หรือจะโสดจนสามสิบ (ฉบับนิยาย) ตอนที่ 4
ณ ออฟฟิศของสำนักพิมพ์ A date
พระเอกหน้าจืดนายโจ ถูกหัวหน้าร่างท้วมเรียกเข้าไปในคอกทำงาน (สี่เหลี่ยม partition แบบที่สำนักงานเค้าทำกัน) ตั้งแต่ไก่โห่ยามสาย แบบนี้ไม่ใช่ลางดีแน่นอน ฟันธง!!!
หัวหน้าร่างท้วมในเสื้อยืดสีชมพูเจ็บ ๆ ที่มีเขียนตัวหนังสือว่า ''กูไม่บ้าเกาหลี'' ชายผู้นี้ช่างมีออร่าขวางโลกเสียนี่ปะไร คราวก่อนก็เคยใส่ตัวหนึ่งเขียนว่า ''กูไม่บ้าแพนด้า''
ชายหัวหน้านั่งตัวอวบอยู่บนเก้าอี้นวม ด้วยทรงผมสีทองเป็นหย่อม ๆ เหมือนไฮโซชื่อ ม. แต่ว่ามีใบหน้าที่ยียวนเหมือนดีเจชื่อ น. (ใบ้ยังกะหนังสือดารา) ชายคนนี้มีสมญานามว่า บก. เอ็ด
บก. เอ็ด เปิดปากกล่าวว่า
''เฮ้ย โจ ช่วงนี้ งานเขียนคุณทำไมมันขาดสีสัน ยังกับส้มตำ ขาดปูม้า ปลาร้าสด ผู้อ่านหลายคนเริ่มบ่นมาแล้วนะวะเฮ้ย แถมสองเล่มหลัง ยังเขียนแถมจะเหมือนกัน ยังกะพิมพ์นิยม''
ผมได้แต่คิดในใจ ''เออ ใช่ ซวยแล้วไง'' แต่ยังไม่ทันที่คำแก้ต่างใด ๆ จะหลุดจากปากข้าน้อย บก.อ้วนก็พงาบ ๆ ต่อไปว่า
''บทความหนังของคุณ สำหรับเล่มใหม่นี้ผมจะของ scan กรรม ด้วยตนเองเลย ขอให้ส่งภายในวันพุธนี้''
ผมได้ฟังคำวาจาที่มาพร้อมกลิ่นก็แทบจะเก็บอาการเซ็งไม่อยู่ แต่ก่อนจะกล่าวอะไร บก.เอ็ดร่างใหญ่ก็พล่ามต่อไปอีกว่า
''โจ... เอ็งจำไอ้อ้วน ที่เคยเขียนคอลัมป์ กิน ชิม ดื่ม ที่ถูกย้ายได้ไหม ถ้าเอ็งยังไงเขียนงานแมว ๆ ออกมาอีกรับร้องโดนย้ายไปเขียนคอลัมป์ ปลูกเห็นสดแน่นอน''
ผมพยายามนึกถึงไอ้อ้วนคนนั้นอยู่ แต่ก็นึกไม่ออก แต่ที่รู้ได้แน่ ๆ คือไม่มีใครอ้วนกว่าเจ้า บก เห็ดสดข้างหน้านี้แน่นอน
''คือ...'' ผมพยายามจะชิงบทพูดมาบ้างแต่ก็ถูกแทรกอีกครา
''เออ โจ... ว่าแต่นายรู้จักดาราที่ชื่อ เร เรวดี ไหม''
ผมพยายามกระุตุ้นต่อมหมวกไต หรือต่อมอะไรที่ใช้จำ แต่นึกยังไงก็ไม่คุ้นกับดาราที่ชื่อเหมือนนักกรีฑาทีมชาติไทย
''ไม่คุ้น ไม่รู้จักครับ'' ผมตอบเรียบ ก่อนจะถูกมองกลับด้วยหางตาจากใบหน้าอวบ ๆ
''อะไรวะ ไม่รู้จักเหรอ เธอออกจะดัง เคยเล่นเป็นเพื่อนนางเอกเรื่องเรือนซุกรัก กับเรื่อง ระบมดวงดาว แถมยังได้เล่นเป็นเพื่อนนางเอกในหนังเรื่อง รถไฟฟ้าไม่มานะเธอ อีกต่างหาก''
วินาทีนี้ผมยังคงเออเหรอ คนอะไรเป็นเพื่อนนางเอกได้ตลอดปี แต่ก่อนที่ผมจะแสดงความคิดเห็นใด บก. คนเดิมก็ต่อไปว่า
''ช่วงหลังเธอผันบทบาทมาเป็นพิธีกรรายการอาหาร ก่อนจะเริ่มดังกับคอลัมป์กินอาหารเด็ด และหายหน้าไปเรียนต่อเมกาฯ สองปี และเพิ่งจะกลับมานี่แหละ''
ผมได้แต่คิด ''ทำไมมันรู้ดีจัง'' แต่ก็ยังไม่กล่าวอะไร เพราะรู้ว่านายบก. ตัวอวบยังคงพล่ามไม่สิ้น และก็จริงดังว่า มันก็พล่ามต่อไปว่า
''และน้องเร คนนี้แหละ พอเค้ากลับมาจากเมกาฯ เพื่อนฉันที่เป็นพี่เค้าก็ฝากให้มาทำงานกับบริษัทเรา''
''ว้าว'' ผมกล่าว และวินาทีนั้น นาย บก. ก็เหลือบมามองที่ผมแบบกรุ่มกริ่มแล้วพูดว่า
''ดูเอ็งเหมือนจะว่าง ๆ ที่สุด งั้นตั้งแต่พรุ่งน้คอยเป็นพี่เลี้ยงน้องเร ด้วยล่ะกัน''
ซะงั้นเลยเหรอ...
Create Date : 19 กันยายน 2553 |
Last Update : 19 กันยายน 2553 20:44:48 น. |
|
5 comments
|
Counter : 935 Pageviews. |
|
|
|
ได้เจิมคนแรกเลย