www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

2 ข้อที่ว่าด้วย 'ปรากฎการณ์ ทไวไลท์ – อะไรกันนักหนา ?' + 8 ข้อที่อยากพูดถึง New Moon




1. มีเสียงของคนดูหนังชุด Twilight แล้วกลับมาสงสัยว่าทำไมหนังถึงดังเหลือเกิน ทำไมคนพูดถึงกันนักกันหนา ทั้งที่เนื้อหาก็ดูไม่ได้มีอะไรมาก

ถ้าจะเอาจริงๆ มันก็พอจะมีข้อเท็จจริง ที่อธิบายได้ และ ทำให้ไม่แปลกใจ ที่ Twilight จะสร้างปรากฎการณ์ระดับถล่มทลาย เพราะ ด้วยคุณภาพหนังก็อยู่ในระดับแนวหน้าทั้งงานสร้างและการกำกับ แต่ ที่ถล่มทลาย ไม่ได้มาจากคุณภาพเป็นสาเหตุหลักๆ หากแต่ เพราะในส่วนเนื้อหา ตัวหนังกับหนังสือ มีคุณสมบัติหลายข้อที่ จับใจ คนดูกลุ่มกว้าง

Twilight เป็นหนังแวมไพร์ที่เกี่ยวข้องกับ ‘เพศหญิง’ ทั้งผู้สร้างและผู้ชมมากเป็นพิเศษ เริ่มตั้งแต่ผู้แต่งนิยายก็เป็นหญิง (Stephenie Meyer) ตัวนิยายก็ใช้นางเอกเป็นคนเล่าเรื่องแทนตัวเองว่า ‘ฉัน’

ดังนั้นเวลาอ่านหนังสือ ยิ่งผู้เขียนบรรยายเรื่องราวได้ดีมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ผู้อ่านสาวๆเคลิ้มอินตามไปด้วยมากเท่านั้น

ครั้นเมื่อมาทำเป็นหนังภาคแรก ก็เกิดการแท็คทีมพลังหญิง อันประกอบไปด้วยผู้กำกับ Catherine Hardwicke , คนเขียนบท Melissa Rosenberg และ Stephenie Meyer ที่ตามมาด้วย ทั้งสามสาวแสดงออกถึงเข้าใจความโรมานซ์สำหรับสาวๆได้เป็นอย่างดี

เพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Twilight ทั้งเวอร์ชั่นหนังและหนังสือชนะใจคนดู คือ การฝากภาพ ‘เพศชาย’ในอุดมคติ ไว้ที่ตัว เอ็ดเวิร์ด คัลเลน




เอ็ดเวิร์ด เป็น แวมไพร์โปรไฟล์เลิศ ทั้ง หล่อ + รวย + หัวดี + พลังกายเกินร้อย + พลังใจงดงาม มีคุณสมบัติเพียบพร้อมกับการเป็นชายในฝัน อีกทั้ง ความเป็นแวมไพร์ ของ เอ็ดเวิร์ด ใน Twilight สามารถตีความโยงไปถึง sex ได้อย่างน่าสนใจ

เมื่อทั้งหนังและหนังสือล้วนบรรยายความรู้สึกที่กระหายอยากสูบเลือดนางเอก แต่ก็พยายามควบคุมตัวเอง ได้ราวกับความรู้สึกของแรงขับทางเพศ ซึ่งเจ้าตัวต้องต่อสู้ระหว่าง ‘ความอยาก - Id’ กับ ‘ความถูกต้อง - Superego’

ความพยายามหักห้ามใจไม่ล่วงเกินฝ่ายหญิง ของเอ็ดเวิร์ดนี้เอง เป็นสัญลักษณ์ของการให้เกียรติสตรีเพศ แสดงให้เห็น ความเป็นสุภาพบุรุษที่สาวๆมองหาในตัวชายหนุ่มในสังคม

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่พลังหญิงของคนเขียน, ผู้กำกับ , ผู้ชม และ ผู้อ่าน จะพา Twilight ไปได้ไกลถึงขนาดนี้




2. แล้ว New Moon ละ ?

New Moon เป็น ปรากฎการณ์พล็อต ละครไทย ที่ถูกพัฒนาไป ในระดับฮอลลีวู๊ด

พล็อตไม่มีอะไรมาก ตัดสถานภาพ แวมไพร์ กับ มนุษย์หมาป่า ทิ้งไป เราก็จะได้ละครไทยเนื้อหาประมาณ



... พรหล้า สาวชาวบ้าน รัก เอ๊ดดี้ ลูกเศรษฐีผู้สูงศักดิ์ แต่ เอ๊ดดี้ คิดว่า พรหล้า ต้องเจ็บปวด เมื่ออยู่ไปก็ปรับตัวกับความไฮโซไม่ได้ แถม พรหล้า ยังอยากจะเปลี่ยนตัวเองให้ไฮโซ อยากพลีกายให้เอ๊ดดี้ แต่ เอ๊ดดี้ ไม่ใช่คนแบบนั้น ที่ เอ๊ดดี้รักคือ ความเป็นคนธรรมดาๆของพรหล้า



และ เพราะความดีเกิน เอ๊ดดี้ จึงหนี พรหล้า เปิดโอกาสให้ ตะขบ เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ถือโอกาสเข้ามาใกล้ชิด ดามหัวใจที่ถูกหัก แล้วสุดท้าย เอ๊ดดี้ สำนึกได้ กลับมาหา พรหล้า สร้างปัญหาหัวใจให้ยุ่งเหยิง

พล็อตสไตล์นี้ สามารถส่งตัวตนของ พรหล้า เข้าไปแทนที่ สาวๆคนดูอีกครั้ง คล้ายๆกับใน Twlight ด้วยการ ตอบสนอง จิตใต้สำนึกของแฟนๆที่ดูอยู่ ให้รู้สึกถึง คุณค่าในตัวเอง มากจนเป็นที่ต้องการของ ผู้ชายแสนดีสองคน คนหนึ่ง ซื่อ จริงใจ ใส่กล้ามเต็มสูบ มาโช่เต็มที่ ส่วนอีกคน หล่อด้วย รวยด้วย เดินแต่ละก้าวประกายส่องวิบวับ หล่อมาแบบเมโทรเซ็กช่วล

หล่อสองสไตล์ พยายาม ปกป้องเธอจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต ยอมอดทนแม้เธอจะทำฉันช้ำใจ

เป็น สาวคนไหน ได้อ่าน หรือ ได้ดู ก็น่าที่จะประทับใจได้ไม่ยากเย็น




3. คำถามที่พบบ่อย Twilight – New Moon อันไหน หนุก-ดี กว่ากัน ?

ผมคิดว่า คุณภาพโดยรวมนั้นสูสี โดย New Moon อาจตามหลังเล็กน้อย

ข้อดีของตัวหนัง Twilight คือ อารมณ์หนังอุ่นไอไปด้วยความโรมานซ์ หวานจนอาจจะเลี่ยนไปสำหรับหนุ่มๆ แต่ ก็ละมุนละไมใส่ความเป็นเพศหญิง (คล้ายๆกับที่ หนังของไมเคิล มานน์ ก็อบอวลด้วยความแมนในตัวหนัง)

ในขณะที่ Chris Weitz ผู้กำกับ New Moon ที่เพิ่งดับมากับ The Golden Compass มีจุดเด่นตรงเทคนิกการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ เช่น การนำเสนอ เวลาที่ผ่านไปแต่ละเดือน , การมาของเอ๊ดเวิร์ดในรูปแบบละอองภาพ , ความกลัวถึงอายุที่เล่าผ่านความฝัน ฯลฯ แต่ก็ด้อยลงในแง่ อารมณ์ (บางตอนก็ซึ้งอยู่ อย่างตอนเสียศูนย์นี่ก็จี๊ด)

ด้วยตัวเนื้อหา ที่ก็ไม่ได้มีอะไรมากอยู่แล้ว สำหรับคนที่อิน ก็เชื่อว่า จะอินไปกับทั้งสองภาค แต่กับตัวเอง อินแค่ประมาณหนึ่ง คือ ก็ซึ้ง แต่ ซึ้งสั้นๆ สลับ เหนื่อย กับ ความเนือย ที่มาหลายช่วง จน อยากให้ผ่านช่วงนั้นไปไวไว(เช่นใน New Moon ช่วง เอ๊ดเวิร์ด จากไป จน กลับมา ตอนแรกก็ซึ้ง แต่นานไปมันก็เริ่มเนือย)


4. สำหรับคอหนังที่ไม่รู้ ว่าดูหนัง หรือ อ่านก่อน ดีกว่ากัน ในฐานะที่ อ่านเล่มแรกแล้วไม่ถูกจริต จึงคิดว่า คนที่แพ้อารมณ์ Twilight ถ้าอยากจะดูภาค New moon ให้สนุกไม่ต้องอ่านแล้วไปดูเลยจะดีกว่า เพราะทดลองกับตัวเองแล้วว่า ผลที่ออกมาดีกว่า(อ่านมาแล้ว)จริงๆ เนื่องจาก ตัวเนื้อหาหนังสือก็ไม่มีอะไรมาก แถมหนังก็ไม่กล้าดัดแปลงมากอีก พออ่านมาก่อน ก็เลยไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่


5. ตัวละครหลายคน น่าเป็นห่วงในปัญหาสุขภาพจิต

หนูเบลล่า สามารถใช้เป็นตัวอย่างหรือ Case study ของ โรคซึมเศร้า ได้เป็นอย่างดี ตามอาการดังนี้ – อารมณ์เศร้าซึม , เบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไร , แยกตัวจากสังคม ทำกิจกรรมสังคมลดลง, นอนไม่หลับ ฝันร้าย อาการรุนแรงถึงขนาด มีหูแว่ว ภาพหลอน , คิดทำร้ายตัวเองชนิดลืมพ่อลืมแม่ ฯลฯ อาการเข้าข่ายโรคซึมเศร้าครบครัน


ส่วน เจค๊อบ พ่อหนุ่มมนุษย์หมาป่ากับผองเพื่อน เผ่าพันธุ์นี้ มีอาการหลงรูปตัวเองขั้นรุนแรง เสื้อก็ไม่ค่อยจะใส่ มีโอกาสต้องโชว์แมนเป็นว่าเล่น ทั้ง ซิกส์แพ็ค กางเกงเอวต่ำ (สงสัยว่า คอสตูมดีไซเนอร์ มาจากหนังชุดเดียวกับ หนังของพิง ลำพระเพลิง)

บวกพฤติกรรมโชว์แมนไม่สมเหตุสมผล เช่น ไถลแมงกะไซด์ที่เพิ่งซ่อมให้พังยับ โผไปช่วยนางเอกแทนที่จะจอดดีๆก่อนก็คงไม่เป็นไร หรือ เห็นนางเอกเลือดออก พี่เล่นถอดเสื้อทั้งตัว เพื่อ เอามาซับเลือด ทันที

(เป็น มาตรฐานใหม่ของความเป็นสุภาพบุรุษ ที่น่ากลัวมาก สร้างความกดดันให้กับ ผู้ชมแฟนหนุ่มที่ตามแฟนสาวไปดูหนัง เพราะ จาก The Letter ทำให้หนุ่มตาน้ำข้าวต้องไปฝึกล้างเท้านวดเท้าให้แฟนสาวพิสูจน์รักแท้ แต่ งวดนี้ หนุ่มๆต้องพร้อมจะถอดเสื้อกลางชุมชน ได้ทุกขณะจิต แม้เพียงมีดบาดนิ้วแฟนสาว)





6. ถ้า หนูเบลล่า อยู่ครอบครัวอื่นที่ไม่ได้มี พ่อผู้แสนดีแบบในเรื่อง น้องหล้า มีสิทธิถูกพ่อแม่ตบสั่งสอน ข้อหาบ้าผู้ชาย ในระดับน่าเป็นห่วงมาก

สำหรับนักเรียนมัธยมปลายซักคน ที่พร้อมจะหนีตามผู้ชาย ชนิด สวยไม่แคร์สื่อ หรือ ไม่สนพ่อแม่ อีกทั้ง บทจะทำร้ายตัวเองก็ลืมครอบครัวไปเสียหมด เพียงเพราะ ชายทิ้ง



แถมตอนอ่อนแอ ทำทีเหมือนจะมีใจให้ เพื่อนชาย ครั้นคนรักเก่ากลับมา ก็เข้าใจว่า จะกลับไปหา คนรักเก่า แต่คำพูดคำจาของเธอ ช่างไม่ทะนุถนอมน้ำใจตอนเขาเคยทำดี แต่ตอบสั้นๆเชิดหน้าประมาณ “ไปเถอะ ยังไง ชั้นไม่เอาเธอหรอก น่าจะรู้ตัวนะ


7. ปกติ จขบ. จะหวั่นไหวกับนางเอกหน้าสวยสไตล์ คริสเตน สจ๊วต แต่ขณะดู New Moon อยู่ก็พบคำตอบว่า ทำไมถึงไม่หลงใหลน้องเบลล่า เลย



เพราะ หน้าตาเบลล่า ดูเหมือนท้องผูกอยู่ตลอดเวลา ขนาดฉากซึ้งหรืออารมณ์ดี ก็ดูยังมีปัญหาลำไส้ให้ใบหน้าตึงเครียด ทั้งๆที่ปูมหลังชีวิตในเรื่องก็ไม่ได้ระกำลำบากหนักหนา หรือ ขาดรัก มาจากไหน

ความสดใสเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้ Twilight สองภาค กระชุ่มกระชวยสำหรับจขบ.คือ อลิซ




8. ดู New Moon แล้วสงสารคนรอบข้างเบลล่า (พ่อ , แฟน , เพื่อน ) นั่งคิดว่า ถ้าอยากให้หนังเข้าตานักวิจารณ์

8.1 ผู้กำกับน่าจะลองกล้าหาญชาญชัย เพียงเปลี่ยนบทตอนท้ายนิดเดียว เช่น

เจค๊อบ : ฉันมีอะไรอยากจะพูดกับนาย

เอ๊ดเวิร์ด : ฉันอยากขอบคุณนายก่อน ที่ปกป้องเบลล่า

เจค๊อบ : เอาเถอะ เอ๊ด เรื่องเบลล่า เราเหนื่อยมาพอแล้ว เรารู้ใจตัวเองแล้ว

เราชอบนายวะ นายจริงใจ ไม่หวั่นไหวง่ายเหมือน เบลล่า ไม่ทำเราเจ็บปวดเหมือนเบลล่า เราอยากคบกับนาย



เอ๊ดเวิร์ด : ฉันก็ชอบแก จาค็อบ คบแกมันง่ายๆดี ไม่เดือดร้อน ถ้าเรารักกัน เผ่าพันธุ์ของพวกเราจะได้ผสานกันเป็นหนึ่งเดียว


เข้าสู่ไตรภาค Twilight mountain



8.2 หรือจ้าง คอมโพเซอร์ จากเมืองไทย ใส่เพลงไทยใน OST. ดังนี้ น่าจะทำให้อินในเนื้อเรื่องที่เป็นอยู่มากกว่า เพลงเดิมที่ใช้อยู่


ธีมของเอ๊ดเวิร์ด - รักก็เจ็บ เลิกก็เจ็บ , ฟ้าคงสะใจ , ฉันทำผิดเอง

ธีมของเจคอบ - ตัวจริงของเธอ , ตัวสำรอง , เหนื่อยไหม

ธีมของเบลล่า - อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน , ดาวมหาลัย (ใส่เสียงร้องแบบกอสเปลช่วง "พ่อไม่เข้าใจเบล พ่อไม่เซ้นซิถีฟ")



9. ข้อนี้ไม่สปอยล์ เพราะจขบ.ยังไม่ได้อ่านเล่มถัดไป แต่ คิดเล่นๆในแง่ว่า

พล็อตของ Twilight มีสิทธิไปได้ไกลกว่า นิยายรักโรมานซ์ ถ้าต่อยอดประเด็นว่า เอ็ดเวิร์ด กับ เบลล่า มีลูก

โดยที่ทั้งสองคนเป็นแวมไพร์ แต่ ลูกเป็นคนธรรมดา ครั้น เมื่อลูกโตเข้าวัยรุ่นเริ่มรู้ความจริง ลูกอยากเป็นเหมือนพ่อแม่ ทั้งคู่ จะเลือกให้ ลูกโตเป็นคนธรรมดาใช้ชีวิตเหมือนเพื่อนๆ หรือ จะกัดซอกคอทำให้เขาเป็นแวมไพร์

พล็อตนี้ขอเปลี่ยนเอาผู้กำกับ Let the right one in มาทำแทน เป็น Let the twilight one in





10. เหล่าโวลทูรี่ เท่จริง เจ๋งจริง เสียดายบทน้อยไปหน่อย (น้องดาโกต้า พูดแค่ไม่ถึง ห้าประโยค กับ เจ้าหนูคาเมรอน ไบรท์จาก Birth ไม่ได้พูดซักแอะ) , ชอบ Michael Sheen มากมาตั้งแต่พี่แกเป็น โทนี่ แบล ใน The Queen แล้วเปลี่ยนมาเป็น ฟรอสต์ ใน Frost/Nixon โดยไม่ทำให้คนดูติดภาพในบทเดิม งวดนี้เลยกลายมาเป็น เล่นหนังไตรภาคแวมไพร์หมาป่า สองเรื่องเลย ว่าจะไปหยิบ The Damned United มาดูต่อซะหน่อย



สรุป ... ในฐานะไม่ใช่แฟน เอ็ด , เบล หรือ จา ดูแล้วก็ออกแนวอารมณ์ประมาณ ก็ดี ไม่ดี ไม่แย่

ถ้าชอบภาคแรก ก็ไม่ควรพลาดภาคสอง แต่ ถ้าภาคแรกหาวเป็นพักๆ ภาคสองควรเตรียมหมอนไปด้วย


Link บทความที่เกี่ยวข้อง

Twilight + The Duchess + Teeth , (สัปดาห์หนังพลังหญิง) อาทิตย์นี้ ผู้หญิง ครองโรง

The Golden Compass , ง๊ายง่าย เด๊กเด็ก

The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'

Angels and Demons + Let the right one in , แดน บราวน์ ห้าวเป้ง ปะทะ แวมไพร์เจ๋งเป้ง








Create Date : 23 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2552 10:10:33 น. 42 comments
Counter : 10782 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ ส่วนตัวแอบน้ำตาซึมไหลออกมาด้วย ตอนฉากที่ เอ๊ดบอกว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก แบบว่าไม่ไหวแล้ววว เข้าใจความรู้สึกนั้นเลย แอบคิดว่าตัวเองเป็นแบล่าด้วยนะคะ เพ้อไปใหญ่แระ อิอิ


โดย: นางสาวเปิ่นจัง วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:2:34:45 น.  

 
ไม่อยากดูเพราะนิสัยนางเอกเนี่ยแหละครับ เหอๆ


โดย: McMurphy วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:05:55 น.  

 
โอ้โห วิจารณ์ได้โดนมากๆเลยค่ะ

ขำมากๆด้วย


โดย: มาดามอุ้ย วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:47:19 น.  

 
วิจารณ์ตรงประเด็นมากเลยค่ะ งั้นเราก็ไม่ควรดูสิ เพราะภาคที่แล้วแอบหลับบางช่วง(เวรกรรม) ใจจริงอยากไปดูดาโกต้านะ แต่มีบทน้อยอย่างนี้ ต้องคิดหนักหน่อยแล้ว


โดย: krookkroo IP: 125.24.136.26 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:44:39 น.  

 
555 คุณวิจารณ์สนุกดี ขำๆ เรื่องนี้เป็นปรากฏการณ์มากๆ เคยพยายามจะผสมโรงแต่ไปไม่รอดค่ะ
ปล. ดู คุณน้องร้อบบี้ไปออกรายการ Letterman show น้องเขาพูดไม่สบตาคน อินกับบทแวมไพร์จริงๆ สำเนียงอเมริกันจ๋าด้วย


โดย: จังไม IP: 116.68.148.34 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:01:36 น.  

 
ตรงประเด็นดีมาก
เห็นด้วยอลิซ ชอบอลิซ คนอื่นไม่สน


โดย: jantp27 IP: 10.100.1.20, 202.47.230.38 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:04:57 น.  

 
ถ้าภาคแรกทำผมเคลิ้มๆจะหลับๆ (ไม่ไหวจะเอียนจริงๆ)แล้ว ..ภาคสองต้องเตรียมหมอนไปหนุนด้วย ผมชักเกร็งๆแล้วนะเนี่ย

ที่จะไปดู ก็เพราะอยากรู้ว่าตัวเองจะยังรับหนังตระกูลนี้ไหวมั้ยเนี่ยแหละครับ

อ้าวละเว้ย! วันพุธนี้ คงมีคำตอบให้ตัวเองล่ะนะ


โดย: OncE UPoN'-'a MaN วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:15:19 น.  

 
ผมว่า ผมชอบดูหนังแวมไพร์นะ แต่เรื่องนี้ไม่ไหวจริงๆอ่ะ ตอนภาคแรกก็แอบงงๆ ว่า ตกลงมันจะเป็นหนังรัก หนังแฟนตาซี หรือ หนัง Action มันมาแอบกะจะเอาให้ครบรสยังไงไม่รู้ สุดท้าย ก็มีแต่คนพูดแค่ว่า พระเอกหล่อๆๆๆๆๆ แต่ไม่เห็นมีใครมาพูดเชิงบทหนังเลยสักคน อย่างที่คิด พร็อตก็ไม่มีอะไรมาก แค่ เรื่องรักของผู้หญิง กับ คนรัก และ เพื่อนสนิท ธรรมดามาก แอบสงสัยว่า ถ้าเปลี่ยนคนแสดงเป็นหน้าบ้านๆ ไม่หล่อ หุ่นไม่ดี สาวๆจะไปดูหนังเรื่องนี้กันอยู่ไหม เลยรู้สึกว่า หนังอาจจะดี แต่กลับผิดจุด ดันไปเน้นเกี่ยวกับกระตุ้นความรู้สึกความเป็นชายหล่อ หุ่นดี และ สุภาพบุรุษไป และเห็นถึงตัวผู้หญิงที่แบบเห็นแก่ตัวไปหน่อย ซึมเศร้ามากไป ไม่สนใจอะไรเลยนอกจากความรักที่บิดเบี้ยว กลัวเข้าไปดูแล้วจะหงุดหงิด

ปล.ผมก็ไม่เข้าใจมาก ทำไมเห่อกันจังเลย กับหนังเรื่องนี้ สาวๆเค้าต้องการอะไรจากคนที่ตัวเองรักกันแน่นะ ความ Perfect หรือ ความเป็นตัวเราเองกันแน่ ถ้าอ้วนๆไม่หล่อแต่รักจริง มันไม่พอเหรอ


โดย: Boatmaster IP: 114.128.179.42 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:33:12 น.  

 
ไม่ใช่แฟนหนังสือ
และยังไม่ได้ไปดูภาคนี้
แต่อ่านจากที่คุณคิด
ดิฉันก็คิดว่าคงเข้าทางสาวๆอย่างดิฉัน
55++
ดูน่าพี่เอ็ดเวิดเสีย 60 ก็คุ้มแล้ว


โดย: โบ IP: 58.9.6.147 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:57:33 น.  

 
Twilight mountain
คิดกันไปได้ ฮาๆๆ


โดย: Roof IP: 113.53.119.25 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:51:06 น.  

 
ดีใจที่ได้อ่าน คำวิจารณ์ ดีๆ เสียดสี มีอารมณ์ขัน

สอดแทรก เนื้อหาเล็กน้อย ไม่น่าเบื้อ ขำตรงตะขบงะ คิดได้ไงเนี่ย กับมุข mountain สุดยอด

แต่จากประโยคที่เขียนดูให้อารมณ์ อิจฉา หนุ่มในเรื่องยังไงไม่รู้ สงสัยจัง ว่า 6 แพคของ คุณ เป็นไงน้า

พอได้อ่านแล้วชักคิดถึงหนังสือเล่มหน้าของคุณซะแย้ว

เริ่มอยากอ่านแล้ว



โดย: jubu IP: 124.157.200.88 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:01:01 น.  

 
โถ่พูดซะน้องเจคเสียเลย
ที่เค้าต้องใส่แค่กางเกงเพราะเวลาแปลงร่างมันลำบากนะคะ ตามเล่ม3 เจคบอกว่าเวลากลายร่างเป็นหมาป่า ต้องเอากางเกงไปผูกไว้กับขา แล้วถ้ายังมีเสื้ออีก จะลำบากขนาดไหน
อิอิ แต่ยังไงก็ชอบค่ะ 8แพ็คของเจค


โดย: Snoopy IP: 10.7.74.247, 202.28.180.220 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:26:16 น.  

 
ฮามากครับ โดยเฉพาะ Twilight Mountain


โดย: ่Demon IP: 58.137.0.19 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:44:48 น.  

 
อยากดูพวกเวอร์ทูรี่ แค่นั้นแหละครับ


โดย: Gob IP: 222.123.221.186 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:41:19 น.  

 
พูดถึงเบลลาได้สะใจมากค่ะ >_<


โดย: โปรดทำให้ฉันหยุดหัวเราะ วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:19:43 น.  

 
5555+ ชอบคุณจริงๆคะ 5555+
ยังไม่ได้ไปดูเลยค่ะ กะว่ารอไปดูพรุ่งนี้
แต่รอมาอ่านในบล็อคคุณหมอก่อน เข้ามาประจำ
ส่วนตัวเเล้วอชบภาคแรกและรอภาคสองมานาน
คุณหมอวิจารณ์ตรงประเด็นดี มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
ภาคนี้ดูๆไปก็พล็อตไทยๆเรานี่เอง(น้ำเน่า)
ไม่เคยอ่านเป็นนิยายเลยคะ หาไม่เจอ กลัวอ่านแล้วจะไม่ชอบเท่าที่ดูหนัง เดี๋ยวจะเสียอารมณ์ซะเปล่าๆ
ขอบคุณคุณหมอนะคะ
ปล.อดคิดไม่ได้คะ... อย่าว่างั้นงี้นะ แต่คุณหมอปากร้ายชะมัดเลย ถ้าฉันเป็นเมเยอร์นะ... ฉันมาฉีกอกคุณแล้ว5555+


โดย: กวินชนก IP: 125.25.236.9 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:36:25 น.  

 
อ่านแล้วไม่อยากดูเลยคะ
เพราะชีวิตในเรื่องเหมือนเราเลยแต่กลับกันที่เราเป็นผู้หญิง
แต่เราเป็นเจคอบที่โดนหลอกให้มาเยียวยาและรักเขา
แต่สุดท้ายก็โดนเบลล่า(ผู้ชายของเรา)หลอกและกลับไปหาของเก่า
ว้า นอกเรื่องซะไกลเลย
แต่ตามอ่านทุกเรื่องนะคะ


โดย: วันจันทร์ถึงศุกร์ IP: 125.26.131.237 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:30:49 น.  

 
ตอนที่ดูภาคแรกแล้วเห็นเรื่องความยับยั้งชั่งใช่ของเอ็ดเวิร์ดแล้วก็คิดถึงประเด็นเดียวกับคุณหมอครับ

ส่วนภาคนี้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ดูเมื่อไหร่


โดย: เจรามี วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:45:09 น.  

 
โดนใจทุกตัวอักษรจังเลยค่ะพี่หมอ
บอกได้เลยว่าหากลูกสาวเป็นแบบน้องหล้า คงได้ตบล้างน้ำกันในยุค 2000 แน่นอนค่ะ
(จะมีสาวๆค้านว่า แล้วหากเอ๊ดเป็นพี่เคนล่ะ อืม...ขอเป็นน้องหล้าก็ได้ ฮาาาาาาา)

พรุ่งนี้จะไปดูค่ะ (วันพระ ผีไม่กัดหรอกเน๊อะ) แล้วกลับมาอ่าน เหมือนทุกครั้งที่อ่านแล้วไปดู และกลับมาอ่านอีกรอบ ^ ^


โดย: มนน้ำฝน IP: 113.53.161.244 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:07:42 น.  

 
วิจารณ์ได้โดนใจมาก ๆ เลยค่ะ ฮาดีด้วย ...
ไม่ค่อยชอบเบลล่าตรงที่ทำหน้าเหมือนคนหงุดหงิดตลอดเวลา
ขนาดตอนเจอพระเอก(อีกครั้ง) ทำหน้าเหมือนปวดตับ เจ็บเม็ดเลือดแดงมาก ๆ
(ตกลงว่าเจ๊ดีใจหรืออยากเข้าห้องน้ำกันแน่เนี่ย -"-)

ตอนดูเกือบหลังเหมือนกัน แต่สิ่งที่ยังทำให้ตื่นอยู่ได้ก็คือเสียงสาว ๆ ในโรงกรี๊ดกร๊าดกันนี่แหล่ะค่ะ แถมแอบได้ยินเสียงกลั้นหายใจของน้องคนข้างหลังตอนเจคถอดเสื้อเห็น 8 pack ด้วย


โดย: หลานสาวเชอร์ล็อคโฮล์มส์ วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:09:00 น.  

 
อ่านกระทู้นี้ก่อนไปดูหนังแป๊บเดียว
ที่จริงก็ไม่อยากดูแต่เพื่อนลากไปน่ะค่ะ
พอเข้าไปดู ช่วงแรกๆรำคาญเบลลามากเลย
ยายนี่ป่วยจริงๆด้วย
แต่พอมีผู้ชายเปลือยอกโผล่มาเรื่อยๆก็โอเคขึ้น แล้วสุดท้ายก็นั่งขำเพราะมัวแต่คิดถึงหนังคุณพิง ลำพระเพลิงอยู่ดี ฮ่าๆๆ


โดย: น.ว. IP: 58.8.210.7 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:21:58 น.  

 
ไม่ได้เป็นแฟนหนังและหนังสือครับ แต่เห็นลูกศิษย์สาวๆ กรี๊ดกันเหลือเกิน เลยเข้ามาอ่านซักหน่อย

ขำ 8.1 และ 8.2 ถ้าทำตามนั้นคงดังระเบิดกว่านี้นะครับ ฮ่าๆๆ


โดย: absent-minded IP: 158.108.228.110 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:10:51 น.  

 
ถ้าเกลียด twilight แล้วยังจะควรดู new moon อยู่ปะ
ปล. เราก็เป็นผู้หญิงนะ


โดย: เลดี้ IP: 58.8.19.16 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:44:42 น.  

 
เกลียด twilight แล้วยังควรจะดู new moon อีกปะ
เราก็เป็นผู้หญิงนะ ไม่เห็นจะชอบเลย


โดย: เลดี้ IP: 58.8.19.16 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:45:47 น.  

 
เมื่อไหร่พี่หมอจะดูหนังเรื่องใหม่เสียที อยากอ่านบทวิจารณ์อื่นๆแล้วคะ...ฮือๆ

ปล.อยากให้ชล็อกโฮร์มเข้าไวไว ไม่รู้พี่หมอจะไปดูไหม อยากอ่านมากๆ เลยว่าพี่หมอคิดไง


โดย: กวินชนก IP: 125.25.23.188 วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:13:02:35 น.  

 
แอบไม่เห็นด้วยนิดหนึ่ง ที่ว่าสาวๆจะคิดว่าตัวเองเป็นเบลล่าได้ไม่ยากนัก

คิดว่าส่วนตัวแล้วเป็นเบลล่าไม่ได้แน่นอนค่ะ เพราะถ้าเกิดเหตุกับชีวิตตัวเองแบบที่เกิดกับเบลล่านั้น คงไม่จิตตกถึงขั้นซึมเศร้าแบบเบลล่า

ตรงนี้คิดว่าขึ้นอยู่กับ personality type ของแต่ละคนมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนแต่ละคนมี coping ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ก็เลยไม่อินกับเรื่องของเบลล่ามากนักค่ะ

แต่จขบ.ใจตรงกับเราอยู่อย่างค่ะ

คือว่าเราชอบ อลิซมากที่สุดเลย หุหุ


โดย: ชื่อนี้ไม่มีในสารบบ IP: 58.9.195.95 วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:19:59:26 น.  

 
ในเล่มถัดๆไป มีลูกแน่นอนค่ะ แต่เป็นลูกครึ่ง(มนุษย์-แวมไพร์)

ตอนอ่านเรื่องนี้ ยอมรับว่าเล่มสองน่าเบื่อสุด แต่ทนอ่านต่อไปเพราะยังอยากรู้ว่าเมื่อไหร่เบลล่าจะเป็นแวมไพร์

แต่ในฐานะคนอ่านครบทุกเล่ม คิดว่าภาคสามและสี่จะสนุกขึ้นแน่นอนค่ะ เพราะมันจะเป็นลักษณะของสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ ทั้งแวมไพร์ หมาป่า

ตอนแรกเอือมๆเบลล่าไปหลายเล่ม แต่พอเล่มจบรักยัยเบลล่าเลยค่ะ เพราะสิ่งที่เธอทำมันยิ่งใหญ่มากในชีวิตลูกผู้ ญ.คนนึง สำหรับอีกชีวิตที่เธอรักไม่แพ้ตาเอ็ดเลย


โดย: aiannahna วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:16:19:15 น.  

 
ชอบอลิซเหมือนกันครับ
รำคาญนิสัยนางเอกเหมือนกัน 555

หมาป่าก็โชว์กล้ามเวอร์ไปหน่อยจริงๆ
แม้บักเจคจะหุ่นดีก็เหอะ 555

ภาคแรกนี่ผมว่าโรแมนติกกะลังดี
แต่ภาคนี้ดูแล้วเลี่ยนมากๆ ครับ -.-''
คิดถึงหนังไทยจริงๆ ซะด้วย O_o''


โดย: lkunl IP: 146.23.250.105 วันที่: 1 มกราคม 2553 เวลา:4:16:06 น.  

 
ถ้าไม่ชอบแล้วจะดูเพื่อมาบ่นทำไมกัน คนเรามีความคิดไม่เหมือนกันนะคุณ ไปเที่ยวเขียนวิจารณ์คนอื่นเขาในทางที่ไม่ค่อยดีอย่างนี้ทำไมกันถ้าคุณไม่ชอบก็ไม่ต้องดูซิ หรือถ้าไม่พอใจนักแสดงก็ไปแสดงเองซิ จะได้ถูกใจตัวเองดีไหมล่ะ


โดย: แฟนหนังเรื่องนี้!! IP: 58.64.84.145 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:05:33 น.  

 
ไม่ชอบก็อย่าดูซิหนังน่ะ ไปแสดงเองเลยไป!! เชิญ นี่แล้วอย่าลืมล่ะ ตอนแสดงอย่าทำหน้าเหมือนคนท้องผูก แล้วก็อย่าเป็นโรคซึมเศร้า อ้อ!!อย่าแสดงหนังเกี่ยวกับผู้หญิงด้วยนะ


โดย: แฟนหนังเรื่องนี้!! IP: 58.64.84.145 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:14:13 น.  

 
บางทีผู้หญิงอาจมีพื้นฐานที่ความเป็น "โรมานซ์" อยู่แล้วค่ะ 55
เราเป็นคนนึงที่เป็นแฟนหนังสือเรื่องนี้ คิดเหมือนกันว่าพล็อตแนวละครหลังข่าว รู้อ่ะ ว่ามันเน่า แต่ก็ชอบ เหมือนว่า "นี่แหละ ที่ฉันกำลังตามหา"

อ่านความเห็นของพี่แล้วตลกดี จริงๆ แล้วก็แอบหวังนะเนี่ยให้เอ็ดดี้กับจาคอบกิ๊กกัน (ต่อมสาววายทำงาน กร๊ากก)

ภาค 2 ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ ไม่ค่อยกระตือรือร้นเหมือนภาคแรก ขนาดอ่านนิยายเรายังไม่ค่อยปลื้มยายเบลล่าเท่าไหร่ (ถึงเล่มหลังๆ เธอจะดีขึ้นก็ตาม)

แต่จำความรู้สึกตอนไปดูภาคแรกได้ค่ะ ว่าไปดูกับเพื่อนกะเทย นั่งกรี๊ดกันแบบไม่เกรงใจคนข้างๆ (คนข้างๆ ก็กรี๊ดเหมือนกันนี่นา 55) แค่ฉากที่เอ็ดเวิร์ดปรากฏตัวก็... กรี๊ด

ฉากหมอคัลเลน ปรากฏตัวก็กรี๊ด....

หลังจากนั้นก็กรี๊ดทุกฉาก ทุกลมหายใจของครอบครัวคัลเลน (ฮา)

สำหรับคนชอบอ่านหนังสือแล้ว เราว่า เราไม่หวังอะไรจากหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือไปมากกว่า การที่เห็นตัวละครที่เราชอบออกมามีชีวิต ได้เห็นฉากที่เราเฝ้าฝันถึงมีสีสัน และออกมาได้ไม่น่าเกลียดก็พอค่ะ


โดย: lala IP: 118.172.151.174 วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:23:31:47 น.  

 
ก๊ากก
พูดได้โดนน
ตอนแรกเราก็ถูกหลอกซื้อหนังสือมายกชุด เพราะคนรีวิวที่ปกติเชื่อถือได้บอกว่า "สนุก"
แต่อันนี้รสนิยมเราคงไม่ตรงกันจริงๆ
พอดูหนังแล้ว
โอ้โห
ทำไมเค้าคลั่งกันอ่ะ

ป.ล.เราก็ผู้หญิงนะ
แต่อย่างนี้มันก็เน่าป๊าย
อ่านนวนิยายของคุณนักเขียนป้าๆมือขมังหลายคนยังสมเหตุสมผลกว่านี้เลย


โดย: omelet IP: 58.64.72.221 วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:20:35:56 น.  

 
วิจารณ์หนังเค้าเสียๆหายๆ
แย่ๆ เก่งนักก็ไปเขียนบทเองสิ
แน่ใจหรอว่าอ่านหนังสือแล้ว?


โดย: ดดดด IP: 58.8.44.129 วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:53:10 น.  

 
เป็นแฟนของหนังสือเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ วิจารณ์ได้ถูกใจจริงๆ เหมือนที่คุณได้พูดเอาไว้เลยค่ะ อลิซช่วยให้หนังเรื่องนี้มีชีวิตชีวาขึ้นมา แน่นอนว่าเบลล่างี่เง่าสุดๆ แบบว่าอยากจะอวกออกมาเฉยๆซะงั้น การดำเนินของเรื่องเนือยมากเลย ถ้าเป็นหนังผีก็คงต้องบอกว่าหลอนตืดๆอ่ะ นิวมูน ยังถือว่ามีรสชาติหน่อยก็ตรงที่มีโวตูรี่เข้ามาช่วยชีวิตในตอนท้าย ดิฉันไม่ได้ดูหนังในโรงแต่บังเอิญได้ดูทางเคเบิล ขอยอมรับ(เป็นการส่วนตัว)ว่าน่าเบื่อดีแท้ แต่ชอบ ดาโกต้า แฟนนิ่ง ค่ะ ขนาดว่าบทบาทในภาคนี้มีน้อยนิดเธอยังขโมยซีนจากนางเอกหรืออาจจะรวมถึงพระเอกไปโขอยู่


โดย: อีไล IP: 119.42.103.182 วันที่: 2 มิถุนายน 2553 เวลา:2:11:56 น.  

 
วิจารณ์ได้จับใจมากเลยค่ะ
ชอบนะ หนังเรื่องนี้ เหนือจินตนาการดีค่ะ


โดย: Bella IP: 125.26.145.108 วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:21:46:42 น.  

 
เป็นผู้หญิง แต่ไม่ชอบภาคแรกเอามากๆ น่ารำคาญนางเอก ส่วนพระเอกแต่งซะซีดไม่เห็นหล่อเลย เนื้อหาก็ง่วงสุดๆ คิดแต่ว่าเมื่อไรหนังจะจบ

สงสัยจะไม่วัยรุ่นซะละมั้ง เลยไม่ชอบ


โดย: นั่งมอร์มาต่อเมล์ วันที่: 1 กรกฎาคม 2553 เวลา:9:10:54 น.  

 
เรื่องนี้โอเคเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้น น้องพรหล้า ดูแล้วรำคาญ หดหู่ใจ อะไรจะบร้าขนาดนั้นครับ

ขำกับมุข Twitlight Mountain คิดได้ไงครับ 555


โดย: buddhi IP: 124.157.186.253 วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:33:06 น.  

 
เราชอบ new moon มากกว่านิดนึงอ่ะ คงเพราะชอบซิกแพคเจคอบมากมาย เอ็ดเวิร์ดในสายตาเราไม่หล่อเลยจืดๆ แต่ยอมรับว่านิสัยดีจัง เขียนให้เป็นหนุ่มในฝัน เสียดายตัวเย็น ฮาๆ

ดูแล้วก็เพลินๆนะคะ แต่ไม่กรี๊ดๆๆ สงสัยจะแก่เกินไปมั๊งเรา เคยอ่านนิยายภาคแรกแล้ว รู้สึกว่างั้นๆค่ะ


โดย: หุหุ IP: 115.67.133.27 วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:18:55 น.  

 
เป็นแฟนหนังสือค่ะ แต่ไม่ชอบหนังเลย ภาคแรกน่ะ OK อยู่ หนังทำออกมาโทนใช้ได้ ค่อนข้างออกมาเหมือนหนังสือ แต่พอมา New moon นี่ หนังทำมาได้ห่วยสุดฤทธิ์ อิฉันนี่นับตัวเองเป็นทีม Edward ตัวจริงเสียงจริง บ้าแบบหมดค่า Merchandise จากต่างประเทศไปหลายหมื่นบาท
แต่เรื่องหนังนี่อิฉันก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้
ว่ามันดีล่ะค่ะ

เห็นด้วยกะความเห็น จขบ สุด ๆ


โดย: คนดีผีคุ้ม วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:20:01 น.  

 
ขอแก้ฮับน้องแคเมรอน ไบร์ท(อเล็ก)พูดประโยคนึง! "they sent u to get one but u bring back two and a half, such a clever girl" พูดประมาณเนี้ย และได้เห็นหน้าอยู่หน่อย ฮา


โดย: TeamAlec IP: 202.176.185.150 วันที่: 22 ตุลาคม 2553 เวลา:18:18:10 น.  

 
แต่ยังไง เจคอบ หล่อก้ดูละ
ทีมเจคอบค่ะ เจค แซม พอล ควิล เอ็มบรี้ น่ารักก้พอ
แต่ไม่ชอบนิสัยเบลล่าจิง


โดย: teamjake IP: 58.9.39.80 วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:11:59:08 น.  

 
555ดูแล้วอยากเป็นแวมไพร์เลย


โดย: นุช IP: 58.9.153.59 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:46:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
23 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.