Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
9 เมษายน 2552

เรื่องเล่าแห่งมหาภารตะยุทธิ์ (9)

เมื่อเหตุกาณ์การชิงตัวนางเทราปตีสงบลง
พี่น้องปาณฑพทั้งห้าจึงพากันไปเฝ้าท้าวทรุปัท
เมื่อท้าวทรุปัทเห็นเหน้าพี่น้องทั้งหลายก็รู้ว่า
พรที่ขอคราวนั้นสัมฤทธิ์ผลแล้วหนึ่งข้อ
คือได้อรชุน นักรบที่มายึดแคว้นปัญจาละคราวนั้นมาเป็นลูกเขย

พวกพี่นองปาณฑพก็อาศัยอยู่ที่แคว้นปัญจาละด้วยความสุขเรื่อยมา
แต่แล้ววันหนึ่งก็มีพราหมณ์เฒ่ากระหืดกระหอบเข้ามาหาอรชุน
แล้วบอกว่าแม่โคของตนนั้นถูกคนขโมยไป
อรชุนได้ฟังดังนั้นด้วยความร้อนใจที่จะออกไปช่วยพราหมณ์
จึงวิ่งเข้าไปในห้องเพื่อหยิบอาวุธ
แต่ในห้องนั้นก็มีนางเทรปตีและยุธิษฐิระนั่งคุยกันอยู่

อรชุนคว้าอาวุธได้ก็วิ่งออกไปช่วยพราหมณ์ทันที
เมื่ออรชุนกลับมาก็รู้สึกตัวว่าตนเองละเมิดข้อตกลงกันไว้
อรชุนจึงต้องเดินทางออกไปพเนจรเป็นเวลา 12 ปี
ซึ่งช่วงเวลานี้ อรชุนก็ได้ภรรยาและลูกชายหลายคน
แต่คนที่เป็นนักรบที่มีชื่อในสงครามที่สุด ก็คือ อภิมันยุ
บุตรของนางสุภัทรา น้องสาวของพระกฤษณะ แห่งแคว้นทวารกานั่นเอง
ซึ่งพระนางกุณตีเองก็เป็นน้องสาวของของท้าววาสุเทพ บิดาของพระกฤษณะอีกด้วย

(นารายณ์อวตารปางที่ 8 กำเนิดของพระกฤษณะ)

หลังจากที่ท้าวธฤตราษฏร์ทราบข่าวว่าเหล่าพี่น้องปาณฑพยังมีชีวิตอยู่
จึงได้ปรึกษาหารือกับภีษมะว่าจะทำอย่างไร
เพราะหนึ่งแคว้นย่อมมียุพราชได้เพียงคนเดียว
และตอนนี้ก็ตกอยู่กับทุรโยธน์ จะคืนตำแหน่งให้ยุธิษฐิระก็ไม่ได้
ภีษมะจึงตอบว่า ให้แบ่งพื้นที่แคว้นกุรุออกเป็นสองส่วน
ส่วนหนึ่งให้พี่น้องปาณฑพอีกส่วนหนึ่งเป็นของพี่น้องเการพ
เมื่อได้ฟังดังนั้น ท้าวธฤตราษฏร์จึงเรียกทุรโยธน์และยุธิษฐิระมาเข้าเฝ้า

ทุรโยธน์เลือกส่วนที่เป็นกรุงหัสตินาปุระ อันเป็นเมืองหลวงในปัจจุบัน
ฉนั้นยุธิษฐิระจึงได้พื้นที่ส่วนนอกที่แห้งแล้งไป
และแล้วเหล่าพี่น้องปาณฑพก็เดินทางไปยังพื้นที่ ก่อร่างสร้างเมือง
ปรับพื้นที่แห้งแล้งให้เขียวชอุ่ม โดยความช่วยเหลือของพระกฤษณะ
แล้วจึงให้ชื่อเมืองหลวงของพวกตนว่า กรุงอินทปัฏฐ์

เมื่อทุรโยธน์ ได้เห็นว่าเมืองอินทปัฏฐ์นั้นเจริญก้าวหน้า ประชาชนมั่งคั่ง
ทุรโยธน์จึงกริ่งเกรงว่าต่อไปพลเมืองของตนอาจจะย้ายไปอยู่กับพวกปาณฑพจนหมดสิ้น
จึงไปปรึกษากับท้าวสกุณิ ผู้เป็นลุงอันเชี่ยวชาญการทอดสกาอย่างหาไม่อาจผู้ใดจะเปรียบได้
เพราะทุรโยธน์รู้ว่ายุธิษฐิระพี่ใหญ่ของพวกปาณฑพนั้น ติดการเล่นสกางอมแงม
มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ จึงส่งสาร์นไปเชิญมาเล่นสกาด้วยกันที่กรุงหัสตินาปุระ

แม้ว่าพี่น้องทั้งหมดและนางเทราปตีจะห้ามปรามอย่างไร
ยุธิษฐิระก็หาฟังไม่ เมื่อต้องเล่นกับเซียนสกาอย่างท้าวสกุณิ
ยุธิษฐิระก็กลายเป็นสมันน้อยอย่างไม่ต้องสงสัย
ข้าวของทุกสิ่งที่ติดตัวมาหมดไปก็ยังไม่พอ ยังเดิมพันด้วยกรุงอินทปัฏฐ์
ไล่ไปจนถึงพี่น้องของตนเองและนางเทราปตีผุ้เป็นมเหสี
สุดท้ายยุธิษฐิระก็พนันกระทั่งตัวเอง

เมื่อแพ้พนัน ทุรโยธน์จึงให้กรรณะและพหุสาสันไปนำตัว
นางเทราปตีออกมายังท้องพระโรง มิไยที่พระนางจะห้ามปราม
แต่กรรณะและพหุสาสันก็ลากนางออกไปจนได้
เมื่อมาถึง ทุรโยธน์ก็เรียกนางไปนั่งที่ตัก
นางไม่ทำตามจึงถูกพหุสาสันจิกผมและดึงผ้านุ่งให้หลุดจากตัว

แต่เหมือนเทวดาเห็นใจไม่ว่าจะดึงผ้าอย่างไร
ก็เหมือนผ้านั้นจะมีความยาวไม่สิ้นสุด เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก
เมื่อเรื่องราวเริ่มจะเกินเลยไปมากแล้ว
ท้าวธฤตราษฏร์จึงได้เข้ามาไกล่เกลี่ยให้เลิกแล้วต่อกัน
ให้การพนันครั้งนั้นเป็นโมฆะ

แต่นางเทราปตีนั้นสุดแสนจะแค้นใจ จึงกล่าวคำสาปไว้ว่า
ทุรโยชน์นั้นต้องถูกภีมะทุบเข่าจนหัก เพราะบังอาจเรียกนางไปนั่งที่ตัก
กรรณะจะต้องถูกอรชุนฆ่าตาย และทุหศาสันผู้ที่กระทำการหยาบช้าที่สุด
จะต้องถูก ภีมะแหกอกและดื่มเลือดจนตายจึงจะสมใจนาง



Create Date : 09 เมษายน 2552
Last Update : 16 เมษายน 2553 9:57:12 น. 3 comments
Counter : 1456 Pageviews.  

 
ตัวละครเริ่ม เพียบ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 9 เมษายน 2552 เวลา:15:44:13 น.  

 
ฉันจะสาปให้เธอเสียใจไม่ต่างกับฉัน

ฉันจะสาปให้เธอรับกรรมที่ทำเอาไว้

ให้ความเจ็บมันสอน อย่าได้ไปทำกับใคร

เพราะที่ฉันเจ็บ ไม่ว่านานเพียงไร ฉันไม่ให้อภัย

วันนี้ตอนอวสานแล้ว....สาปภูษา


โดย: VET53 วันที่: 9 เมษายน 2552 เวลา:21:09:42 น.  

 
เมื่อคืนก็ดูค่ะ สาปภูษานาน นาน ดูที

อ่านมหาภารตยุทธ์ภาค VET53 อ่านเข้าใจง่ายค่ะ แต่ต้องเปิดกลับไปดู flow chart ที่ทำไว้ตอนอ่านถึงจะจำได้ว่าใครเป็นใครค่ะ

ไปเขมรไปเอง 4 คนค่ะ เปิดเน็ตเช่าโรงแรมเองทำ e-visa จากไทยเลย ไปบางกอกแอร์เวย์ลงที่เสียมราฐเลย (แต่เราว่าค่าเครื่องแพงไป ขากลับก่อนขึ้นเครื่องเสียค่าภาษีสนามบินอีก 25 usd ) ไปรถเขาเข้าทางด่านอรัญกันค่ะถ้าถูกหน่อยแต่เสียเวลา
ซื้อหนังสือ TRIPS เรื่องนครวัดนครธมไป ที่แรกก็ว่าจะไปจ้างไกด์ภาษาไทยที่โน่น เขาคิดวันละ 35 usd เลยถอย ก็เหมารถตู้ (มีแอร์)วันละ 25-35-45 usd แล้วแต่เส้นทาง ขับอย่างเดียวค่ะพูดไทยไม่ได้ อังกฤษไม่ได้ขอแผนที่จากโรงแรม รถตุ๊ก ๆ ก็มีแต่ร้อนหน่อย ถูกลง แต่เห็นเขาพูดภาษาอังกฤษได้ เคยเห็นเขาบริฟนักท่องเที่ยวก่อนปล่อยเที่ยว เก่งจริง ๆ แต่ไม่ใช่ไกด์คงนำเที่ยวไม่ได้ผิดกฎหมายเขามั้ง
พอไปมีแรงก็เก็บภาพลูกเดียวค่ะ บางทีก็เดินตามลูกทัวร์ไกด์อังกฤษ หรือ ภาษาอื่นไม่รู้เรื่องก็เล็งว่าเขาจอดตรงไหนก็แปลว่านี่แหละต้องถ่าย ก่อนถึงที่เที่ยวอยู่ในรถก็จะอ่านทริปคร่าว ๆ ก่อน
แต่ที่รู้มากจริงๆก็เอามาลงบล็อกนี่ค่ะต้องอ่านหลาย ๆที่สรุปแล้วเอามาเขียน มาดูรูป เออ ก็เข้าเค้า ถ่ายรูปได้สาระกะเขาเหมือนกันนะเรา


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:10:22:00 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]