จาก blog เก่าที่เล่าไว้ ก่อนจะได้ไปดูจริง ผมตั้งธงเอาไว้ว่า golden boy อาจจะเป็นพระเมตไตรยะ จากสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมเหนือมงกุฎได้หรือไม่ แต่จะให้เสียเงินไปดูเทวรูปชิ้นเดียวก็คงไม่น่าลงทุน
จนกระทั่ง BEM ได้มีงานประจำปี Happy journey ผมได้สมัครเข้าร่วมฟังบรรยายในช่วงบ่าย วันที่ 14 มิ.ย. 2567 ศรีเทพ มรดกโลกแห่งใหม่ โบราณวัตถุล้ำค่าชิ้นใหม่ golden boy โดย อ. ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ ในการบรรยายก็เน้นไปที่เรื่องเมืองศรีเทพ ซึ่งเราฟังบ่อยแล้ว ใจจึงจรดจ่อรอการพุ่งตัวเพื่อไปชมพิพิธภัณฑ์ฟรี โดยกำหนดการ มีรูปแบบการเดินเข้าชม แต่เราและคนส่วนใหญ่ล้วนรีบมุ่งไปที่โซนจัดแสดง golden boy
3. Golden boy พบที่ปราสาทบ้านยาง บุรีรัมย์ เมื่อปี พ.ศ. 2518 ความสูง 1.29 เมตร และ 4. สตรีพนมมือ พบพร้อม golden boy ความสูงประมาณ 0.43 เมตรได้รับมอบคืนจาก MET เมื่อปี พ.ศ. 2567
เราจะกลับไปที่ golden boy กันใหม่ Martin Lerner ภัณฑารักษ์ ของพิพิธภัณฑ์ MET ก็เคยสงสัยและบันทึกไว้ว่าตอนรับเทวรูปมาว่า อาจจะเป็นรูปของเทวะราชาก็เป็นไปได้ แต่เมื่อไม่มีหลักฐานอะไร ก็เลยตีความว่าเป็นเทวรูปไว้ก่อน
ความคิดนี้จึงถ่ายทอดมายังนักวิชาการกลุ่มหนึ่ง ที่ตีความว่า golden boy ไม่ใช่รูปพระศิวะ โดยดึงให้เข้ากับสถานที่ค้นพบว่า เป็นรูปหล่อของบูรพกษัตริย์ คือพระเจ้าชัยวรมันที่ 6 ต้นราชวงศ์มหิธรปุระ
จารึกพนมรุ้ง 7 ด้านที่ 4 กล่าวว่า เมื่อหิรัญยะบุตรของนเรนทราทิตย์ อายุได้ 20 ปี ได้ให้ช่างหล่อรูปของบิดาขึ้นด้วยทอง นี่เป็นอีกหนึ่งในหลักฐานว่า การสร้างรูปบุคคลเพื่อบูชานั้นมีอยู่จริง ส่วนรูปนั้นจะเป็น golden boy ได้หรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าไม่
ด้วยความสำคัญของนเรนทราทิตย์น่าจะเป็นเพียงรูปขนาดเล็ก ไม่ใหญ่ขนาดเท่า golden boy ได้ สองสถานที่ค้นพบก็ไม่ตรงกัน สามการนุ่งผ้าของรูปนี้จะต้องเป็นสมัยนครวัดที่หลังจากนั้นไปมาก และอย่างสุดท้ายก็คือเครื่องประดับที่ไม่อาจแต่งเหมือนกษัตริย์ได้แน่ๆ
พวกเค้าจะทิ้งฝีมือไว้ในเทวรูปชุดพระศิวะและเทวะสตรีอันงดงาม จากเทวสถานเมืองสุโขทัยที่แสดงกรฎมุทราและการกะไหล่ทอง ไม่ต่างไปจากเทวรูป golden boy เลย ฟังแล้วดูเหมือนนิยายชวนฝัน ก็ประมาณนี้ล่ะ
ในบรรดาปราสาทที่ไปมา
สดก็อกก็อกธม
หรือพนมรุ้งหนอ