Group Blog
All Blog
|
ทนายอ้วนชวนเที่ยวใกล้ๆบ้าน - วัดเฉลิมพระเกียรติ บางศรีเมือง นนทบุรี สถานที่ท่องเที่ยว : วัดเฉลิมพระเกียรติ บางศรีเมือง นนทบุรี, นนทบุรี Thailand พิกัด GPS : 13° 50' 54.10" N 100° 29' 4.32" E วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร นนทบุรี วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร นนทบุรี เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ 86 หมู่ 3 ถนนท่าน้ำนนท์ – วัดโบสถ์ดอนพรหม ตำบลบางศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 160 ปี วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร นนทบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย นนทบุรี มีที่ดินทั้งหมด 24 ไร่ 3 งาน 22 ตารางวา โฉนดที่ดินเลขที่ 156460 ตั้งวัดและได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2390 อาณาเขตของวัดแบ่งออกเป็น 3 เขตคือ เขตพุทธาวาส เขตสังฆาวาส และเขตนอกกำแพงใหญ่ เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่3) เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติในปี พ.ศ. 2367 นั้น ทรงสถาปนาสมเด็จพระราชชนนีแห่งพระองค์ (เจ้าจอมมารดาเรียม ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2)) ขึ้นเป็น กรมสมเด็จพระศรีสุลาไลย ต่อมาทรงพระราชดำริว่าบริเวณ ป้อมทับทิม ซึ่งเป็นป้อมปราการที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ใต้ตลาดขวัญ เมืองนนทบุรี เป็นนิวาสถานเดิมแห่งพระยานนทบุรีศรีมหาอุทยาน (บุญจัน) อดีตเจ้าเมืองนนทบุรี กับคุณหญิงเพ็ง ผู้เป็นพระอัยกา (ตา) และพระอัยยิกา (ยาย) ของพระองค์ และยังเป็นสถานที่ประสูติของสมเด็จพระศรีสุลาไลยพระราชชนนีพันปีหลวง สมควรที่จะสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงสักแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่ พระอัยกา พระอัยกี และสมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวงแห่งพระองค์ ด้วยเหตุนี้โปรดฯ ให้พระยาคลัง (ดิศ บุนนาค) ตำแหน่งที่สมุหพระกลาโหมเป็นแม่กองสร้างวัดขึ้นในบริเวณนั้น และโปรดให้สร้างป้อมปราการ ก่ออิฐถือปูน มีใบเสมาเป็นทำนองเดียวกันกับพระบรมมหาราชวังรอบวัดไว้เป็นอนุสรณ์ด้วย พระราชทานนามวัดแห่งนี้ว่า วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร ถือว่าเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเป็นวัดสุดท้ายในรัชกาลก่อนที่พระองค์จะเสด็จสวรรคต ปลายพระชมน์ชีพของพระบาทสมเด็จนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ตรัสถึงวัดต่างๆ ที่ยังสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ค้างไว้ว่า " ...ทุกวันนี้คิดสละห่วงใหญ่ให้หมด อาลัยอยู่แต่วัด สร้างไว้ใหญ่โตหลายวัด ที่ยังค้างอยู่ก็ดี ถ้าชำรุดทรุดโทรมไปจะไม่มีผู้ช่วยทนุบำรุง เงินในพระคลังที่เหลือจับจ่ายใช้ราชการแผ่นดินมีอยู่ 40,000 ชั่ง ขอสัก 1,000 ชั่งเถิด ถ้าผู้ใดเป็นเจ้าแผ่นดินแล้วให้ช่วยบอกแก่เขาขอเงินรายนี้ให้ช่วยทนุบำรุงวัดที่ชำรุดและการวัดที่ยังค้างอยู่นั้น เสียให้แล้วด้วย..." ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่4) เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติแล้วก็ทรงรับเป็นพระราชภาระในการสร้างวัดเฉลิมพระเกียรติจนเสร็จเรียบร้อย โปรดฯ ให้พระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุญนาค) เป็นแม่กองการบูรณะจนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2401 เขตพุทธาวาสถูกล้อมไว้ด้วยกำแพงแก้ว โดยทำเลียนแบบกำแพงป้อมหรือกำแพงพระราชวัง โดยทางเข้าไปสู่พระอุโบสถจะมีศาลาศิลปะไทย – จีน อยู่ด้านหน้าและเชื่อมไปยังพระอุโบสถ พระอุโบสถ ที่เป็นศิลปะงดงามแบบพระราชนิยมในรัชกาลที่ 3 ได้รับอิทธิพลผสมจากจีน เริ่มสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 แล้วเสร็จในรัชกาลที่ 4 เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่ กว้าง 26 เมตร ยาว 40 เมตร ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณมีทางขึ้นโดยรอบเป็นระยะๆ หน้าบันตกแต่งด้วยปูนปั้นประดับกระเบื้องเคลือบลวดลายใบดอกพุดตาน หลังคามุงด้วยกระเบื้องรางดินเผา ชนิดกาบกล้วยไม่เคลือบสี ถือปูนทับแนวทำเป็นลอนลูกฟูกแบบเก๋งจีน ชายคามีเสาสี่เหลี่ยมต้นใหญ่รองรับโดยรอบพระอุโบสถ กรอบประตูและหน้าต่างประดับลายปูนปั้นรูปใบและดอกพุดตาน พื้นประดับกระจก บานประตูหน้าต่างเขียนลายทองรดน้ำ สำหรับบานประตูทั้ง 4 บาน (2 ประตู) เขียนลายรดน้ำด้านบนเป็นรูปพระวิมาน ซึ่งเป็นพระราชลัญจกรในรัชกาลที่ 3 หมายถึงพระนามเดิมของรัชกาลที่ 3 (พระองค์เจ้าทับ – ทับ หมายถึงที่อยู่อาศัย) ถัดลงมาเป็นรูปกระต่ายในดวงจันทร์ ด้านล่างสุดเป็นพระโกศตั้งอยู่บนโต๊ะหมู่บูชาแบบจีน เห็นได้จากตัวโต๊ะเขียนลายมังกร ส่วนด้านในของบานประตูหน้าต่างเขียนรูปกอบัว ดอกบัว นก และสัตว์น้ำ สำหรับบานหน้าต่างทั้งหมดก็เขียนลายรดน้ำคล้ายๆกับลายบนบานประตู ต่างกันนิดเดียวที่ด้านหน้าล่างจะเขียนเป็นรูปพระโกฐ (อัฐิ) อยู่บนแท่น 8 เหลี่ยม เมื่อก้าวผ่านธรณีประตูพระอุโบสถเข้ามาภายในแล้ว จะเห็นว่าผนังด้านในเขียนสีลายพุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแย่ง มีช่อดอกพุดตานภายใน ศิลปินใช้โทนสีค่อนข้างสมัยใหม่ แต่ยังใช้สีตัด แดง – น้ำเงิน – ในพื้นสีเหลือง กอปรกับไฟจากเพดานทำให้ดูเสมือนว่าเป็นจิตรกรรมบนพื้นสีทอง เพดานเป็นลายฉลุปิดทองบนพื้นสีแดง ส่วนบนขื่อบนจะเป็นพื้นสีเขียว พื้นพระอุโบสถปูด้วยหินอ่อน ภายในโบสถ์จะประดิษฐาน พระพุทธมหาโลกาภินันทปฏิมา พระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่หล่อด้วยทองแดง ขนาดหน้าตักกว้าง 6 ศอก สูง 8 ศอก 1 คืบ 4 นิ้ว มีตำนานเล่าว่า รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ขุดแร่ทองแดงที่อำเภอจันทึก จังหวัดนครราชสีมา ถลุงแล้วได้เป็นเนื้อทองแดงจำนวนมาก มีพระราชประสงค์จะใช้ทองแดงที่ถลุงได้นั้นให้เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่พระพุทธศาสนาก่อน จึงโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระพุทธรูปเพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอารามที่ทรงสร้างขึ้นใหม่ 2 พระอาราม คือ วัดราชนัดดา และวัดเฉลิมพระเกียรติ ทั้งได้โปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระพุทธรูปปางอื่นอีก 34 ปาง พระพุทธรูปเพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอารามหล่อเสร็จในปี พ.ศ. 2389 องค์ที่อัญเชิญไปประดิษฐานวัดราชนัดดา เวลาชักเคลื่อนองค์พระไปวัดเกิดอาเพศ ตะเฆ่ (เครื่องลากเข็นของหนัก รูปเตี้ย ๆ มีล้อ) ประดิษฐานพระไปทับเจ้าพระยายมราช (บุญนาค) กับทนายอีก 2 คน เสียชีวิต พระวิหารหลวง หรือเรียกกันว่า วิหารพระศิลาขาว อยู่ด้านทิศใต้ของพระอุโบสถ กว้าง 15 เมตร ยาว 24 เมตร สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน สถาปัตยกรรมไทยผสมจีน การประดับตกแต่งไม่ว่าจะเป็นเครื่องหลังคา หน้าบัน กรอบประตู – หน้าต่าง มีลักษณะคล้ายๆกับพระอุโบสถครับ ภายในวิหารประดิษฐานพระศิลาขาวประดิษฐานพระพุทธรูปศิลา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระพุทธรูปประจำพระวิหารเมื่อปี พ.ศ. 2401 พระศิลาขาว เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 30 นิ้ว สูง 33 นิ้ว สร้างด้วยหินสีขาวขุ่น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้อัญเชิญมาประดิษฐานในพระวิหารเมื่อปี พ.ศ.2401 พร้อมพระอัครสาวก 2 องค์ สูง 13 นิ้ว ทำจากหินสีมันปูนั่งพับเพียบ ปัจจุบันเหลืออยู่องค์เดียวเท่านั้น เสียดายที่พระวิหารปิดในวันที่เจ้าของบล็อกเดินทางไปเที่ยวชมครับ ด้านหลังพระอุโบสถมี พระเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงกลม หรือทรงระฆัง เรียกกันว่าทรงลังกา เนื่องจากได้รับแบบอย่างมาจากลังกา ก่ออิฐถือปูนรูปทรงกลม มีฐาน 8 เหลี่ยม 2 ชั้น สูง 45 เมตร ภายในประดิษฐานพระบรมธาตุ ศาลาการเปรียญหลวง อยู่ด้านทิศเหนือของพระอุโบสถ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน สถาปัตยกรรมแบบผสมผสมระหว่างอาคารทรงไทยกับเครื่องบนหลังคาแบบจีน ลักษณะเป็นตึกทรงโรงมีเสาอยู่ข้างใน กว้าง 16 เมตร ยาว 24 เมตร การประดับตกแต่งไม่ว่าจะเป็นเครื่องหลังคา หน้าบัน กรอบประตู – หน้าต่าง มีลักษณะคล้ายๆกับพระอุโบสถครับ บานประตู – หน้าต่าง เขียนเป็นรูปต้นไม้ศิลปะแบบจีนบนพื้นดำ ภายในศาลาการเปรี่ยญหลวงเขียนลายดอกไม้ร่วงบนพื้นสีขาว ถ้าสังกตุดีๆ จะเห็นว่ามีการไล่สีของดอกไม้ให้มีสีอ่อน – แก่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะตะวันตก เพดานเป็นลายฉลุปิดทองบนพื้นสีแดง ภายในประดิษฐาน “พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์” หน้าตักกว้าง 3 ศอกเศษ สูง 4 ศอกพร้อมด้วยพระอัครสาวก 2 องค์ หล่อด้วยดีบุก นั่งพับเพียบ วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร นนทบุรี ได้รับการคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างของกรมการ ศาสนา ในปี พ.ศ.2531 เป็นวัดอุทยานการศึกษากรมการศาสนา ปี พ.ศ.2538 และได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2536 จากสมาคมสถาปนิกสยามอีกด้วยนะคะ เพราะสถาปัตยกรรมในวัดนั้น มีความน่าสนใจอย่างมาก เมื่อวันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2562 ทางจังหวัดนนทบุรีได้กระทำพิธีพลีกรรมตักน้ำบริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยาหน้า วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร นนทบุรี เพื่อนำไปใช้เป็นน้ำอภิเษกเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะถือว่าแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าวัดเฉลิมพระเกียรติเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เพียงแห่งเดียวของจังหวัด การเดินทาง ไปยัง วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร จากกรุงเทพฯ ให้ข้ามสะพานพระราม 5 แล้วเลี้ยวแยกเข้าถนนบางกรวย-ไทรน้อย หรือจะข้ามจากสะพานพระนั่งเกล้า มาถึงแยกบางพลูก็ได้ จากนั้นเลี้ยวซ้ายผ่านวัดสวนแก้ว ขับไปตามทาง ในระหว่างทางก็จะมีป้ายบอกทางมาถึงวัด หรือถ้าใครอยากจะนั่งเรือชมวิวแม่น้ำ ก็สามารถนั่งเรือด่วนเจ้าพระยาไปยังท่าน้ำนนทบุรี แล้วลงเรือหางยาวเส้นทางไปคลองบางใหญ่ได้ โดยจะมีเรือออกจากท่าน้ำนนทบุรีทุกๆ 20 นาที ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาทีเท่านั้นเอง วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร นนทบุรี ที่อยู่ : หมู่ 3 ตำบลบางศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี พิกัด : https://goo.gl/maps/vwU5GPGMPnpyk5RB6 ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีสำหรับข้อมูลครับ วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร นนทบุรี – วิกิพีเดีย วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร – เทศบาลเมืองบางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรี วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร – amazing Thailand วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร – สำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดนนทบุรี วัดเฉลิมพระเกียรติฯ วัดสุดท้ายในพระราชศรัทธารัชกาลที่ 3 – กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม ชมสถาปัตยกรรมไทย-จีน “วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร” วัดงามโดดเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา – ผู้จัดการออนไลน์ ไปดูนกริมท่าน้ำบ่อยเลยคุณบอล
โดย: หอมกร วันที่: 9 กันยายน 2567 เวลา:15:20:42 น.
วัดนี้ได้ยินชื่อมานาน แต่ไม่เคยไปแถวนั้น เลยยังไม่เคยไปวัดนี้
ขอบคุณสำหรับข้อมูลด้วยนะคะ โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 9 กันยายน 2567 เวลา:19:55:44 น.
ขึ้นชื่อว่าเป็นพระอารามหลวง
ไม่ว่าจะชั้นไหน มักจะมีอะไรเด็ดๆที่น่าตื่นตะลึงซ่อนไว้เสมอนะครับคุณบอล ส่วนใหญ่เป็นวัดเก่าแก่ มีโบราณสถาน โบราณวัตถุที่สำคัญเก็บไว้ ศาสนสถานที่นี่สวยงามแปลกตาหลายจุดเลยครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กันยายน 2567 เวลา:20:26:57 น.
สวยงามแล้วก็เห็นรายละเอียดออกแนวจีน ๆ ผสมกลมกลืนด้วยนะคะ
ได้รู้ประวัติด้วย ทำให้เพิ่มอรรถรสในการเที่ยววัดดีด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะ กราบพระด้วยค่ะ โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 9 กันยายน 2567 เวลา:20:30:12 น.
เคยนั่งเรือไปแวะที่วัดนี้ตอนเทศบาลนนท์จัดนะครับ กับเคยปั่นจักรยานไปไหว้พระ แต่ไม่ได้อ่านประวัติเลย มาหาความรู้เพิ่มเติมจากบล็อกคุณบอลเลยละกันครับ
โดย: The Kop Civil วันที่: 10 กันยายน 2567 เวลา:10:53:59 น.
เก็บไว้ตามรอยไปเที่ยวบ้างค่า
โดย: Emmy Journey พากิน พาเที่ยว วันที่: 10 กันยายน 2567 เวลา:12:04:10 น.
เป็นโป๊ยเซียนที่บ้านผมเองครับคุณบอล
แต่แต่งภาพด้วยแอพ prisma อยากได้อารมณ์ประมาณภาพวาดมกากว่าภาพถ่ายครับ อดีตที่ดี มักทำให้เราคิดถึงมันได้บ่อยๆนะครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กันยายน 2567 เวลา:21:53:48 น.
กราบพระค่ะคุณบอล
ต๋าเคยไปวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหารครั้งหนึ่ง ชอบบรรยากาศริมน้ำด้วยค่่ะ หน้าบันพระอุโบสถงดงามมาก ทุกภาพสวยมากค่ะ ขอบคุณคุณบอลสำหรับภาพสวยๆและประวัตินะคะ โดย: Sweet_pills วันที่: 11 กันยายน 2567 เวลา:0:01:21 น.
สวัสดียามสายค่ะ คุณบอล
เป็นโบสถ์ที่เสาเยอะมาก แต่ก็สวยในแบบของเค้านะคะ เมื่อวานเย็นเพื่อนที่มีนไลน์มาบอกว่าฝนตกหนักค่ะ ผ่านไปครึ่งชม.กว่า ที่บ้านจันทร์ก็ตกค่ะ แต่นิดเดียว แต่กลางวันแดดเปรี้ยงตากผ้าครึ่งวันแห้งเหมือนกันเลยค่ะ โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 11 กันยายน 2567 เวลา:11:22:06 น.
กล้วยไม้บางสายพันธุ์ต้นใหญ่จริงๆครับ
บ้านแม่มาดามที่แม่สาย ปลูกแต่กล้วยไม้ต้นใหญ่ๆ แม่ของมาดามเลี้ยงเก่งด้วยครับ ออกดอกสวยงามตลอดทั้งปีเลย ผมเองก็เมื่อยเนือ้เมื่อยตัวมาสามวันแล้วครับ น่าจะเป็นเพราะโดนฝน เพลียๆ แต่ก็ไปทำงานตามปกติทุกวันครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กันยายน 2567 เวลา:20:08:27 น.
สวัสดียามสายค่ะ คุณบอล
เมื่อคืนฝนตกค่ะ เช้านี้มาชุ่มฉ่ำเลยยยย โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 12 กันยายน 2567 เวลา:10:08:48 น.
วันที่ไปคนดูไม่เยอะนะครับ แบบนี้สะดวกในการถ่ายภาพเลย
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 กันยายน 2567 เวลา:21:25:56 น.
บ้านมาดามปลอดภัยดีครับคุณบอล
แต่ถัดไปอีกซอย ท่วมจนถนนเป็นคลองเลย บ้านมาดามอยู่บนเนินเขาเลยรอดครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กันยายน 2567 เวลา:22:08:54 น.
❤ ประโยชน์บางประการของศาสนาอิสลาม 💙
💙 ประตูสู่สรวงสวรรค์ชั่วนิจนิรันดร ❤ การช่วยให้พ้นจากขุมนรก 💙 ความเกษมสำราญและความสันติภายในอย่างแท้จริง ❤ การให้อภัยต่อบาปที่ผ่านมาทั้งปวง 💙 สิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมในศาสนาอิสลาม ❤ านภาพของสตรีในศาสนาอิสลามเป็นอย่างไร? 💙 ครอบครัวในศาสนาอิสลาม ❤ ชาวมุสลิมปฏิบัติต่อผู้สูงอายุอย่างไร? 💙 ชาวมุสลิมมีความเชื่อเกี่ยวกับพระเยซูอย่างไร? https://justpaste.it/b790p โดย: ศาสนาอิสลาม IP: 176.16.165.99 วันที่: 13 กันยายน 2567 เวลา:7:02:23 น.
|
BlogGang Popular Award#20
ทนายอ้วน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?] Friends Blog
|