BlogGang.com : : ravio : สถานที่ลึกลับของโลก

สถานที่ลึกลับของโลก

มีใครบ้างที่ไม่ชอบเรื่องลึกลับ ?
มนุษย์แทบทุกคนมักจะทึ่งไปกับเรื่องราวที่ไม่สามารถอธิบายได้
หรือกำหนดกฎเกณฑ์ได้ รายการสถานที่ลึกลับของโลกมี.-

10. สนามม้าชายหาด Racetrack Playa

ที่มาของภาพ //realitypod.com/wp-content/uploads/2013/04/107.jpg

ที่มาของภาพ //amazinglist.net/2013/02/racetrack-playa-death-valley-california/

ตั้งอยู่ในหุบเขามรณะ (Death Valley) รัฐแคลิฟอร์เนีย
สนามม้าชายหาดมีชื่อเสียงมากกับเรื่อง
หินเรือใบที่แล่นได้พร้อมกับทิ้งร่องรอยไว้ข้างหลัง
เรื่องราวของหินเหล่านี้ยังคงเป็นปริศนาว่า
ก้อนหินเหล่านี้เคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
โดยทิ้งร่องรอยไว้ข้างหลังได้อย่างไร
งานวิจัยส่วนหนึ่งพยายามสรุปว่ามีเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือ
ลมแรงในหุบเขาและสภาพพื้นที่ลื่นในตอนกลางคืน
เป็นตัวการหลักในการแล่นเรือใบของก้อนหินเหล่านี้

9. ทะเลสาบวอสต็อค Lake Vostok

ที่มา //realitypod.com/wp-content/uploads/2013/04/98.jpg

ที่มา //tywkiwdbi.blogspot.com/2011/01/approaching-lake-vostok.html

สภาพพื้นที่ทำการขุดเจาะ

กระดานบันทึกความลึกที่ขุดเจาะได้แล้ว

ทีมงานที่อยู่ในค่ายที่พักบริเวณที่ทำการขุดเจาะ

ที่มา //goo.gl/Nkp7a

สรรพสิ่งที่มีกำเนิดในทวีปแอนตาร์กติกา
ยังคงเป็นเรื่องลึกลับที่น่าสนใจที่สุด
มีการถกเถียงอภิปรายกันในทุกวันนี้
ในขณะที่มันเป็นไปได้ว่า มนุษย์อาจจะจบลงด้วยการค้นพบบางสิ่งบางอย่าง
จากการขุดค้นลึกลงไปจากผิวน้ำแข็งลงไปถึงชั้นดินใต้พื้นน้ำแข็ง
ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์พบว่ามีทะเลสาบใต้พื้นผิวน้ำแข็ง
คาดว่ามีสายพันธุ์สิ่งที่มีชีวิตเคยอาศัยอยู่ที่นั่นเป็นเวลากว่า 15-25 ล้านปี
เป็นสายพันธุ์สิ่งที่มีชีวิตที่โลกไม่เคยได้พบเห็นกันมาก่อน
และมีวิวัฒนาการกับการพัฒนาของสายพันธุ์เหล่านี้ทั้งหมดเกิดขึ้นอยู่ภายใต้น้ำแข็ง
ในตอนนี้คณะนักวิทยาศาสตร์/นักวิจัยต่างกำลังทำงานกันอย่างหนัก
ในการวิเคราะห์ตัวอย่างจากน้ำที่นำขึ้นมาได้
ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าความพยายามอย่างมากในเรื่องนี้
กับการค้นคว้าวิจัยจะนำไปสู่ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น

8. เกาะอีสเตอร์ Easter Island

ที่มา //realitypod.com/wp-content/uploads/2013/04/810.jpg

ที่มา //www.tripadvisor.com/Tourism-g316040-Easter_Island-Vacations.html

ที่มา //mediaworldmysteries.blogspot.com/2012/04/easter-island.html

ที่มา //seeker401.files.wordpress.com/2011/10/easter-island-statue-excavation.jpg

ที่มา //seeker401.files.wordpress.com/2011/10/a40_2011_36_031.jpg

ราปานุย Rapa Nui รูปปั้นหน้าคนที่มีชื่อเสียงของโลกที่มีอยู่บนเกาะอีสเตอร์
ยังคงเป็นปริศนาสำหรับนักวิจัยทั่วโลก  ยังไม่มีใครที่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ว่า
ใครเป็นคนสร้างรูปปั้นสูงกว่า 50 ฟุต เหตุผลที่พวกเขาสร้างและวิธีการที่เคลื่อนย้ายก้อนหินเหล่านี้ ฯลฯ
หนึ่งในทฤษฎีทั่วไปคือ ครั้งหนึ่งมีอารยธรรมที่อาศัยอยู่บนเกาะเป็นเวลานานหลายปีที่ผ่านมา
แต่ต่อมาหลังจากทรัพยากรอาหารขาดแคลน พวกเขาต่างโยกย้ายอพยพไปสู่ที่อื่นหรือไม่ก็ล้มหายตายจากกันไปหมด

หมายเหตุ   มีข้อสันนิษฐานจากอีกแหล่งหนึ่งว่า
ก้อนหินแกะสลักพวกนี้น่าจะมาจากพวกแขกทมิฬอินเดียในอดีต
ที่ถูกคลื่นยักษ์ซึนามิพัดมาเกาะนี้จึงได้สลักรูปไว้เป็นเครื่องหมายสักการะ
เพราะมีรูปเรือและผงฝุ่นสีแดงอยู่ใต้ฐานก้อนหินยักษ์หน้าคนที่พบจากการขุดค้นทางโบราณคดี
คาดว่าเป็นการร่ำร้องโหยหาอดีตคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนที่จากมาไกลโพ้น
แล้วคงหวนคืนกลับไปไม่ได้อีกแล้วในชาตินี้ตลอดกาล

เรื่องเดิมของผู้เขียน  หินยักษ์เดินได้  //2g.pantip.com/cafe/writer/topic/W12888360/W12888360.html

วิธีการขนย้ายหินยักษ์แบบที่หนึ่ง

วิธีการขนย้ายหินยักษ์แบบที่สอง

7. หุบเขาแมคเมอโด้ที่แห้งแล้ง McMurdo Dry Valleys

ที่มา //realitypod.com/wp-content/uploads/2013/04/77.jpg

ที่มา //www.boston.com/bigpicture/2009/04/earth_day_2009.html

ที่มา //www.amusingplanet.com/2012/06/mcmurdo-dry-valleys-of-antarctica.html

แม้ว่าหุบเขาเหล่านี้จะตั้งอยู่ในทวีปแอนตาร์กติกา
แต่ก็ไม่มีปรากฏการณ์ของหิมะเกาะตามพื้นผิวจำนวนมาก
ในทางกลับกันทำให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นทะเลทรายที่หนาวเย็นที่สุดในโลก
เป็นหุบเขาที่ดูแปลกประหลาดเพราะดูราวกับว่าเป็นหุบเขาที่มีสีเลือด
สีแดงในหุบเขาเป็นเพราะสนิมแร่เหล็กจำนวนมากในหุบเขา

6. น้ำพุร้อนเหินฟ้า Fly Geyser

ที่มา //realitypod.com/wp-content/uploads/2013/04/66.jpg

ที่มา //upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/4/41/Fly_geyser.jpg

ที่มา //www.flickr.com/photos/17773534@N03/3421200025/lightbox/

ตั้งอยู่ในเกอร์ลัชท์ Gerlach รัฐเนวาดา มีรูปทรงที่แปลกประหลาด
เพราะกองดินกองหินที่มีน้ำพุร้อนเติบโตขึ้นมาได้ ในตอนนี้สูงถึงสามเมตรแล้ว
แต่น้าพุร้อนแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ดินส่วนตัวของเอกชน
โดยปรกติจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม
เจ้าของของที่ดิน บิล สปู Bill Spoo
ได้ปฏิเสธที่จะทำให้มันกลายเป็นจุดท่องเที่ยว
นักวิจัยและช่างภาพได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมชมได้
แต่ต้องระบุวันเดือนปีและเวลาเป็นการล่วงหน้าก่อนเข้าเยี่ยมชม

5. ริโอทินโต้ Rio Tinto

ที่มา //realitypod.com/wp-content/uploads/2013/04/58.jpg

ที่มา //goo.gl/fn4ue

ที่มา //commons.wikimedia.org/wiki/File:Riotintoagua.jpg

ที่มา //goo.gl/4a56l

มีต้นกำเนิดจากหุบเขาเซียร์ร้าโมเร่นหน่า Sierra Morenna แคว้นอันดาลูเซีย Andalusia ในสเปน
เป็นแม่น้ำที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสเปน
แม่น้ำสายนี้มีการชักน้ำมาใช้ทำเหมืองแร่มานานหลายศตวรรษแล้ว
เป็นผลให้แร่ธาตุจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งแร่เหล็กไหลปะปนอยู่ในน้ำ
การปรากฏตัวของสนิมจากแร่เหล็ก คือ เหตุผลหลักที่ทำให้น้ำเป็นสีแดง
นอกจากนี้ยังมีแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำนี้ได้
เหตุผลที่มันยังอาศัยอยู่ได้เป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะแม่น้ำสายนี้มีสภาพเป็นกรดสูง
ทั้งนี้ยังทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์บางคน
อนุมานว่าน้ำและดินบนดาวอังคารที่พบเห็นจากกล้องโทรทัศน์ที่ถ่ายภาพพื้นผิวบนดาวอังคาร
มีสภาพเทียบเคียงกับสายน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำสายนี้

4. ภูเขาโรหล้าอีหม่า Mount Roraima

ที่มา //realitypod.com/wp-content/uploads/2013/04/47.jpg

ที่มา //elmundoespectacular.blogspot.com/2011/11/el-monte-roraima-tepuy.html

ที่มา //goo.gl/a2ZlE

สถานที่ตั้งมีเอกลักษณ์ค่อนข้างเด่นชัดคือ
เป็นจุดบรรจบกันของชายแดนสามประเทศ
บราซิล เวเนซุเอลา และ กียานา ในทวีปอเมริกาใต้
สันนิษฐานว่าการก่อตัวของเป็นที่ราบสูงเพราะลมฝน
ภูเขาแห่งนี้ที่แปลกประหลาดเพราะรูปทรง
และที่มากไปกว่านั้นคือ มีสัตว์ป่าเฉพาะถิ่นอาศัยอยู่
ก้อนเมฆมักจะอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดของภูเขา
จุดสูงสุดของภูเขา Roraima ได้รับการยอมรับว่า
เป็นหนึ่งในพื้นที่โลกที่เก่าแก่ที่สุดจากการก่อตัวทางธรณีวิทยา
ปัจจุบันมีสัตว์พื้นเมืองบางชนิดที่ไม่สามารถพบได้ในที่ใดของโลก
และยังคงเป็นปริศนาอยู่ว่าพวกมันดำรงชีพมาอย่างยาวนานได้อย่างไร

3. โซโคตรา Socotra

ที่มา //realitypod.com/wp-content/uploads/2013/04/39.jpg

ที่มา //www.justmegawatt.com/images/socotraisland.html

ที่มา //ibc.lynxeds.com/photo/socotra-sparrow-passer-insularis/among-thickset

เป็นเกาะแห่งหนึ่งในสี่หมู่เกาะ  ตั่งอยู่ทางทิศตะวันออกของแหลมแอฟริกาและทางตอนใต้ของคาบสมุทรอาหรับ
พื้นที่เกาะหลักประมาณ  95% เป็นพื้นดินขนาดใหญ่  แต่ส่วนที่เหลืออีก 5%  เป็นเพียงหมู่เกาะเล็ก ๆ
สถานที่แห่งนี้ยังคงเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่แปลกประหลาดของโลก  ภายใต้การปกครองของรัฐบาลเยเมน
พืชประมาณหนึ่งในสามที่ไม่อาจพบได้ในที่อื่นของโลกนี้  รวมทั้งพืชและสัตว์ป่าเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างต้นไม้ที่มีรูปทรงเป็นร่ม "ต้นเลือดมังกร" ต้นไม้ที่มีใบและก้านอวบน้ำ(คล้ายชวนชม) และ ต้นไม้พันธุ์แตงร้าน
รวมทั้งมีสัตว์ที่มีห่วงโซ่อุปทานสัมพันธ์กัน มีสายพันธุ์แตกต่างกันมาก
เช่น แมงมุม, นก, แมวป่า และค้างคาว จะสามารถพบเห็นได้ที่นี่

2. สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา Bermuda Triangle

ที่มา //realitypod.com/wp-content/uploads/2013/04/210.jpg

ที่มา //fringeonline.org/wp-content/uploads/2012/05/triangle.jpg

ที่มา //goo.gl/Ji4Un

ยังคงเป็นหนึ่งในความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในทุกวันนี้
เรือหลายลำ เครื่องบินหลายลำ และผู้คนต่างหายสาปสูญไปไหน?
ยังไม่มีคำตอบชัดเจนในเรื่องเหล่านี้
พื้นที่ของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาตั้งอยู่ระหว่างรัฐไมอามี กับประเทศเปอร์โตริก้า
มีภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหลายครั้งเช่น เรือหลายลำ เครื่องบินหลายลำ ผู้โดยสารหลายคน ต่างหายสาปสูญไป
ตามมาด้วยทฤษฎีที่ต่างพยายามจะอธิบายปรากฏการณ์เรื่องนี้
บางคนบอกว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะคลื่นยักษ์ที่เหนือความคาดหมาย
บางคนบอกว่ามาจากผลกระทบจากกระแสน้ำในมหาสมุทร
บางคนบอกว่าเข็มทิศนำทางเรือหรือเรือบินชี้ทิศทางผิดพลาด
แต่บางคนบอกว่าเป็นความผิดพลาดของมนุษย์เอง
แต่ไม่มีทฤษฎีใดที่ได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้อง
อย่างไรก็ตามเรื่องราวเหล่านี้ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเรื่องลึกลับ
รวมทั้งยังเป็นเส้นทางการคมนาคมที่แออัดคับคั่งมากที่สุดในโลก

1. จุดท่องเที่ยวลึกลับ Mystery Spot

ที่มา //realitypod.com/wp-content/uploads/2013/04/19.jpg

ที่มา //hihesky.blogspot.com/2011/03/mystery-spot-mysterious-or-not.html

ที่มา //goo.gl/3CA1I

สถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ใกล้กับ ซานตาครูซ Santa Cruz รัฐแคลิฟอร์เนีย
สร้างชื่อเสียงมากกับเรื่องราวที่ขัดแย้งกับกฎของแรงโน้มถ่วงและฟิสิกส์
แม้ว่าจะภาพที่ปรากฏจะเป็นห้องที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบ
แต่ก็จะดูราวกับว่าคนที่เดินเข้าออกจะเอียงข้างตลอดเวลา
แม้ว่าทฤษฎีส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะพยายามที่จะอธิบายเรื่องนี้ว่า
เป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า การเหนี่ยวนำแบบเอียงทำให้เกิดภาพที่ลวงตา
แต่ประสบการณ์ของผู้เข้าชมเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อมที่แปลกตา
ภาพของการเอียงขณะที่ยืนอยู่บนพื้นที่ราบของผู้คนที่อยู่ในห้อง
ผู้เข้าชมต่างมีประสบการณ์ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสูงและทิศทางของวัตถุที่มีอยู่
แม้ว่าจะเห็นคนที่ยืนอยู่บนพื้นดินราบในระดับเดียวกันกับฉากภาพด้านหลัง
แต่มุมมองไปที่ตัวอาคารจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
ในขณะที่กำลังดูไปความสูงของมุมบ้านหรือมุมหลังคา
จะปรากฎในสายตาว่าภาพจะมีความเอียงมากกว่าภาพที่เกิดขึ้นจริง

เรียบเรียงจาก

//realitypod.com/2013/04/top-10-mysterious-places-on-earth/

//realitypod.com/2013/04/top-10-mysterious-places-on-earth/2/

//realitypod.com/2013/04/top-10-mysterious-places-on-earth/3/
่่
//google.com

//wikipedia.org

Create Date : 05 มิถุนายน 2556

Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2557 16:52:03 น.

2 comments

Counter : 3230 Pageviews.

ชอบน้ำตกค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 5 มิถุนายน 2556 เวลา:17:39:14 น.

เป็นอะไรที่แปลก ประหลาด
สวยงาม และน่ากลัวมากๆเลยค่ะ

อย่างหุบเขาก็แปลก ทั้งๆที่อยู่แอนตาร์กติกา แต่ดันเป็นแบบนั้นซะได้

น้ำตกอีก เบอร์มิวด้าก็ยังเป็นปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้
แปลกมากๆแต่คนคงอยากจะไปพิสูจน์นะคะ

โดย: lovereason

วันที่: 5 มิถุนายน 2556 เวลา:21:48:12 น.