รถเมล์
พูดถึงพาหนะการเดินทางมาเกือบครบแล้ว ดังนั้นวันนี้ขอต่อด้วยรถที่เราใช้บ่อยที่สุดก็คือรถเมล์
แต่วันนี้จะขอเปิดฉากจากสาระขันเรื่องนี้กันก่อนครับ ชื่อว่า The bus in London
First bus passenger: Pardon me; Im on holiday in London. Where do I get off the Tate gallery?
Second bus passenger: Keep you eye on me and get off two stops before I do.
โธ่พี่ ก็แมวที่ไหนจะไปรู้ล่ะครับว่าพี่จะลงป้ายไหน แล้วผมจะได้ลงก่อนพี่ 2 ป้ายได้
เอาล่ะครับ ขำกันพอสบายอารมณ์ก็ลองมาดูศัพท์แสงเกี่ยวข้องกับรถเมล์กันหน่อยนะครับ
Keep your eye on somebody ความหมายคือ to carefully watch that someone does ถอดความก็คือ จับตามอง ไงล่ะครับ
Get on the bus และ get off the bus ก็คือขึ้นและลงรถเมล์ ใช้เหมือนกับ Subway และ Sky train นั่นแหละครับ
Bus stopคือ a place at the side of the road, marked with a sign, where buses stop for passenger ป้ายรถเมล์ ในโจ๊กข้างบนเขาพูดย่อเป็น stop
Air-conditioned busก็รถเมล์ติดแอร์ที่เราเรียกติดปากว่ารถ ป.อ.(รถปรับอากาศ)
Bus driver ก็คนขับรถ ส่วนกระเป๋าเก็บค่าโดยสารก็ The fare collector ครับ จริงๆ ต่างประเทศเขาไม่มีกระเป๋าอย่างบ้านเรานะครับ ใช้วิธีขึ้นไปผู้โดยสารก็หยอดเหรียญเอาเอง ดังนั้นบนรถจะมีแค่ driver คนเดียว
รถเมล์เบอร์อะไรก็ใช้คำว่า Bus no. เช่น You could take the bus no. 91 to Ramkhamhaeng university
ถ้าเราขึ้นรถทันก็เรียกว่า Catch a bus แต่ถ้ามาที่ป้ายช้าไปหน่อยขึ้นไม่ทันก็เรียกว่า miss a bus สองคำนี้ใช้ได้กับพาหนะทุกประเภทนะครับ ตัวอย่างประโยคเช่น แม่บอกกับลูกตอนเช้าๆ ว่า Get up now or youll miss the bus to school
อาการที่ยืนรอรถเมล์นั้นก็ใช้ศัพท์ธรรมดาครับว่า wait for a bus เช่น Many students wait for a bus before and after school(มีเด็กนักเรียนจำนวนมากรอรถเมล์ก่อนเวลาไปและกลับจากโรงเรียน)
ถ้าจะบอกใครว่าเรานั่งรถเมล์มาทำงานก็พูดว่า I ride/take a bus to work
รถโรงเรียนก็ a school bus ครับ
Bus pass คือ a special ticket giving cheap or free bus travel ก็ตั๋วรถเมล์ราคาพิเศษครับ ผมไม่แน่ใจว่าขสมก เขามีตั๋วประเภทนี้หรือไม่นะครับ
Bus fare ก็ค่าโดยสารครับ คงจำกันได้นะครับว่า Fare หมายถึงค่าโดยสารไม่ว่าจะใช้กับพาหนะอะไรก็ตาม เมืองไทยนี่ความสะดวก ความปลอดภัยของการใช้บริการรถเมล์ไม่เคยวิ่งไล่ทันราคาตั๋วเลยครับ นี่ก็ได้ข่าวว่ามี.ค.นี้ก็จะขึ้นอีกแล้ว การขึ้นค่าโดยสารพูดได้ 2 แบบคือพูดเป็นกริยาก็ to raise the fare หรือ พูดเป็นคำนามก็ the fare increase เช่น BMTA (ขสมก) is going to raise the bus fare in coming March The rising oil price is a key reason to the fare increase (ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็นเหตุผลสำคัญในการขึ้นราคาตั๋วโดยสาร)
ยานพาหนะแต่ละแบบก็มีลักษณะเฉพาะตัวและมีเสน่ห์ไปคนละแบบครับ ดังนั้นหลายๆคนก็คงมีเรื่องราวประทับใจทั้งทางดีและไม่ดีกับรถเมล์บ้าง ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ในชีวิต ที่สำคัญเรื่องรถรานี่อย่าประมาทก็แล้วกันครับ __________________________________________________ ขอขอบคุณพี่ไก่(Watcharin Darapen) สำหรับความรู้ดีมีสาระประโยชน์ หากเพื่อนท่านใดสนใจเรื่องราวที่ลงไว้ก่อนหน้า สามารถติดตามได้ที่นี่ boonblue blog //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=box-x&month=04-2008&date=10&group=18&gblog=31
Create Date : 11 เมษายน 2551 |
Last Update : 11 เมษายน 2551 10:33:39 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1404 Pageviews. |
|
|
|