เยี่ยงนักรบที่มีเกียรติ

เมื่อเดินทางกลับมาที่แคว้นกุรุ กรรณะก็เดินผ่านกลุ่มลูกศิษย์ของโทรณาจารย์
เห็นอรชุนกำลังคุยโอ่ถึงฝีมือการยิงธนูที่ยอดเยี่ยมของตัวเอง
กรรณะจึงเดินเข้าไปท้าประลอง แต่อรชุนกลับมองด้วยสายตาที่หยามเหยียด
เนื่องจากกรรณะเป็นเพียงวรรณะศูทรที่ต่ำต้อย แต่ขณะนั้นเองทุรโยทธ์ที่เห็นเหตุการณ์
จึงเดินเข้ามาแล้วตบบ่ากรรณะ แล้วบอกว่า ต่อแต่นี้เจ้าจะไม่ใช่คนในวรรณะศูทร
เพราะข้าจะยกแคว้นอังคะที่ได้รับมอบในฐานะยุพราชให้เจ้าเป็นผู้ปกครอง

นั่นจึงเป็นที่มาของน้ำมิตรที่สามารถตายแทนกันได้ของกรรณะ
และจุดเริ่มต้นของความเกลียดชังที่มีต่ออรชุนและพี่น้องทั้งหลาย
ที่ไม่มีสิ่งใดจะมาลบเลือนมันออกไปจากใจของเค้าได้

ก่อนสงครามจะเริ่มต้นขึ้น พระอินทร์บิดาของอรชุนนั้นรู้ว่า
กรรณะนั้นเป็นนักรบที่มีฝีมือของยอดเยี่ยม ในสงครามไม่แน่นักว่าอรชุนจะเอาชนะได้
และตอนที่กรรณะเกิด พระอาทิตย์ได้มอบเกราะที่สามารถต้านทานอาวุธทุกชนิดได้
พระอินทร์จึงแปลงกายเป็นพราหมณ์เพื่อมาขอเกราะของกรรณะไปให้อรชุนสวมใส่
เนื่องจากเป็นธรรมเนียมของชาวอินเดียว่า เมื่อพราหมณ์ขอสิ่งใดก็จำต้องมอบให้

ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของสงคราม พระกฤษณะ ในฐานะคนกลางที่เข้ามาไกล่เกลี่ย
ความขัดแย้งของพี่น้องเการพและปาณฑพได้โอกาสอยู่ตามลำพังกับกรรณะที่นอกเมือง
พระกฤษณะจึงแย้มพรายที่มาของกรรณะ ว่าแท้จริงกรรณะนั้นมีที่มาที่แท้จริงเป็นอย่างไร
แต่แม้กระนั้น กรรณะเองแม้จะตกใจกับการรู้ถึงชาติกำเนิดของตนด้วยน้ำตา
แต่เค้ายังยืนยันที่จะออกรบในฐานะขุนศึกของทุรโยธน์

แม้ในคืนสุดท้ายก่อนสงครามจะเริ่มต้นขึ้น พระนางกุณตีได้ลอบเข้ามายังค่าย
และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่ออดีตให้กรรณะฟัง และชี้ให้เห็นว่าหากกรรรณะเลือกที่จะ
เดินตามพระนางออกไป ในฐานะพี่ชายคนโดของพี่น้องปาณฑพ อรชุนก็จะเป็นได้เพียงสารถี
ยุฐิธีระก็จะมีหน้าที่เพียงคนถือร่ม ภีมะก็จะเป็นเพียงองครักษ์ และนกุลและสหเทพ
ก็จะต้องเดินตามหลังกรรรณะ เพราะเค้าคือพี่ชายคนโตของพี่น้องเหล่านั้น

และที่สำคัญที่สุด เหล่าพี่น้องก็จะไม่จำเป็นต้องมาฆ่าฟันกันเอง

แต่กระนั้นน้ำตาของมารดาผู้ให้กำเนิดก็ไม่อาจจะล้างน้ำใจ ที่กรรณะมีต่อสหาย
อย่างทุรโยธน์ได้ กรรณะยังเข้าร่วมรบในสงครามด้วยความตั้งใจมากกว่าใคร
เพราะนั่นคือการตอบแทนความรักที่มีต่อสหายเช่นทุรโยธน์ แม้จะรู้ว่าจุดจบของตัวเอง
ได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าด้วยคำสาปของปรศุรามและพรามหณ์เจ้าของวัวแล้วก็ตามที

กรรณะจึงเป็นบุคคลที่น่าเศร้า น่าชิงชัง น่าสงสาร น่าเคารพ ปะปนอยู่ในคนเดียว


Create Date : 20 เมษายน 2552
Last Update : 16 เมษายน 2553 9:55:36 น. 4 comments
Counter : 2424 Pageviews.  

 
รออ่านอยู่นานเลยครับ

ถ้าไม่มีแบบย่ออย่างใน blog นี้ สงสัยผมจะไม่ได้อ่านแน่


โดย: NATSKI13 วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:12:44:28 น.  

 
ขอบคุณที่ติดตามครับ

งวดเข้ามาเรื่อยๆ แล้วล่ะ


โดย: VET53 วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:13:24:57 น.  

 
มาตามอ่านค่ะ เนี่ยเพราะไปเสียมราฐมาเชียวทำให้อยากรู้เรื่องนี้ และมีคนใจดีมาเรียบเรีบงให้อ่านด้วยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:15:26:01 น.  

 
แหม เสียมราฐ คำนี้เราไม่ได้ยินมานานแล้วนะเนี่ย
เพราะกัมพูชาเปลี่ยนเป็นเสียมเรียบไปแล้ว
เพราะอะไร ชื่อคงบอกความหมายได้ดี

แม้กระทั่ง แบ่งพื้นที่ของหลายอำเภอของจังหวัด
ที่อยู่ตรงข้ามเขาพระวิหาร มาตั้งชื่อเป็นจังหวัดก็ทำ

มุมมองที่เค้ามีต่อเราก็คงเหมือนที่เรามีต่อพม่า
ในขณะที่มุมมองของเรา ก็เหมือนที่พม่ามองไทย

แบบประวัติศาสตร์ ชาตินิยม


โดย: VET53 วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:16:01:07 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]