หรือจะโสดจนสามสิบ... (เรื่องจริงหรือนี่) วันที่ 69
แย่ล่ะ ช่วงนี้ชีวิตเรียบง่ายซะเหลือเกิน จนรู้สึกว่าหมดมุกและหมดเรื่องเล่า ฮะฮะ
"พ่อบอกว่าผู้หญิงชอบผู้ชายตลก" แบบนี้ถ้าหมดมุกแล้วจะหมดแฟนไปด้วยไหมครับคุณพ่อ
ที่ไม่มีเรื่องเล่าอาจจะเพราะว่าวันนี้วันอาทิตย์ ซึ่งหมดเวลาไปแล้วครึ่งวันกับการนอนเฉื่อย ๆ เป็นตะพาบกลางคลอง
พอตื่นมาก็ลันล้าเข้าโลกอินเตอร์เน็ต ก่อนจะไปซีคอนตอนบ่ายแก่ ๆ และครึ้มใจไปนั่งซัดบะหมี่ที่ร้านเลขแปดหรือที่เรียกว่า ''ฮะจิบังราเมง''
เนื่องจากรออาหารนานนิดหน่อย เลยนั่งอ่านประวัติร้านพร้อมกับฟังเสียงท้องร้องเป็นแนวฮิปฮอป จ๊อก ๆ จุ๊ม ๆ
ที่มาของร้านที่ชื่อว่า ''ฮะจิบัง (แปลว่า 8) ราเมง'' มาจากที่ร้านสาขาแรกตั้งอยู่บนถนนสายหลักเลขที่ 8
ถ้าแบบนี้ร้านหมี่เมืองไทย ''ชายสี่หมี่เกี้ยว'' แสดงว่าคนก่อตั้งเป็นคุณชายคนที่สี่ของตระกูลตงมงเมียวรึเปล่า?
แต่ก็นะบางทีอาจจะไม่ใช่ก็ได้ อย่างเช่น ลอดช่องสิงคโปร์ ซึ่งหลายคนชอบคิดว่า ''ในเมื่อมันชื่อลอดช่องสิงคโปร์ แสดงว่าต้นกำเนิดของอาหารเขียว ๆ นี้ต้องมาจากสิงคโปร์แน่ ๆ''
ถึงขั้นมีนักพากย์กีฬาคนหนึ่งเรียกสิงคโปร์ว่าแดนลอดช่อง (เอาเข้าไปสิ)
แต่จริงๆ แล้วลอดช่องสิงคโปร์นั้นมีต้นกำเนิดในแดนสยามเนี่ยแหละ
โดยที่มันชื่อลอดช่องสิงคโปร์เพราะ แต่เดิมมีร้านขายลอดช่องร้านหนึ่งที่มีฝีมืออร่อยเหอะเหินเดินอากาศ ตั้งอยู่หน้าโรงภาพยนต์สิงคโปร์ บนถนนเยาวราช
ความอร่อยอันเลื่องลือทำให้คนทั่วไปในสมัยนั้นบอกต่อกันว่า ''ไปกินลอดช่องหน้าโรงหนังสิงคโปร์กันเถอะ''
นาน ๆ ไปก็เหลือแต่ ''ลอดช่องสิงคโปร์'' ซะอย่างนั้น
ด้วยเหตุนี้แล ใครไปเที่ยวสิงคโปร์ก็คงไม่ได้เจอเจ้าขนมเขียว ๆ ในน้ำกะทิหรอกเด้อ
Create Date : 28 มีนาคม 2553 |
Last Update : 28 มีนาคม 2553 23:36:36 น. |
|
9 comments
|
Counter : 903 Pageviews. |
|
|
|