Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
15 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 

พลังสุขภาพจิต พลิกวิกฤติเป็นโอกาส



ตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงในภาคใต้
กรมสุขภาพจิตได้พยายามสร้างหลักสูตร ที่จะใช้พัฒนาคนให้มีจิตใจเข้มแข็ง อดทน
เรียกว่า Resilience หรือ อึด ฮึด สู

Resilience เป็นความสามารถทางจิตใจ ที่จะอดทนต่อความทุกข์เมื่อต้องเผชิญกับวิกฤติใน ชีวิต (อึด)
แล้วสามารถสร้างกำลังใจให้สู้ (ฮึด) ลงมือแก้ปัญหาจนผ่านพ้นมาได้ (สู้)
กว่าจะก้าวพ้นช่วงวิกฤติ ย่อมมีกระบวนการที่ต้องสางใจที่ยับเยินด้วยความ ทุกข์ กังวล ท้อแท้
ให้คลี่คลายสู่ความสงบและมีสติจนสามารถใช้สติแก้ปัญหา
ในระหว่างแก้ปัญหาก็อาจเจอขวากหนามให้ต้องล้มลุกคลุกคลาน แต่ก็กระตุ้นกำลังใจให้ลุกขึ้นมาใหม่

คนที่ผ่านกระบวนการดังกล่าว จนสามารถเอาชนะปัญหาและฟื้นจิตใจให้กลับคืนสู่ ภาวะปกติได้
มักจะเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง กลายเป็นวัคซีนใจที่ทำให้ใจเข้มแข็งมั่นคงยิ่งขึ้น
พร้อมเผชิญกับปัญหาอุปสรรคละลอกใหม่
จึงเป็นกระบวนการที่ทำให้คนเราพัฒนาและมีวุฒิภาวะมากขึ้น

ทั้งหมดนี้คือ อึด ฮึด สู้นั่นเอง

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่คนไทยเจอกับพิษวิกฤติต้มยำกุ้ง หรือที่พูดกันว่า “ยุคฟองสบู่แตก”
คนที่ได้รับผลกระทบย่อมมีอาการจิตตกกันทุกคน ทั้งทุกข์ กังวล มึนงง สับสนและเครียดจัดกับหนี้สิน
เป็นภาวะที่เหมือนกับถูกกระแทกให้ล้มทั้งยืน

แต่ก็มีบางคนที่พยายามลุกขึ้นมาด้วยตัวเองพร้อมกับก้าวเดินต่อไป
ในขณะที่บางคนหมดหวังที่จะลุกขึ้นมาสู้
คนที่ลุกขึ้นมาได้ และพร้อมที่จะรับมือกับวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์อย่างมีสติ (แม้จิตจะตก แต่ก็ฟื้นได้เร็ว)
ก็คือคนที่มี Resilience ดีนั่นเอง

ตลอดชั่วชีวิตของคนเราแต่ละคน มีสถานการณ์ที่พิสูจน์พลังอึด ฮึด สู้ ของเรามากมาย
ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ผิดหวัง อย่างเรื่องการสอบตก อกหัก
สถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกล้มเหลวอย่างทำงานไม่สำเร็จ ธุรกิจล้ม

สถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกท้อแท้ สิ้นหวังอย่างตกงาน
สถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกทุกข์ระทมอย่างการสูญเสียสมาชิกในครอบครัว
สถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกโกรธเคือง คับข้องใจ หวั่นไหว
กังวลอย่างเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง การไม่ได้รับความเป็นธรรม

ดังนั้น การพัฒนาจิตใจให้มีพลังอึด ฮึด สู้ หรือพัฒนาคนให้เป็นนักสู้ชีวิตจึงเป็นเรื่องสำคัญ
เพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ชีวิตของคนเราดำเนินต่อไปได้เป็นปกติ ช่วยป้องกันความเจ็บป่วยทางใจ
ช่วยลดปัญหาการฆ่าตัวตาย และช่วยพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น

ศาสตราจารย์ ดร.อารี สัณหฉวี เคยเขียนหนังสือเรื่อง ทฤษฎีการเรียนรู้ของสมอง
ซึ่งมีข้อมูลส่วนหนึ่งที่กล่าวถึงงานวิจัยของเอมมี เวอร์เนอร์และคณะ ซึ่งเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับ Resilience
โดยเขาได้ทำการวิจัยเด็กแรกเกิด ๒๐๐ คนที่เกาะฮาวาย ที่ล้วนอยู่ในครอบครัวที่มีปัญหาทั้งสิ้น

เขาเก็บข้อมูลตั้งแต่ปี ๒๔๙๘ และติดตามการใช้ชีวิตของเด็กเหล่านั้นมาตลอด ๔๐ ปี
พบว่าเด็ก ๒ ใน ๓ มีชีวิตล้มเหลว
เช่น กลายเป็นอาชญากร เรียนไม่จบ มีลูกตั้งแต่วัยรุ่น ประกอบอาชีพที่มีรายได้ต่ำ
แต่ ๑ ใน ๓ หรือ ๗๒ คนจาก ๒๐๐ คน กลับประสบความสำเร็จในชีวิต
คือ เรียนจบมหาวิทยาลัย มีอาชีพและครอบครัวที่มั่นคง ทั้งๆ ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีปัญหาไม่เหมาะสม
ซึ่งเขาพบว่าเด็กกลุ่มนี้มีปัจจัยร่วม ได้แก่ มีสติปัญญาปานกลาง สุขภาพแข็งแรง มีอารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใส
มีลักษณะอยากรู้อยากเห็น ชอบสำรวจสิ่งแวดล้อม สนใจงานอดิเรกที่ทำกับเพื่อน
มีผู้ใหญ่ (ที่ไม่ใช่พ่อแม่) คอยให้ความอบอุ่นใจ ให้กำลังใจและเป็นตัวแบบ เช่น ปู่ ย่า หรือครู
ได้รับมอบหมายภาระให้รับผิดชอบในครอบครัว เช่น ทำงานในบ้าน
(ซึ่งบางคนต้องทำงานที่จัดว่าเป็นงานหนักสำหรับเด็ก แต่ทำให้เขามีความรับผิดชอบเป็นนิสัย)
และประการสุดท้ายเด็กมีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง มีจุดมุ่งหมายในชีวิต และไม่ยอมแพ้ต่อปัญหา

ถ้าจะพัฒนาให้เด็กเป็นนักสู้ชีวิต มีพลังอึด ฮึด สู้ ก็ต้องพัฒนาเด็กให้มีสุขภาพกายแข็งแรง
มีคุณลักษณะของความเป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์ (อยากรู้อยากเห็น ชอบสำรวจ) มีทักษะทางสังคมที่ดี
มีความรับผิดชอบ มีความภาคภูมิใจในตัวเอง มีเป้าหมายชีวิต
มีความอดทนต่อความยากลำบากและความผิดหวัง และมีคนคอยสนับสนุน ให้กำลังใจค่ะ

สำหรับผู้ใหญ่ จะเป็นนักสู้ชีวิตได้ ต้องพัฒนาความคิดทางบวก
(เพื่อเพิ่มความอดทนต่อปัญหา หรือมีกำลังใจที่จะสู้)
มีวิธีปรับใจที่เสียศูนย์ให้มีสติ ฝึกคิดแก้ปัญหาได้หลายๆ ทาง (มีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา)
เสริมความภาคภูมิใจในตนเอง และมีคนคอยสนับสนุนให้กำลังใจ

ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจ การเมือง และความรุนแรงในสังคม
คุณพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาวิกฤติด้วยการพัฒนาพลังอึด ฮึด สู้ แล้วหรือยังคะ


ข้อมูลโดย : //www.bangkokbiznews.com
ที่มา : //www.dmh.go.th
ภาพจาก : //www.fotosearch.com




 

Create Date : 15 มีนาคม 2554
0 comments
Last Update : 15 มีนาคม 2554 17:40:57 น.
Counter : 1285 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.