1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30
น้อย ตัวแทนประกันชีวิตที่รู้จัก
" ก๊อก ๆ ๆ " เสียงเคาะประตูห้องนอนข้างหลังบ้านผมดังขึ้นในตอนหัวรุ่ง(ราวตี 5) ซึ่งผมชอบไปนอนอ่านหนังสือเล่นจนบางครั้งหลับไปในห้องนี้เป็นประจำ เพราะเงียบสงบดี มีแต่เสียงไก่เห่า กับ หมาขัน ในตอนเช้ามืดทุกวัน " ทำไมหรือ " ผมถาม " พี่น้อยตายแล้ว ตายมาสองวันแล้ว เลขาพี่น้อยเพิ่งโทรศัพท์มาบอก " เสียงแฟนผมบอกพร้อมกับร้องไห้ " ใจเย็น ๆ เดี๋ยวค่อยว่ากัน ว่าจะทำอย่างไรบ้าง " ผมปลอบใจเธอพร้อมกับครุ่นคิดขึ้นมา ภาพความหลังเก่า ๆ ค่อยโผล่ขึ้นมาจากความทรงจำ โดยปกติคนทั่วไปเวลาทำประกันชีวิต มักจะทำตามคำแนะนำของเพื่อนหรือคนรู้จัก มากกว่าจะศึกษารายละเอียดจากกรมธรรม์ และพอจ่าย ๆ เงินไปสักพักก็อาจจะหยุดส่ง หรือคนที่มาติดต่อทำกรมธรรม์เปลี่ยนอาชีพไป เวลามีปัญหาก็ไม่รู้จะปรึกษาใครหรือทำอย่างไร ทำให้มีศัพท์ในวงการเรียกกันเล่น ๆ ว่า กรมธรรม์กำพร้า กรมธรรม์ส่วนใหญ่ของมนุษย์เงินเดือนแบบของผมกับแฟน ก็มักจะทำกันเพื่อหักภาษีเงินได้ส่วนหนึ่ง กับเป็นหลักประกันรักษาพยาบาล มากกว่าการออมทรัพย์อย่างจริงจังเหมือนแนวคิดการออมเงิน ผลก็คือ มีกรมธรรม์สองสามฉบับกลายเป็นกำพร้า เพราะตัวแทนประกันย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดเลยขาดการติดต่อ ต่อมาน้องที่ทำงานได้แนะนำน้อยให้มาดูแลแทน แรก ๆ ผมก็ไม่ค่อยสนใจน้อยมากนัก เพราะกรมธรรม์ที่ทำไว้ก็ไม่เคยเบิกค่ารักษาพยาบาลแต่อย่างใด แต่แฟนผมกับสนิทสนมกับน้อยมากขึ้น จนไปเที่ยวหาของกินและเดินเที่ยวห้างกันบ่อย ๆ ส่วนผมก็ยุ่งกับงานประจำ และถือว่าสาว ๆ คุยกันเลยไม่ค่อยไปด้วย วันเกิดแก้วตาแก้วใจของผม น้อยมักจะเอาของขวัญวันเกิดมาให้ทุกปี แม้ว่าจะบอกว่าไม่ต้อง แกก็ไม่ยอมแต่อย่างใด วันหนึ่งแฟนผมมาเล่าให้ฟังว่า " พี่น้อย ต้องจ่ายเงินล้านกว่าบาท ให้กับน้องชายคนละแม่ เพราะน้องชายมาบอกว่า พ่อป่วยหนัก ต้องการเงินรักษาพยาบาลและไปใช้หนี้ สงสารพี่น้อยจัง เพราะพ่อก็ไม่เคยดูแล พ่อแม่หย่ากันตอนน้อยเกิด ต่อมาแม่พี่น้อยเสียชีวิตตอนที่พี่น้อยยังเป้นเด็ก ทำให้พี่น้อยต้องไปอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แกต้องดิ้นรนทำมาหากินมาโดยตลอด จู่ ๆ ต้องจ่ายเงินหลักล้านให้พ่อแก ที่ไม่เคยเลี้ยงดูแกมาแต่อย่างใดเลย " (ยุคนั้น ทองคำบาทละ 5,000.-กว่าบาท หรือซื้อทองคำได้ราว 200 บาท) ผมก็อึ้งไปเพราะเป็นเรื่องของครอบครัว กับเรื่องความกตัญญูที่ชอบพูดกันในหลักการศาสนาพุทธ ในเรื่องพระคุณพ่อแม่มากมายเหลือล้นที่ให้เกิดมา แต่พ่อแม่ที่ไม่ดูแลลูกและเลี้ยงดูลูกเลย คนทางศาสนาพุทธไม่เคยบอกว่า ควรทำอย่างไรบ้าง นึกถึง Steve Jobs ที่เคยพูดถึงเรื่องพ่อแม่ที่แท้จริงว่า " ขอบคุณรังไข่ และสเปริมที่ให้ผมเกิดมา " แกเลยดูแลพ่อแม่เลี้ยงของแกอย่างดี มีช่วงหลังที่แกยอมคืนดีกับแม่แก และสนิทสนมกับน้องสาวแกมาก ส่วนกับพ่อที่แท้จริง Abdulfattah John Jandali แกไม่เคยสนใจหรืออยากนับญาติด้วยแต่อย่างใด ผมเคยเรียบเรียงเล่น ๆ ไว้ที่ https://goo.gl/XbiPwP ต่อมาไม่นานนัก ทราบข่าวว่า บ้านน้อยที่ซื้อไว้ที่หมู่บ้านเมืองทอง 2 แถวสายลพบุรีราเมศว์ร ทางไปพัทลุง-สงขลา ถูกโจรสองคนเข้าปล้นบ้านตอนกลางคืน แกร้องขอชีวิตกับขอให้อย่าทำร้ายแกอย่างเดียว โจรจึงขอทรัพย์สินที่มีค่าออกไป โดยไม่ทำอันตรายแกแต่อย่างใด และตำรวจก็สืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ สรุปว่าคนร้ายหลบหนีได้ตามระเบียบ (ระเบียบ น่าจะเป็นคนรักหรือแฟนคนร้ายหลายคน เพราะมักจะระบุว่าหลบหนีได้ตามระเบียบ) น้อยกลัวเรื่องนี้มากจนต้องย้ายไปอยู่กับครอบครัวหนึ่ง ที่กั้นบ้านเป็นบ้านแบ่งห้องให้เช่าในเมือง แล้วน้อยเลยบอกขายบ้านดังกล่าวไปในราคาต่ำ ใช้เวลาหลายปีเหมือนกันกว่าจะขายได้ เพราะบ้านทรุดโทรมมากแล้วเนื่องจากไม่มีคนดูแล กับเวลาคนจะซื้อสอบถามประวัติบ้านจากบ้านข้างเคียง ก็มักจะทราบเรื่องว่าเคยมีโจรงัดแงะกับปล้นบ้านนี้มาก่อน ต่อมา น้อยก็ย้ายไปอยู่ที่อพาร์ทเมนส์ แล้วตายในห้องพักร่วมสองวันกว่าจะมีคนรู้เรื่อง เพราะที่จอดรถยนต์สะดวกสบายกว่า กับเกรงใจเจ้าของบ้านที่แบ่งห้องให้เช่า เพราะไม่สะดวกในการเข้าออกกับการกลับบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้กับชีวิตคนในเมือง เรื่องการหาที่จอดรถยนต์หายากต่างกับที่ทางแถวรอบนอก ที่จะจอดรถยนต์กันสะเปะสะปะอย่างไรก็ได้ ต่อมา ผมก็ย้ายไปทำงานที่สถาบันการศึกษาเอกชน และรู้จักสนิทสนมกับพี่แอ๋ว หัวหน้าฝ่ายการเงิน แกเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเจ้าของธุรกิจนี้ กิติศัพท์แกขึ้นชื่อเรื่องความเฮี๊ยบและเจ้าระเบียบ ประเภทเงินสักสลึงก็ไม่ให้ตกหล่น การขอเบิกเงินผ่านแกยากที่สุดจนเป็นที่รู้กัน เพราะแกเคยทำงานที่ธนาคารบัวหลวงมาก่อน แกคือ ป้อมปราการด่านหน้าก่อนเสนอเรื่องให้จ่ายเงินได้ และเป็นป้อมปราการด่านหลังสุดก่อนจะจ่ายเงินให้ แต่กับผมความที่เคยเดินบนถนนสายเดียวกัน แต่คนละธนาคารและเคยพบปะเห็นหน้ากัน เวลาไปกินข้าวเที่ยงแถวสายสองสายสาม หรือเวลาจัดงานสถาบันการเงิน มักจะพบปะกันแม้ว่าจะไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน ทำให้ผมมักจะได้รับอภิสิทธ์มากกว่าคนอื่น ๆ เวลาขอเบิกเงินล่าช้า แกก็จะรอเก็บเงินเบิกให้กับผม ทำให้คนอื่น ๆ ที่ร่วมงานมักจะสงสัยเรื่องนี้มาก ผมก็มักจะบอกว่า " คนไฟลัมเดียวกัน คุยกันรู้เรื่อง " พี่แอ๋วเล่าให้ผมฟังเองว่า " สงสารน้อย เคยทำงานกับพี่ ที่ธนาคารบัวหลวงด้วยกัน น้อยดิ้นรนจนจบปริญญาตรีที่ มอ. ตอนเรียนก็ต้องหางานพิเศษทำ เพราะไม่มีใครส่งเสียให้เรียน พอมาทำงานสักพักร่วมกับพี่ น้อยก็ย้ายไปทำเป็นตัวแทนขายประกัน รายได้ดีกว่าธนาคารมาก น้อยเป็นคนนิสัยดีมากตั้งแต่ตอนทำงาน " ผมกับพี่แอ๋วคุยกันถูกคอและสนิทสนมมาก แต่สุดท้ายมะเร็งปอดได้คร่าชีวิตแกไป เพราะแฟนแกตอนวัยรุ่นติดบุหรี่มาก สูบบุหรี่พ่นเต็มบ้านและตายเพราะบุหรี่ ผมไปเยี่ยมพี่แอ๋วช่วงหลัง ๆ แกต้องกินยาระงับอาการปวด และโรคมะเร็งเริ่มลามไปส่วนอื่น ๆ แล้ว พี่แอ๋วต้องเข้าออกโรงพยาบาล มอ. หลายหน โดยเจ้าของสถาบันการศึกษา ก็ให้คนขับรถยนต์ตู้มารับส่งแกเป็นประจำ ต่อมาไม่นาน พี่แอ๋วหลังเริ่มเป็นแผลกดทับ ผมเคยอ่านเจอว่า แผ่นฟองพลาสติคที่กันของกระแทก สามารถนำมาทำเบาะนอนได้ และช่วยรักษาแผลกดทับได้ แต่ถ้าซื้อของในโรงพยาบาลราคาหลักหมื่น รวมทั้งลูก ๆ แกกับพี่สาวแก ต่างก็ทำใจแล้วว่า พี่แอ๋วคงไม่รอดแน่ ผมเลยขอให้เพื่อนผมพี่เล็กที่เย็บเบาะโซฟาแถวบ้าน แกเป็นมืออาชีพระดับแนวหน้าที่หาดใหญ่ สนิทกับผมเพราะตอนวัยรุ่นชอบไปนั่งตกปลาด้วยกัน พี่เล็กช่วยเย็บเบาะให้พี่แอ๋วได้ใช้ช่วงหนึ่ง ทำให้บรรเทาอาการแผลกดทับได้ช่วงหนึ่ง ก่อนที่พี่แอ๋วจะเดินทางไปล่วงหน้าก่อนผม มีช่วงหนึ่งที่ผมป่วยมากต้องเข้าออกโรงพยาบาลนับเป็นสิบ ๆ หน น้อยก็มาดูแลสิทธิ์ต่าง ๆ ที่จะเบิกจากกรมธรรม์ได้ และยังช่วยพารับส่งไปโรงพยาบาล แม้ว่าผมจะขอให้พี่ชายและหลานชายช่วยได้ก็ตาม แต่แกบอกไม่เป็นไรถือว่า มาช่วยเหลือน้องสาวแก ซึ่งแม้ว่าจะห้ามอย่างไรแกก็ไม่ยอมเลยในเรื่องนี้ จนต้องตามใจแกให้แกทำตามที่สบายใจก็แล้วกัน ช่วงหลังผมมักจะคุยกับแฟนว่า " เจอน้อยบ้างไหม " ก็มักจะได้รับคำตอบว่า " เจอบ้าง แต่ Line บางทีตอบช้ามาก สงสัยจะเข้าโรงพยาบาลอีกแล้ว และแกก็ไม่ค่อยยอมบอกใครด้วย เพราะที่ทำงานทุกแห่งก็มักจะชิงดีชิงเด่นกัน กับลูกค้าพี่น้อยเยอะมากกว่าคนอื่น เลยมีหลายคนที่ผลงานไม่เข้าเป้ามักจะไม่พอใจแก และเป็นเรื่องธรรมดาของหน่วยงานทุกแห่ง " แต่พอน้อยหายดีแล้ว ก็มักจะชวนแฟนผม ไปกินข้าวกับเดินเที่ยวห้างด้วยกันเป็นประจำ วันที่รดน้ำศพน้อยที่วัดเกาะเสือ ผมกับแฟนก็ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ร่วมกับหัวหน้าสายของน้อย และได้ทำตามคำสั่งเสียของแก ที่เคยตกลงกับแฟนผมว่าฝากผีฝากไข้กันด้วย และแล้วมีเรื่องเซ็งเปิดเกิดขึ้น พ่อและน้องสาวคนละแม่แก ขับรถยนต์จากอีสานลงมาถึงในวันรุ่งขึ้น เพราะทางหน่วยงานของน้อยโทรศัพท์ไปบอก มาถึงบอกให้เผาศพวันนั้นเลย เพราะมาไกลและจะรีบกลับ แต่ทางผมกับหัวหน้าสายน้อยไม่ยอม เพราะถือว่าควรจะให้เพื่อนแกและคนรู้จักแกมาร่วมงานอีก 2 วัน ทางพ่อและน้องสาวแกดูไม่ค่อยพอใจมากนัก และน้องสาวคนละแม่แกก็มาเรียบ ๆ เคียง ๆ ว่า แกมีทรัพย์สมบัติฝากไว้ที่ไหนอีกบ้าง นอกจากรถยนต์ เงินฝากในสมุดบัญชีที่เจอในอพาร์ทเมนส์ ผมกับแฟนก็บอกไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของน้อย รับรู้แต่เรื่อง ฝากผีฝากไข้ ไม่เคยรับรู้เรื่องสมบัติของน้อย หลังจากเผาศพน้อยเสร็จแล้ว วันรุ่งขึ้น พ่อและน้องสาวน้อยก็รีบนำอังคารน้อยไปลอยน้ำ แล้วขนทรัพย์สินที่ใส่รถยนต์ทั้งสองคันได้รีบกลับบ้านที่อีสานทันที ขนาดทางหัวหน้าสายของน้อยยังไม่ทันรู้เรื่องเลย และขาดการติดต่อไปเลยหลังจากเสร็จสิ้นงานศพน้อย ก็คงเหมือนคำพูดของพระภิกษุท่านหนึ่ง บางทีเจ้ากรรมนายเวรอาจจะมาในรูปของ ลูกชาย ลูกสาว พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ ๆ นอกจากเพื่อน เจ้านาย เจ้าหนี้ ลูกหนี้ ให้ทำใจกับเรื่องเวรเรื่องกรรม เขียนถึงน้อยด้วยความคิดถึง คงเหมือนบทกวีที่เคยอ่านเจอนานแล้ว เหมือนกับฉัน เหมือนกับเธอ เหมือนได้เจอเพื่อจากกัน เหนือความจริงสิ่งสำคัญ ได้พบกันก็เพียงพอ เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะเลือนหายไปเหมือนใบไม้ปลิดปลิว
Create Date : 16 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2560 12:24:18 น.
3 comments
Counter : 3266 Pageviews.
โดย: Sweet_pills วันที่: 31 ธันวาคม 2560 เวลา:23:11:26 น.
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 16 มกราคม 2561 เวลา:16:08:58 น.
Location :
สงขลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [? ]
เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้ ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน