กันยายน 2552

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
หมอเถื่อน ณ บ้านไพร ตอนที่ 1

บทนำ

วสวัตตีเทพได้เล็งเห็นความเสื่อมทรามในโลกเพราะมนุษย์ได้กระทำแต่ความชั่วช้าเลวทรามให้เกิดแก่แผ่นดิน แผ่นน้ำ แผ่นฟ้าอย่างไม่มีสิ้นสุด ในสายตาของเทพ บ่อเกิดสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ล้วนมาจากเผ่าพันธุ์อารยันที่เทพเจ้าสร้างให้มาแต่โบราณกาลถูกผสมข้ามวรรณะ สายเลือดเกิดปนเปื้อนจนเกิดพวกจัณฑาลขึ้นมากมายทั่วโลก มนุษย์จึงทำแต่ในสิ่งโง่เขลา แผ่นดินเกิดความเสนียดหาความบริสุทธ์ได้ไม่ จึงจำต้องแก้ไข

วสวัตตีเทพเล็งเห็นการนี้จึงได้นำความไปทูลต่อองค์เทพเจ้าผู้รักษาจักรวาลและได้ขอพระราชทานเลือดหนึ่งหยดจากพระองค์ ต่อมาพญามารได้ประทานเลือดหยดนั้นให้แก่นางอรดีบุตรีของตนซึ่งอยู่ในโลกมนุษย์ได้ดื่มกินจนกำเนิดกุมารทิพย์ขึ้นในครรภ์ สายเลือดบริสุทธิ์ของเผ่าพันธุ์อารยันจึงจะกำเนิดขึ้นบนโลกอีกครั้ง

เมื่อองค์ผู้สืบสายเลือดของเทพเจ้าบังเกิดลงมายังโลก พญามารเกรงองค์กุมารจะไม่สนใจในเรื่องกำหนัดใคร่รัก ไม่ยอมสมสู่เพื่อให้กำเนิดทายาทสืบเผ่าพันธุ์ของชาวอารยันสืบต่อไปบนโลกจึงได้อัญเชิญดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของนางพญายักษ์สององค์มาสู่ครรภ์ของนางตัณหาและนางราคาอีกสองธิดาของตนเพื่อเป็นชายาขององค์กุมาร สามธิดามารได้พร้อมใจถ่ายทอดรูปลักษณ์อันสวยงามของตนสู่บุตรและบุตรีทั้งสาม หมอกฤษณ์หรือองค์กุมารทิพย์จึงมีรูปกายงดงามน่าเพ่งพิศเช่นหญิงสาวและยังคงมีเสน่หานุภาพของบุรุษอันเต็มเปี่ยมสามารถดึงดูดทั้งเพศชายเพศหญิง ดาวพระเกตุและโมนาลิซ่าต่างมีรูปร่างหน้าแบบเดียวกับมารดาเช่นกันทั้งสองต่างมีอาถรรพ์ของนางมารติดตัว


อสูรมาธูได้ลงมายังโลกมนุษย์ การกำเนิดขึ้นอีกครั้งของมหิษาสูรผู้กำเริบเสิบสานหมายตามมาปองร้ายองค์กุมารทิพย์ ผู้ทรงสายเลือดอารยันบริสุทธิ์ซึ่งเทพเจ้าได้ประทานให้ลงมายังโลกเพื่อแก้ไขสายเลือดอันเสื่อมทรามของมนุษย์ ศูนย์วิจัยอาวุธเทียนเล้ง(มังกรฟ้า)ซึ่งแฝงเร้นอยู่ในถ้ำขนาดมโหฬารในเทือกเขา(เขาหงส์) รัฐกะเหรี่ยงประเทศพม่าคือจุดกำเนิดของอสูร

โครงการอสูรมาธูแห่งศูนย์วิจัยอาวุธเล้นลับในหุบเขาของประเทศพม่าภายใต้การควบคุมของนักวิทยาศาสตร์ของประเทศมหาอำนาจแห่งเอเชีย เป้าหมายของประเทศมหาอำนาจใหม่อันจะเปลี่ยนสัตว์ป่าในเขตอินโดจีนทั้งหมดให้เป็นปราการเหล็กป้องกันการลุกขึ้นเหนือของชาติมหาอำนาจตะวันตกเพื่อเตรียมพร้อมกับสงครามโลกครั้งที่สามซึ่งจะอุบัติขึ้นในโลกอนาคต โดยมี ดร.เทิดไทสมิธนักวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ผู้คิดค้นเลือดพิษหรือโลหิตอสูรซึ่งเป็นเครื่องจักรขนาดเล็กระดับนาโนปะปนในโลหิตสามารถดูดซับธาตุโลหะในร่างกายสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นวงจรอิเลกโทรนิค เปลี่ยนเซลล์สิ่งมีชีวิตให้เป็นเครื่องจักรผสมและยังสามารถติดเชื้อจากคนหนึ่งสู่คนหนึ่ง สัตว์สู่สัตว์ได้ ดร.เทิดไทสมิธนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะผู้ต้องการใช้โครงการนี้เพื่อหมายปลุกชีพลูกเมียที่ตายไปแต่โครงการมิทันสำเร็จก็ต้องถูกสั่งระงับอย่างไม่มีกำหนดเพราะการทดลองไม่มีท่าทีจะสำเร็จและต้องเสียเงินงบประมาณไปเป็นจำนวนมาก

ดร.เทิดไทถูกนางมารตัณหาล่อลวงโดยเสนอให้ใช้เลือดของหมอกฤษณ์หรือองค์กุมารทิพย์เพื่อทำให้เลือดพิษสมบูรณ์ก่อนที่โครงการจะถุกปิดลง ดร.เทิดไท ได้ปล่อยไวรัสเข้าไปยังเมนคอมพิวเตอร์ทำให้สัตว์ชีวภาพถูกโปรแกรมไวรัสเข้าควบคุมและได้ออกมาเข่นฆ่าเหล่านักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ศูนย์วิจัยถูกปิดตายลงโดยอัตโนมัติแต่ก็มิทันที่สัตว์ชีวะจำนวนหนึ่งได้หลุดลอดออกไปได้ ณ ที่ใดที่หนึ่งในศูนย์วิจัย มีศพของพันตรีสงคราม เสนานรงค์ ต้นแบบของนักรบอสูรยังคงหลับใหลรอการปลุกชีพด้วยเลือดที่สมบูรณ์แบบสถานีวิจัยอาวุธเทียนเล้งได้กลายเป็นเพียงสถานที่รกร้างนับแต่บัดนั้น

จุดเริ่มต้นของคุณหมอนักเดินดง

 

 

ณ ชายขอบของแผ่นดินไทย ในตลาดกลางหุบเขาใหญ่อันไกลโพ้นอารยธรรมเส้นแบ่งเขตที่ไม่แน่นอนว่าแผ่นดินแห่งนี้อยู่ในประเทศใดจึงกลายเป็นเขตโนแมนแลนด์ หรือเขตที่ไม่อาจบังคับใช้กฎหมายของประเทศใดได้แหล่งรวมพวกอาชญากรและการค้าขายของผิดกฎหมายทุกชนิด มันคือตลาดมืดที่ค้าขายกันอย่างโจ่งครึ่มผู้คนจากหลากหลายเชื่อชาติทั้งไทย กะเหรี่ยง ม้ง อาข่า มอญ ฯลฯเดินกันให้ขวักไขว่ สินค้าของพวกเขามีตั้งแต่ของกินของใช้ธรรมดาไปจนถึงอาวุธสงครามคนขายคาดลูกปืนแทนสังวาล ส่งเสียงกระโชกโฮกฮากกับผู้ซื้อ ที่นี่จอแจเหลือประมาณและอาจมีเสียงปืนดังขึ้นได้ทุกเมื่อหากมีการฉ้อโกงกันเกิดขึ้นทั้งกับผู้ซื้อและผู้ขาย

ถัดไปคือหม้อตุ๋นดินเผาใบใหญ่ ของเหลวในหม้อกำลังเดือดปุดๆส่งกลิ่นไอโชยตลบที่พ่อค้ากำลังตักใส่ถ้วยยื่นส่งให้ลูกค้ายืนหรือนั่งยองๆกินตามแต่สะดวกรอบแผง นกป่าลิงค่างป่าในกรงขังร้องกันระงมรอการถูกเชือดกันตรงนั้นเลยชิ้นส่วนเครื่องในถูกชำแหละทิ้งเรี่ยราดตามพื้นส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งเรียกฝูงแมลงให้มาตอมกันหึงบนพื้นดินชุ่มแฉะไปด้วยน้ำฝน มีรอยเท้าย่ำเปรอะเป็นโคลนตม สภาพอันไม่สะอาดตาดูลวกๆและน่าจะเป็นบ่อเกิดแห่งเชื้อโรคความดิบเถื่อนของผู้คนที่นี่ซึ่งไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องความสะอาดกันมากนัก ชายหนุ่มในชุดสีขาวเดินเข้ามาสอบถามพ่อค้าคนนั้นชวนพูดคุยในเรื่องความสะอาด มันเป็นอะไรที่แปลกสำหรับคนที่นี่จนพ่อค้าต้องหยุดมือมองหน้า แรกว่าจะโกรธแต่เพราะเขามีรอยยิ้มที่สะกดสายตาได้เป็นอะไรที่แปลกมากชายหนุ่มผิวพรรณหมดจด สวมชุดสีขาว รองเท้าหนังขัดมัน บ่งบอกว่ามาจากต่างถิ่นที่ศิวิไลซ์กว่าในมือเขาหิ้วกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เวลาเดินเยื้องย่างหลีกเว้นผ่านแอ่งโคลนและแผงอันระเกะระกะด้วยท่าทีสำรวย

เหล่าทุรชนต่างเบนสายตามาที่หนุ่มสะองคนนี้อย่างไม่ลดละสำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าในตัวจะต้องมีทรัพย์พกมาไม่มากก็น้อย เหมือนเจอะแกะขาวหลงเข้าฝูงหมาป่าโดยแท้ไม่รู้ว่ามาถึงดินแดนไกลปืนเที่ยงแห่งนี้ได้อย่างไรแต่ใครจะสนเพราะขากลับไปเขาไม่คงไม่เหลือทรัพย์สิน หรือแม้แต่ชีวิตกลับออกไปแน่

“หมอขอนะเรื่องความสะอาดจะต้องใส่ใจล้างภาชนะให้มากกว่านี้ และจะต้องไม่มีเศษเนื้อหรือเครื่องในสัตว์วางล่อแมลงวันอีกมันจะเป็นสาเหตุให้เกิดอาการอุจจาระล่วง อาหารเป็นพิษ โรคบิดหมอขอให้คุณจัดวางแผงใหม่ให้ถูกสุขลักษณะ อย่าเอาสัตว์มาขังมาเฉือดแบบนี้ แต่เอ๊ะ สัตว์ป่าพวกนี้มันสัตว์ป่าสงวนนี่”

“ผมต้องขอโทษจริงๆครับ ต่อไปผมไม่ทำอีกแล้วครับ” พ่อค้าเอามือกุมท้ายทอยอย่างประหม่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนทำไมต้องฟังชายคนนี้พูดด้วย ไม่เข้าใจเหมือนกันแต่ดูดี ๆชายหนุ่มมีดวงตาสีฟ้าดูสวยดีชายหนุ่มเรียกนามแทนตัวเองว่า ‘หมอ’ ยิ้มมุมปากอย่างพอใจแต่ติดที่สัตว์ป่าสงวนพวกนี้ดวงตาสีฟ้ามองอย่างเศร้าสร้อย พวกมันพยายามกัดกรงขัง ดิ้นรนหาอิสรภาพอย่างน่าเวทนาทั้งที่ไม่มีทางหนีไปได้เขาขอซื้อสัตว์พวกนี้อย่างมีชีวิตเพื่อนำไปปล่อยป่า ทำเอาคนที่มุงดูต่างครางฮือพ่อค้าบอกเขาต้องค้าขาย สัตว์พวกนี้ซื้อมาในราคาแพงหวังกำไรจากการขายเนื้อของพวกมันชายหนุ่มสอบถามราคา พ่อค้าเลยฉวยโอกาสโก่งราคาแพงลิบ เขาไม่เกี่ยงไม่ต่อรองเลยตัดสินใจควักกระเป๋าดึงธนบัตรราคาหนึ่งพันบาทออกมาปึกใหญ่ตามที่พ่อค้าเรียกพวกผู้ร้ายต่างตาลุก ชายหนุ่มไม่เพียงมีเงินแต่มีมากเกินควรเกินคาดในกระเป๋านั้นคงเกินล้านบาท พวกมันต่างจ้องตากันเพื่อแย่งเหยื่อเหมือนหมาจะกัดกันแย่งชิ้นเนื้อ

“ผ.ผมไม่เอาเงินครับ ผ.ผมขอยกให้หมดเลยครับ” พ่อค้ามือสั่น ตาพร่า บอกไม่เอาเงินแล้ว

“พ่อค้าเป็นคนดี”ริมฝีปากสีชมพูแย้มยิ้มอีกครั้ง“หมอคิดไม่ผิดต่อไปพ่อค้าจะร่ำรวยมีเงินมากเท่านี้ ไม่ต้องมาฆ่าสัตว์ขายอีกแล้วสัญญาได้ไหมว่าต่อไปจะไม่ฆ่าสัตว์ที่น่าสงสารพวกนี้อีกแล้ว”

“ได้ครับผมจะเลิกตั้งแต่ตอนนี้เลย” กลับปฏิเสธไม่เอาเงินเสียนี่ มันเป็นคำพูดที่แม้แต่ตัวพ่อค้าเองยังไม่รู้ว่าตนเองพูดออกไปได้ยังไงเงินมากขนาดนี้ ทั้งชีวิตอาจหาไม่ได้อีกแล้ว แต่แปลกใจที่รู้สึกโล่งปลอดโปร่งใจมีความอิ่มเอิบอยู่ในใจอย่างบอกไม่ถูก พ่อค้าไม่รู้ว่าบุญได้เกิดขึ้นแล้ว อันที่จริงก็อยากเลิกทำอยู่เหมือนกันเพราะรู้ว่ามันบาปมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งอยากไปค้าขายในเมืองอยู่เหมือนกัน

หมอเป็นคนเปิดกรงเองปล่อยนกเงือกบินออกไปก่อน สัตว์จำพวกลิงค่างมีความไวอยู่แล้ว หลังเปิดกรงก็วิ่งเร็วเสียจนที่ใครจะจับตัวมันได้อีกชายหนุ่มยิ้มมุมปากอย่างมีความสุข พวกตัวนิ่ม ชะมด พ่อค้าแบกกรงเอาปล่อยชายป่าท้ายตลาดด้วยตนเองเป็นกระทำที่เด็ดเดี่ยวยิ่งนัก พอปล่อยสัตว์จนหมดก็กลับมาเก็บแผงทุกคนมุงดูพ่อค้าเนื้อตุ๋นเหมือนตัวประหลาด ทำไมเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ หรือชายหนุ่มจะมีไสยเวทย์มนต์ดำสะกดบังคับจิตใจคนได้พ่อค้ากล่าวลาหลายคนในตลาด บอกจะไปทำการค้าในเมืองที่เพราะตั้งใจไว้นานแล้วคุณหมอหนุ่มเข้ามากระซิบที่ข้างหูพ่อค้าแล้วแอบซุกเงินในกระเป๋ากางเกงให้ เพื่อป้องกันคนร้ายจะรู้แล้วมาดักปล้นตัวหมอเองก็ถูกสะกดรอยตามเหมือนกันในตอนนี้ หากแต่มีคนมากยังไม่สบโอกาส สัตว์ป่าที่ปล่อยไปเป็นเงินไม่น้อยเลยหมอไม่อยากให้พ่อค้าขาดทุนจนเกินไปจึงให้เงินพอสมควรเป็นทุนตั้งตัว พ่อค้าพูดเสียงสั่นเครือทีเดียว

“ล.แล้ว คุณหมอจะทำยังไงต่อไป แถวนี้มันมีโจรปล้นฆ่าหนีคดีมาหลายคน”

“หมอไม่อยากพกของที่นำความเดือดร้อนถึงชีวิตให้กับหมออีกแล้วนะเงินหาเอาเมื่อใดก็ได้ ขอแค่มียา มีเครื่องมือแพทย์หมอก็พอใจแล้ว และก็ไม่ต้องห่วงหมอหรอกนะหมอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว”พูดจบก็เขยิบตาให้ หมอหนุ่มหันไปประกาศกับทุกคนในตลาด “คุณๆน้าอาทั้งหลายครับพอจะมีใครทราบไหมว่าจะหารถโดยสารเดินทางข้ามไปฝังโน้นได้ยังไง คือ..ผมต้องการจะเดินทางข้ามแดนไปที่นั้น”มันคือเป้าหมายของหมอหนุ่มจากการมาที่ตลาดแห่งนี้ ชาวตลาดแต่ละคนถึงกับชะงักค้างมองหน้ากันหยุดชะงักภารกิจของตน หันมามองเจ้าของน้ำเสียงนั้น ต่างจ้องหน้าของเขาอย่างเป็นตัวประหลาดไม่พูดตอบรับในทันที ตลาดแห่งนี้คือสุดแดนแล้ว ข้ามฝั่งไปมีการรบพุ่งของชนกลุ่มน้อยอาวุธที่เอามาขายในตลาดก็ล้วนแต่ทหารหนีทัพเอามาขายทั้งสิ้น

“จะไปทำไมละพ่อหนุ่มไม่รู้รึไงว่าที่ฝังกะโน่นเขากำลังรบกันอยู่”

ในที่สุดก็มีชายแก่ในชุดเสื้อทรงกระสอบออกมาตอบรับหมอด้วยสำเนียงแปร่งหูแบบชาวเขา

เครื่องแต่งกายสองท่อน เสื้อทรงกระสอบสีแดงกางเกงครึ่งแข้งสีดำของแกบ่งบอกเอกลักษณ์เฉพาะของเผ่ากะเหรี่ยงชายหนุ่มแปลกหน้าพอใจชื้นขึ้น ที่มุมปากมีรอยยิ้มอยู่เสมอ บอกความจำนงของตนต้องการข้ามไปฝั่งโน่นจริงชายแก่เผ่ากะเหรี่ยงยิ่งไม่เข้าใจ ว่าทำไมจะต้องเดินทางไปในสถานที่อันตรายขนาดนั้นด้วยแกรีบพูดเตือนจนเหมือนลิ้นพันกันโดยสำเนียงที่ไม่ใช่ไทยแท้

หนุ่มผิวสวยพลันยิ้มละไมตอบอย่างนุ่มนวลก้มศีรษะให้ในความหวังดี “ผมทราบครับว่าฝังโน่นเขากำลังรบกันอยู่ทั้งยังมีคนเจ็บคนตายกันมาก ก็นี้แหละครับงานของหมอ ผมต้องไปช่วยคน”

“จะเอาชีวิตไปทิ้งเสียเปล่า ไม่มีใครอยากไปฝั่งพม่าเวลานี้กันหรอก”สำเนียงไม่ชัดของชายแก่พูดเร็วรี่

ไม่เข้าใจเอาเสียเลยถึงความต้องการของชายหนุ่มยังมีชายอีกสองสามคนตามเข้ามาล้อมวง เหมือนจะเอาใบหูมาชิดปากของเขาอยู่แล้วเจ้าตัวยังคงยืนยันคำเดิม บนใบหน้ามีรอยหยักยิ้มเล็กๆที่มุมปากอย่างไม่นึกประหวั่น ดวงตาสีฟ้ากับรอยยิ้มมันคือเสน่ห์โดยแท้คนแก่ยิ้มตอบแห้งๆ บนใบหน้าประดับด้วยความกังวล รู้สึกหวาดหวั่นแทนด้วยซ้ำทั้งที่ในใจรู้สึกถูกชะตาเป็นพิเศษต่อคนแปลกหน้ารูปงาม น้ำเสียงไพเราะผู้นี้แปลกใจมากต่อเป้าหมายในการเดินทางของเขา มีคำถามตามมาอีกชายหนุ่มหน้าขาวยืนยันคำเดิม คนในตลาดดูจะหันมาสนใจมากขึ้นทุกทีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถูกวางลงเจ้าตัวกล่าวแนะนำตัวอย่างสุภาพ น้ำเสียงทุ้มนุ่มบุคลิกสุภาพเรียบร้อยแบบนี้เป็นอะไรที่คนแถวนี้ไม่ค่อยได้พบได้เจอมากนักคงเป็นคนในเมืองเป็นแน่

“ผมขอแนะนำตัวต่อทุกคนนะครับคือ..ผมเป็นหมอจะอาสาไปช่วยคนที่ในฝังพม่า”

ตลอดเวลาเขาพยายามพูดให้สั้นและสรุปความที่สุดเสียงพูดเนิบช้าแต่ไพเราะของชายหนุ่มได้สะกดคนฟังให้ นิ่งงัน คนเข้ามาห้อมล้อมมากขึ้นทุกทีหลายคนแม้อาจฟังภาษาไทยได้เข้าใจเล็กน้อย พอจับความได้ถึงกับร้อง 'หมอ!'ขึ้นล้อ ๆกันจนเซ็งแซ่เพราะที่ตลาดแห่งนี้ก็เคยมีหมออาสาเดินทางมาให้บริการทางการแพทย์มาแล้วหมอใจดีมากและมีบุคลิกท่าทางแบบเดียวกับชายหนุ่มคนนี้ บางคนถึงกับร้องทักห้ามทันทีเพราะดูหมอหนุ่มจะผิวบางสะโอดสะองมากไปหน่อยไม่น่าจะทนต่อความยากลำบากนอกชายแดนได้เลยและยิ่งเสี่ยงอันตรายเกินไปอีกที่จะข้ามไปรัฐกะเหรี่ยงซึ่งกำลังตกอยู่ในห้วงสงครามอยู่ในขณะนี้

เหมือนเป็นเช่นเกราะกันภัยพาล ผองชนคนดีต่างแสดงตัวออกมาด้วยความห่วงใยเบียดดันพวกคิดร้ายให้ห่างออกไปทุกที แม้บางคนไม่อาจจะสื่อภาษาแต่ด้วยแววตาอันใสซื่อแสดงความเป็นมิตรคือภาษาสากลซึ่งรับรู้ได้ด้วยจิตใจ

คุณหมอได้รับการเชื้อเชิญให้นั่งพักยังเพิงไม้ข้างๆตลาดซึ่งมันสะอาดที่สุดแล้ว ความเป็นมิตรแห่งชาวตลาดปรากฏขึ้นบนใบหน้านั้นคือรอยยิ้มทั้งที่ตอนแรกจะดูไม่มีอารยะเอาเสียเลย บรรยากาศอันอึมครึมดูน่ากลัวในทีแรกได้เปลี่ยนเป็นความสว่างไสวในบัดดลใช้เวลาขณะรอรถเพราะมีคนขันอาสาจะไปตามให้นั้นทำการตรวจสุขภาพให้คนในตลาดไปพรางเพราะดูผู้คนที่นี้จะอยู่อย่างไม่ถูกสุขลักษณะนัก

แจกจ่ายยาและพร่ำแนะนำการใช้อย่างละเอียดแต่เพราะมันสื่อกันคนละภาษาทั้งยังความไม่เป็นระเบียบของผู้คนมันจึงเกิดความสับสนวุ่นวายไปทั้งตลาด แต่ด้วยบุคลิกอันใจเย็นตามวิสัยของคนมีอาชีพหมอเขาเข้าใจธรรมชาติของคนชนบทบ้านป่าเป็นอย่างดีจึงจัดการทุกอย่างด้วยตนเองอย่างเรียบร้อยไม่นานก็มีคนมาแจ้งว่าสามารถหารถได้แล้วและเป็นรถเพียงคันเดียวในเวลานี้ที่กล้าข้ามแดน

มีรถจิ๊บสีเขียวขี้ม้าวิ่งฝ่าเข้ามาใจกลางตลาดกดเเตรไล่เสียงดังลั่น ผู้คนพากันวิ่งฉากหลบจากหน้ารถกันอย่างจ้าละหวัน แตกฮือเหมือนผึ้งแตกรังรถเลี้ยวโค้งอย่างแรง สาดโคลนใส่ทั้งคนทั้งแฝงลอยเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปตาม ๆกัน คุณหมอต้องละมือจากคนไข้ลุกขึ้นมาดูความวุ่นวายนั้นรู้สึกว่าคนขับรถช่างไม่มีมารยาทเสียจริง

เครื่องยนต์ถูกดับ ท่อไอเสียโดนน้ำเป็นไอลอยกรุ่นรถจิ๊บสมัยสงครามโลกสีเขียวขี้ม้าจอดสงบนิ่ง ผู้คนต่างตีวงล้อมอยู่ห่างๆด้วยเกรงกลัวคนบนรถไม่น้อยเพราะเป็นนักเลงคุมตลาด ไม่มีใครกล้าหือออกมาโวยวายมีแต่อาการเข่นเขี้ยวฮึดฮัดชักสีหน้าก่นด่าอยู่ในใจเท่านั้นชายคนนั้นผมยาวหยิกกระเซิง ก้าวขาลงมายืนเอามือเท้าสะเอวหันซ้ายหันขวาเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง มีใครคนหนึ่งยกมือขึ้นแล้วชี้นิ้วหยิกๆมาที่คุณหมอ บอกใบ้ว่านี่คือคนที่ตามหา

ชายแก่เมื่อครู่เข้ามาสะกิดบอกคุณหมอด้วยสีหน้าตื่นลนว่าเจ้าของรถจิ๊บคันนั้นคือคนที่อาสามารับคุณหมอข้ามชายแดน คุณหมอถึงกับกลืนน้ำลายฝืดมองชายแก่สลับกับชายคนนั้น เขาผิวคล้ำดำแดง ไว้หนวดเคราหนา เส้นผมยาวหยักศก ผอมสูงไหลกว้างแต่ก็ดูแกร่งไปทั้งตัว โดยเฉพาะที่สวมแว่นตาดำกรอบใหญ่ มองสีหน้าและอารมณ์ไม่ออก

ชายผู้ไว้หนวดเคราหนายืนเอามือเท้าสะเอวจ้องมองมาที่คุณหมออย่างเฉยชาเผยให้เห็นส่วนสูงของร่างกายน่าจะสูงเกือบ 190เซนติเมตร ผอมมากจนแก้มตอบ แขนขายาวแลดูเก้งก้าง บุคลิกอันดูหยาบกร้านแข็งๆดูไม่น่าไว้วางใจเอาซะเลยคือคนที่คุณหมอจะต้องอาศัยโดยสารข้ามไปฝังรัฐกะเหรี่ยงเพื่อช่วยเหลือผู้คนตามเป้าหมาย

หมอหนุ่มมีท่าทีกริ่งเกรงไปไม่น้อยเหมือนกันเมื่อชายร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาคนนี้แลดูเหี้ยมเกรียมหน้าตาออกจะดุดันน่ากลัวเหมือนโจรผู้ร้ายแต่ด้วยอุดมการณ์ที่ตั้งเอาไว้ขอเอาวิชาแพทย์ช่วยเหลือผู้คนแม้ชีวิตก็ยอมพลีได้จึงตรงเข้าไปกล่าวทักทายทันที

“สวัสดีครับผมชื่อกฤษณ์เป็นหมออาสาขอฝากตัวโดยสารไปกับรถของคุณด้วยนะครับ” ส่งมือออกไปทักทายทันทีชายคนตรงหน้าก้มมองมือของเขาอย่างเฉยชา

ไม่มีคำพูดใดออกจากปากของชายในชุดดำอันเงียบขรึมจนดูน่ากลัวแว่นตาดำทะมึนที่เขาสวมใส่ดูไม่ออกเลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่ อีกฝ่ายยกมือค้างจ้องมองชายตรงหน้าจนเกิดอาการประหม่าอย่างที่ไม่เป็นมาก่อนริมฝีปากอีกฝ่ายเหมือนจะแสยะก่อนจะเบิกยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบสามสิบสองซี่เป็นการตอบรับส่งมือมาจับเขย่าทักทายคุณหมอต้องยิ้มอย่างโล่งอกกล่าวแนะนำตัวเสียงใสอีกครั้งต่อหน้าชายร่างทะมึน

“ผมชื่อกฤษณ์ ฝากตัวด้วยนะครับ”




Create Date : 22 กันยายน 2552
Last Update : 8 กรกฎาคม 2557 22:44:06 น.
Counter : 2325 Pageviews.

4 comments
  
สวัสดีครับขอประเดิม คูหาเองเป็นคนแรกนะ ก็คงจะเป็นนักอ่านนิยาย"หมอเถื่อนฯ"เท่านั่นแหละครับที่เข้ามาในนี่ยังไงก็เข้ามาพูดกันได้ ไม่ต้องเรื่องนิยายเอาเรื่องอื่นๆก็ได้ครับ
โดย: doctorwar (doctorwar ) วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:23:43:33 น.
  
ดีครับเพื่อน เข้ามาทักทายก่อนไปนอนครับ คงสบายดีนะครับ เป็นกำลังใจให้กันครับอิอิ
โดย: เพื่อนโนบิตะ (เขาพนมรุ้ง ) วันที่: 11 ตุลาคม 2552 เวลา:23:53:57 น.
  
กำลังลงตามมาอยู่นะครับเพื่อน

ยังดีนะที่มี doctorwar มาอยู่เป็นเพื่อนกันครับ

ฝันดีครับ55
โดย: เพื่อนโนบิตะ IP: 110.164.91.114 วันที่: 14 ตุลาคม 2552 เวลา:0:55:04 น.
  
ตำนานที่เล่าตอนแรกทำให้เรื่องน่าสนใจมากเลยค่ะ
อยากรู้ว่าจะเกี่ยวกับเนื้อเรื่องยังไงดำเนินยังไงใครเป็นใครทายาทใคร มีอะไรพิเศษรึเปล่า
อ่านตอนแรกแล้ว น่าสนใจค่ะ
โดย: เปปเปอร์มินท์ IP: 101.108.156.74 วันที่: 24 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:29:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แจ็ค ในสวนถั่ว
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



ยินดีต้อนรับสู่บ้านของคนชอบคิดชอบเขียนครับ
New Comments