|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
ไปเที่ยวเมืองน่านกัน ตอนที่ 1 |
|
ไปเที่ยวเมืองน่านกัน ตอนที่ 1
เมืองน่าน ได้ยินคำเล่าลือกันมานานว่า เป็นเมืองที่สวยงาม ธรรมชาติ ประเพณีดั้งเดิมของชาวน่านยังคงรักษาไว้เป็นอย่างดี เป็นเมืองสงบเงียบ มีสถานที่สวยงามหลายแห่งที่ต้องไปเที่ยวชมให้ ได้ ค่ะ ทริปนี้ ที่จริงจะมีไปทั้งหมด 8 คน แต่พอถึงวันไปเพื่อนของน้องจินนี่ไม่ไปถึงสองคน ทุกคนก็บ่น ๆ กัน บ้างว่า ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น เพราะจองห้องพักไว้ ทุกแห่งแล้ว ต่อไปถ้ามีการจัดทริปอีกต้องเก็บค่าจองที่พักกันล่วงหน้า กันก่อนเสียแล้ว จะได้ไม่ต้องมีปัญหาเช่นนี้ เนาะ อิอิ ทริปนี้ มีแยกกันตอนขาไปขากลับหลายอย่าง กล่าวคือ พวกที่ทำงาน คือ ก้อยกับจินนี่ต้องทำงานถึงศุกร์เย็น จึงไป เครื่องบินไฟล์เย็น น้องมอม ถึงจะไม่ได้ทำงาน มอมเป็นคนเก่ง เธอ เดินทางด้วยเครื่องบินไปตั้งแต่ช่วงสายของวันศุกร์มั้ง เลยไปเดินเที่ยวคนเดียวที่เมืองน่านก่อนใครเลย ส่วนฉัน แดงมารับ ฉันตั้งแต่บ่ายสี่โมงเย็นวันที่ 13 พ.ย. เพื่อไปที่บ้านแดงก่อน เพราะว่า บัง ศิษย์เขย ต้องทำงานเลิกงาน 17.00 น. พวกเรา 3 คนไปรถทัวร์ เป็นของสมบัติทัวร์ แบบวีไอพี 800 บาท ต่อ คน แต่ดูแล้วไม่รู้ว่าวีไอพีอย่างไร มีแค่ลดที่นั่งลงเท่านั้น คือ มีที่นั่งคู่ กับที่นั่งเดี่ยว ปรับเอนนอนได้เล็กน้อยเท่านั้น ที่นั่งก็ ไม่ได้กว้างอะไรมากนัก ศิษย์เขยยังบ่นเลยว่าเมื่อยตัวไปหมด เมื่อบัง มาแล้ว ก็ต้องรีบอาบน้ำ กว่าจะได้ออกจากบ้านก็เป็นเวลา 18.30 น.มั้ง รถทัวร์จะออก 20.30 น. บัง เป็นคนขับรถ มีน้องบอส ลูกชายคนสุดท้องไปด้วย เพื่อจะได้ขับรถตอนขากลับ รถติดบางช่วงมากเหมือนกัน ลุ้นกันน่าดูแต่ก็ทันเวลา รอรถเพราะเลทไป 15 นาที คือ รถออกน่าจะประมาณเกือบ 3 ทุ่ม ค่ะ
สถานีที่แถวลาดพร้าวของบริษัทสมบัติทัวร์ ค่ะ สถานีนี้ มีรถทัวร์ไปเหนือหลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ เชียงราย น่าน รถทัวร์ที่เราจะไปน่าน มีทั้งรถแอร์ธรรมดาและแอร์ วีไอพี รถน่านแอร์ธรรมดาออกก่อนรถน่านวีไอพี ประมาณ 20 นาทีเห็นจะได้ น่าจะเกือบ 3 ทุ่ม รถน่านวีไอพี ที่พวกเราจองตั๋วไว้ ก็มาเทียบท่า พวกเรานำกระเป๋าเดินทางไปให้คนรถเพื่อนำไปไว้ใต้ ท้องรถ ที่นั่งของเราอยู่แถวสามค่ะ แถวหนึ่ง มีที่นั่งเรียงกัน (แนวขวาง 3 ที่นั่ง คือ สองที่นั่งและหนึ่งที่นั่ง ฉันนั่ง คู่กับแดง ศิษย์เขยบัง นั่งเก้าอี้เดี่ยว ค่ะ รถเริ่มออกแล่นไป น่าจะเกือบสามทุ่ม พวกเราก็หลับ ๆ ตื่น ๆ ไปตลอด ทาง จนถึงพิษณุโลก เขาก็ให้ผู้โดยสารลงไปทานข้าว รอบดึก ตอนนั้นน่าจะประมาณ ตีสองน่าจะได้ มีข้าวต้มกินกับกับ เช่น ถั่วลิสง เกี้ยมฉ่าย เป็นต้น แล้วก็มีข้าวราดแกง ทุกคนเลือกกินได้เพียงอย่างเดียว พวกเราเลือกกินข้าวต้มกุ๊ยกัน ข้าว ต้มไม่ค่อยร้อนนัก พวกเรากินคนละสองถ้วย เสร็จจากการกินแล้วก็เข้าคิวเข้าห้องน้ำกันต่อไป ตอนนี้คนไม่ค่อยมาก แล้ว เพราะส่วนใหญ่เข้าตอนลงจากรถทันที แต่พวกเรากินก่อน น่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าน่าจะได้ ต่างก็ขึ้นรถกัน ต้องจำทะเบียนรถให้ดีเพราะว่ารถทัวร์ของสมบัติทัวร์มีหลายค้นมาจอด ขึ้นรถแล้ว ก็คุยกันสักพัก ต่างคนต่างก็หลับต่อ แต่ก็เป็นการหลับ ๆ ตื่น ๆ บางช่วงก็ตื่นขึ้นมาดูสองข้างทาง ซึ่งมีแสง จากเสาไฟของหลวง ก็พอเห็นสองข้างทางบ้าง น่าจะประมาณเกือบ 6โมง ฟ้าเริ่มสว่างสลัว ๆ รถทัวร์เข้าชานชลาแล้ว พวกเราไปรอรับกระเป๋าจากคนรถที่ทยอยขนลงจาก ใต้ท้องรถให้เรา ที่ชานชลานี้ มีห้องน้ำให้เข้า ล้างหน้าล้างตาแปรงฟัน ต้องรอ ๆ กัน เพราะคนเยอะเหมือนกัน พวกรถสองแถว ก็มาตะโกนเรียกผู้โดยสาร เข้าเมืองบ้าง ไปต่อเข้าเมืองแพร่บ้าง มี แม่ค้ามาตั้งร้านขายของกิน เช่น ขนมก๊อบแก๊บ ข้าวหลาม ฯ พวกเราเข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน เราผู้หญิงก็ทาแป้ง ทาปาก นั่ง รอรถตู้ที่แดงว่าจ้างมารับประมาณ 8 โมง ซึ่งเรามาถึงเช้า มาก แดงเลยโทรบอกให้เขามารับพวกเรา 7.30 น. เพราะน้อง ๆ ที่มา ก่อนตั้งแต่เมื่อวาน บอกให้ไปรับ 9 โมงที่โรงแรม เวลายังมีเหลือมาก แดงเดินไปตลาดซื้อปาท่งโก๋ หมูปิ้ง ส่วนฉันเดิน ถ่ายรูปรอบ ๆ สถานี ค่ะ เจอแดงกลับจากตลาด เลยกินปาท่งโกไป 1 ตัว หมูปิ้ง 1 ไม้ ค่ะ
ที่สถานีจังหวัดน่านและบริเวณรอบ ๆ สถานี ค่ะ
มอมโทรมาบอกว่า มากินข้าวเลือดหมูแถว ๆ ตลาด แดงอาสารอ คนขับรถ ให้ฉันและเขยบังไปหามอมและกินข้าวเช้ากับมอม เดินจนเจอมอมที่ร้านขายโจ๊ก ขายข้าวเลือดหมู ฉันสั่งเกาเหลาเลือด หมู เขยบังกินโจ๊ก พักใหญ่ ๆ แดงก็มาพร้อมกับรถตู้ กินข้าวกันเสร็จแล้ว พวกเราก็ขึ้นรถตู้ มอมพาพวกเราไปที่โฮมสเตย์ ที่พักเมื่อคืนนี้ ชื่อว่า บ้าน ๆ น่าน ๆ เป็นโฮมสเตย์ ที่เป็นเรือนไม้ มีต้นไม้ต้นใหญ่หลายต้น ปลูกดอกไม้เป็นหย่อม ๆ ค่ะ มีห้องสมุดให้แขกผู้มาพักได้อ่านหนังสือ จัดมุมโชว์ มีของแฮนเมดขายด้วย มีผ้าทางเหนือขายเป็นผืน ๆ ห้องพักมีอยู่ไม่ กี่ห้อง บางห้องพักเดี่ยว บางห้องพักคู่ พักสามก็มี มาชมภาพต่าง ๆ ที่ฉันถ่ายบ้าง แดงถ่ายบ้าง ค่ะ
ห้องสมุดและห้องต่าง ๆ ในโฮมสเตย์ ค่ะ
อยู่ชื่นชมโฮมสเตย์ บ้าน ๆ น่าน ๆ น่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อรอให้ ถึง เกือบ 9 โมง เพื่อไปรับ จินนี่และก้อยที่อีกโรงแรมหนึ่ง คือ โรงแรม ภูหรรษา ซึ่งไม่ไกลจาก โฮมสเตย์ที่มอมพักอยู่ แต่ที่นี่ เป็นตึก ๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ
หลังจากมารับจินนี่และก้อยเรียบร้อยแล้ว แห่งแรกที่ตั้ม โชว์เฟอร์ แนะนำ คือ พาเราไปเที่ยวและไหว้พระที่วัดป่าคอวัง (วังวิโมกข์) ก่อนจะมาชมภาพสวย ๆ ของวัดแห่งนี้ เรามาทราบประวัติความเป็นมา ของวัดป่าคอวังสักเล็กน้อย นะคะ
วัดป่าคอวัง สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2528 เป็นสาขาที่99ของวัดหนองป่าพง พระอาจารย์ประสพไชย กันตสีโล ศิษย์ของหลวงปู่ชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบล ราชธานี ในระยะแรก ๆ ของวัดป่าคอวัง เป็นสำนักปฏิบัติธรรม วังวิโมกข์ที่ป่าช้าคอวัง ปี พ.ศ. 2535 ได้รับอนุญาตจัดตั้งเป็นวัดและ ส่งเสริมให้ปฏิบัติธรรม มีพื้นที่ 176 ไร่
ไหว้พระประธานในโบสถ์ ค่ะ
ตรงนี้เป็นโบสถ์ค่ะ บริเวณนี้มีเรือม้าลำใหญ่ พวกเราถ่ายรูปหมู่กับ เรือม้า โดยมีตั้มเป็นตากล้องให้พวกเรา ค่ะ
บริเวณนี้เป็นเรือนไม้กว้าง มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่มาก องค์ทอง ค่ะ พวกเราให้ตั้มถ่ายรูปหมู่ให้พวกเราด้วย ค่ะ เราอยู่ที่นี้เดินชมไม่ทั่วหรอกค่ะ น่าจะประมาณครึ่งชั่วโมง พวกเรา ก็ออกจากวัด เพื่อเดินทางหากาแฟดื่มกัน พวกน้อง ๆ ติดกาแฟด้วย วันนี้แดดจ้ามาก อากาศร้อนมาก ๆ จึงต้องการหาร้าน ขายเครื่องดื่มดื่มกัน เจอร้านแรกก็ยังไม่เปิดขาย ขับรถไปเรื่อย ๆ เจอร้านกาแฟชื่อว่า ตงต้งคาเฟ่ อยู่ในซอย พอขับ รถเข้ามา มีลานจอดรถ มีร้านอาหารตามสั่งด้วย ที่แปลกและเป็นไฮไลท์สำหรับ ตงต้งคาเฟ่ คือ ร้านนี้ตั้งอยู่กลางทุ่งนา มีจัดมุมต่าง ๆ ให้คนมาดื่มได้ถ่ายรูป มีหมวกและร่มให้ ยืมในเวลาถ่ายรูปด้วย ค่ะ ตอนที่พวกเรามาถึงมีหนุ่ม ๆ สาว ๆ น่าจะ เป็นคู่รักกัน สั่งกาแฟ น้ำดื่มกัน แล้วก็ถ่ายรูปกัน อิอิ พวกเราก็สั่งน้ำตามใจชอบของตนเอง ฉันสั่งโกโก้เย็นมั้ง ดื่มกันใน ห้องแอร์ได้สักพัก ฉัน แดง เขยบัง ก็ออกไปถ่ายรูปกันค่ะ
เสียดายที่เขาเกี่ยวข้าวไปแล้ว ความเขียวขจีของท้องนาเลยหายไป
โพสต์ท่ากันสนุกสนาน ค่ะ
คู่ตุนาหงันที่น่ารัก ลูกศิษย์และศิษย์เขยบัง ค่ะ
มีมุมที่มีชิงช้าให้นั่งเล่นถ่ายรูปด้วยค่ะ
ถ่ายรูปกับชิงช้าสักรูป เนาะ อิอิ
เราอยู่ที่นี่น่าจะเป็นชั่วโมงกว่า 11.30 น.ได้ พวกเราทุกคนเริ่มหิวแล้ว ได้ร้านก๋วยเตี๋ยวที่รถผ่านไป ก็เสี่ยงกิน เพราะไม่รู้ว่าอร่อยไหม สั่งกัน น่าจะคนละชามสองชาม รสชาติก็พอกินได้ ไม่อร่อยอะไรนัก ชามละ 40 บาท พอกับกรุงเทพฯ เริ่มใช้เงินกองกลางจ่าย เก็บคนละ 5000 บาทกันก่อน ทั้งค่าอาหาร ค่ารถ ค่าที่พัก (วันท้าย ๆ เก็บอีกคนละ 1000 บาท ) ทริปนี้ เก็บไป 6000 บาท ค่ะ สถานที่ต่อไป ก็คือ ไปเที่ยวเสาหินของเมืองน่าน ค่ะ มีลักษณะเหมือน กับแพะเมืองผีที่แพร่ ที่ฉันเคยไปเที่ยวมาแล้ว ค่ะ แต่ที่นี่รู้สึกว่า เสาหิน กลุ่มหินจะกว้างใหญ่กว่าที่แพะเมืองผี นะ อากาศ ช่วงบ่ายนี่ ร้อนมากจริง ๆ แต่พวกเราก็ไม่กลัว หามุมสวย ๆ ถ่ายรูปกันค่ะ ก่อนจะดูรูปมาทราบประวัติความเป็นมาของเสาดินและ เด่นเสือโคร่ง หรือคอกเสือเมืองน่านกันก่อน (คำว่า เด่น หมายถึง ที่โล่ง สมัยก่อนที่นี่มักมีเสือโคร่งมาอาศัยอยู่ จึงได้เรียกที่แห่งนี้ว่า เด่นเสือโคร่ง ซึ่งก็ไม่ห่างจากเสาดิน นาน้อย ค่ะ
เสาหินนาน้อย ฮ่อมจ๊อม แห่งจังหวัดน่าน ตั้งอยู่ทางตะวันออกของ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีพื้นที่มากกว่า 50 ไร่ ที่มีเสาหิน ขนาดใหญ่เล็กมากมาย เกิดขึ้นเนื่องจากก่ีกัดเซาะทางธรรมชาติจนมี รูปร่างแปลก ๆ ก่อให้เกิดความสวยงามตามธรรมชาติ เชื่อว่าเกิดจากการทับถมกันอยู่หลายล้านปี เมื่อแผ่นเปลือกโลกเคลื่อน ตัวสูงขึ้นเหนือผิวดิน ทำให้พื้นที่บางส่วนทลายลง และยุบตัวจนเกิดเป็นเสาหินสูงต่ำ กลมมนบ้าง แตกต่างกันไป กระจาย อยู่ทั่วพื้นที่ เสาดิน นาน้อย ยังมีความสำคัญทาง ธรณีวิทยา ได้ค้นพบกำไลหินโบราณและขวานหินโบราณ สันนิษฐาน ว่าอาจจะเคยเป็นที่อยู่ของมนุษย์ยุคหินเก่า ค่ะ
ส่วนนี้ เรียกว่า เด่นเสือโคร่ง สองแห่งนี้ มีลักษณะคล้าย ๆ กัน ค่ะ
เด่นเสือโคร่ง จะมืบันไดเดินลงไปชมเสาหินซึ่งเป็นเหมือนคอก ที่เสือโคร่งมาอยู่อาศัย ค่ะ
หลังจากถ่ายรูป ชมความงามของเสาหิน นาน้อยแล้ว เราก็แวะชม พิพิธภัณฑ์ชมวัตถุที่ขุดพบ เช่น ก้อนหิน สิ่งของที่ขุดได้ ตลอดจนรูปภาพต่าง ๆ ที่สมเด็จพระเทพฯได้เสด็จมาที่นี่ด้วย ที่นี่ มี วิทยากร ชื่อ คุณถนิม บรรยาย ประวัติความเป็นมาของเสาหิน นาน้อย เช่น เรื่องราวของปู่เขียว ที่ไม่สมหวังในความรัก และมาตรอมใจตายอยู่ที่เสาหินนาน้อยนี้ ใครที่ไม่สมหวังในเรื่องของ ความรัก ก็จะมาอธิษฐานขอพรจากปู่เขียวให้สมหวัง ในเรื่องความรัก นอกจากนี้ ยังได้ให้ชมหญ้าชนิดหนึ่ง เรียกว่า หญ้าเข็มนาฬิกา ซึ่งมีลักษณะพิเศษ คือ ตอนหน้าแล้ง หญ้าชนิดนี้จะขดตัวเป็นกระจุก เมื่อถึงฤดูฝน มันก็จะคลายตัวและฝัง หัวของหญ้าที่เป็นเมล็ดลงไปในดิน เติบโตขึ้นมาได้อีก
ความรู้จากการจัดนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์ ค่ะ
วิทยากร ถนิม บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับ เสาดิน นาน้อย ค่ะ อธิบาย ถึงหญ้าเข็มนาฬิกาด้วย ค่ะ
ที่เห็นเป็นกระจุกนั้น เป็นหญ้าเข็มนาฬิกา ค่ะ
ออกจากที่เสาหิน นาน้อย และ เด่นเสือโคร่งแล้ว ก็มุ่งหน้าเดินทางไป ที่ม่อนเคียงดาว ซึ่งคืนนี้เราจะไปพักกันที่นี่ เพื่อจะชม ทะเลหมอกในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ม่อนเคียงดาวอยู่บนเขาสูงมากที่เดียว ที่พัก เป็นกระโจม หนึ่งกระโจมพักได้ 5-6 คน คืนละ 2500 บาท เราจองไป 2 กระโจม 8 คน แต่คนไปยกเลิกไป สองคน เลยพักกระโจมละ 3 คน ทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ห้องน้ำ สร้างจากไม้ไผ่ น้ำเย็นมาก ต้องอาบหัวค่ำหน่อย ห้องน้ำจะมีกระโจมละ 1 ห้อง ค่ะ ภายในเต็นท์เขาจัดเบาะนอนไว้ 5 ที่ เรียงกันไป มีหมอนและผ้าห่มให้คนละผืน ค่ะ พวกเรามาถึง ต้องเดินขึ้นไปที่เต็นท์อีกช่วงหนึ่ง ซึ่งหนทางขรุขระ เดิน ลำบากพอสมควรสำหรับผู้สูงอายุ ค่ะ
ม่อนเคียงดาว ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ ศรีน่าน ต.ศรีสะเกษ อำเภอ นาน้อย จังหวัด น่าน ใกล้ ๆ กับ ดอยเสมอดาว ห่างกันประมาณ 1.5 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่ ชาวบ้านจะปลูกไร่ ข้าวโพดไว้เลี้ยงสัตว์หรือนำมาทำผลิตอาหาร เมื่อหมดฤดูทำไร่ ชาวบ้านก็จะปรับพื้นที่ทำเป็นที่พักชั่วคราวไว้ต้อนรับ นักท่องเที่ยว บ้านพัก มีหลายแบบ คือ เป็นกระท่อม เป็นกระโจมและเต็นท์ ม่อนเคียงดาว จะเปิดให้เป็นที่พักเฉพาะเดือน ตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี รับจองที่พัก ตั้งแต่เดือน สิงหาคม เป็นต้นไป ติดต่อจองที่พัก ที่เบอร์โทร 097-2972171 ไม่รับ วอร์คอิน ติดต่อได้ที่ เฟสบุ๊ค MonKeangDao .Nan ค่ะ มาชมภาพค่ะ
เป็นกระโจมที่พักของพวกเราคืนนี้ ค่ะ ภายในกระโจมกว้างขวางพอ ควร มีหมอน มีผ้านวม มีเบาะให้นอน 5 ที่ ตัวเต็นท์ เป็นผ้าหนากันลมได้เป็นอย่างดี กลางคืนจึงไม่หนาวมากนัก
ทิวทัศน์บนเขา ค่ะ ธรรมชาติสวยงามมากเลย ค่ะ
จะเห็นมีห้องที่สร้างด้วยไม้ไผ่ เป็นห้องเล็ก ๆ อยู่ใกล้ ๆ เต็นท์ นั่นคือ ห้องน้ำของแต่ละเต็นท์ ค่ะ
ถ่ายรูปหมู่ ห้าสาว ค่่ะ รวมตัวกันที่หน้าเต็นท์
หน้าเต็นท์ มีบริเวณให้นั่งพบปะสังสรรค์ มีหมอนให้หนุนเล่นด้วย
อาหารมื้อเย็นของเรา มี หมูกระทะ ที่ชาวเขาทุกแห่งชอบทำขาย ค่ะ นอกจากหมูกระทะแล้ว พวกเรายังสั่งกับข้าวอีกหลายอย่าง รสชาติก็ใช้ได้ โดยเฉพาะหมูกรอบ อร่อยมาก ค่ะ
อาหารที่สั่งเพิ่มนอกเหนือจากหมูกระทะ ค่ะ ส่วนตั้ม โชว์เฟอร์ เขา สั่งข้าวผัด แต่พวกเราก็แบ่งกับข้าวที่เราสั่งให้เขาด้วย ค่ะ อาหารมื้อนี้ กินไปคุยไป คุยกันว่าคืนนี้ 4 ทุ่มจะตื่นขึ้นมาดูดาว ที่นี่ สี่ทุ่มเขาก็ปิดไฟ ไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ปรากฏว่า สี่ทุ่ม ไม่มีใครปลุก ฉัน ฉันก็นึกว่า ไม่มีใครตื่นขึ้นมาดูชะอีก ตื่นเช้าขึ้นมา ได้ยินพรรคพวกคุยกันว่า เมื่อคืน ดาวสวยมาก อิอิ อดเห็นเลย ฉันขอจบการเล่าเรื่องเที่ยวน่าน ตอนที่ 1 ไว้เพียงเท่านี้ ค่ะ ตอนที่สอง จะมาเล่าเรื่องเที่ยวสถานที่อื่น ๆ ต่อไป นะคะ สวัสดี ค่ะ
Create Date : 07 ธันวาคม 2563 |
Last Update : 21 ธันวาคม 2563 11:01:23 น. |
|
37 comments
|
Counter : 993 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณเริงฤดีนะ, คุณtoor36, คุณทนายอ้วน, คุณmambymam, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณกะว่าก๋า, คุณชีริว, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณKavanich96, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณSai Eeuu, คุณNior Heavens Five, คุณNoppamas Bee, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณ**mp5**, คุณmariabamboo, คุณkatoy |
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 21 ธันวาคม 2563 เวลา:13:07:34 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 21 ธันวาคม 2563 เวลา:13:44:09 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 21 ธันวาคม 2563 เวลา:14:08:16 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 ธันวาคม 2563 เวลา:20:49:19 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 21 ธันวาคม 2563 เวลา:23:16:43 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 21 ธันวาคม 2563 เวลา:23:42:56 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 22 ธันวาคม 2563 เวลา:5:08:52 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 ธันวาคม 2563 เวลา:6:11:51 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 22 ธันวาคม 2563 เวลา:20:39:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 ธันวาคม 2563 เวลา:6:55:01 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 23 ธันวาคม 2563 เวลา:21:28:39 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 ธันวาคม 2563 เวลา:23:09:59 น. |
|
|
|
โดย: Sai Eeuu วันที่: 24 ธันวาคม 2563 เวลา:1:04:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 ธันวาคม 2563 เวลา:7:32:26 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 24 ธันวาคม 2563 เวลา:20:41:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 ธันวาคม 2563 เวลา:6:38:34 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 25 ธันวาคม 2563 เวลา:13:22:31 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 25 ธันวาคม 2563 เวลา:14:36:39 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 25 ธันวาคม 2563 เวลา:21:00:55 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 ธันวาคม 2563 เวลา:23:47:35 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 ธันวาคม 2563 เวลา:6:40:39 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 27 ธันวาคม 2563 เวลา:20:25:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 ธันวาคม 2563 เวลา:23:35:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 ธันวาคม 2563 เวลา:7:15:47 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 28 ธันวาคม 2563 เวลา:15:45:14 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 ธันวาคม 2563 เวลา:22:48:09 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:7:23:20 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:14:35:29 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:19:40:58 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:22:53:50 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 ธันวาคม 2563 เวลา:6:59:00 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 ธันวาคม 2563 เวลา:23:00:16 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์ |
|
Rss Feed |
| Smember | | ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]
|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
|
|
หลัง อจ.สุวิมล ( ไป27 พย - 1 ธค )
ไม่ได้ไหว้พระวัดป่าคอวัง และเยี่ยม ตงต้งคาเฟ่
ร้านที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา
มีจัดมุมสวยงาม
แต่ได้ไป เสาดิน ค่ะ
และม่อนเคียงดาวเต้นท์สวยงาม
น่าอุ่นสบายมากไป
ส่วนอ้อ กับแฟน 2 คน
(ไปเครื่องและเช่ารถชมรมคนรักน่านเที่ยว)
จองที่พักเอง จัดโปรแกรมเองกับไกด์
จอง เต็นท์ 3 คน 405 บาท
ที่ ดอยเสมอดาว
กินหมูกะทะ จากร้านสวัสดิการของ อุทยานศรีน่าน
และเที่ยววัดในเมืองน่าน
รออ่านทัวร์วัด ตอนต่อไปค่ะ