ขอบอกว่าในบรรดา ตัวสยองจากต่างดาว 'ไอ้หนุ่มผมยาว - Predator' คือ ขวัญใจอันดับต้นๆของข้าพเจ้า สูสี Alien และ The Things

นึกย้อนไปสมัย ‘ คนไม่ใช่คน’ สองภาคแรกที่ท่านผู้ว่าอาร์โนลด์สมัยกล้ามเต่ง บุกตะลุยปราบเหล่า ไอ้หนุ่มผมยาว ในป่าภาคแรก ส่วนภาคสองก็ลุงแดนนี่ โกลเวอร์ คอยรับมือในเมือง ล้วนแล้วแต่เป็น ความสนุกฝังใจที่ยังจำความรู้สึกดูไป ตื่นเต้นไป และ มีอารมณ์น่ากลัวผสมอยู่ด้วย (คือไม่รู้ว่าจะล่องหนมากระซวกกันตอนไหน)

แต่หลังจาก ไอ้หนุ่มผมยาว ถูกผู้กำกับภาคสามสี่มาปู้ยี้ปู้ยำจนหมดสิ้นความขลังใน AVP: Alien vs. Predator กับ Aliens vs Predator – Requiem ก็ทำให้ข้าพเจ้าเริ่มสิ้นศรัทธาในตัวเขา เอาแค่เช่าแผ่นมานั่งดูเล่นๆฆ่าเวลา บางทียังรู้สึกว่าเสียดายตังค์ เพราะ หนังแบบนี้ก็มีเฝือแล้ว เสน่ห์ของไอ้หนุ่มผมยาวจึงไม่เหลืออีกต่อไป

ครั้นได้ยินว่าจะมีการเปิดตัวใหม่ พอได้ข้อมูลก็คิดว่าครั้งนี้น่าสน เหตุที่น่าสนเพราะ

1.ผู้กำกับ Nimród Antal พิสูจน์ตัวเองในหนังเขย่าขวัญในเนื้อที่จำกัดได้ดีจาก Vacancy จึงมีแววน่าจะทำหนังไล่ล่าเขย่าขวัญในที่จำกัดได้ดีเช่นกันกับ Predators (แต่เรื่องก่อนที่เป็นหนังแอคชั่นหักเหลี่ยมโหดเรื่อง Armored ที่ออกแผ่นแล้วในบ้านเราออกจะน่าผิดหวังซักเล็กน้อย เพราะมันออกมาธรรมดาไปหน่อย)

2. โปรดิวเซอร์ ที่คอยช่วยคุมบังเหียนดูงานโดยรวมอีกขั้น คือ ผู้กำกับมือฉมังในแนวสยองเขย่าขวัญ รีด อดรีนาลีน ได้ดีอย่าง Robert Rodriguez ที่ยิ่งน่าจะไว้ใจได้เข้าไปใหญ่

3.ได้นักแสดงในทางดราม่าฝีมือดีอย่าง เอเดรียน โบรดี้ กับ โทเฟอร์ เกรซ มา ก็น่าจะยิ่งช่วยยกระดับขั้นของหนังให้มีความลึกน่าสนใจขึ้นไปอีก

4.คะแนนเปิดตัวในเว็บมะเขือเน่า ตอนแรก 100% ถึงแม้จะยังมีไม่ถึง 10 คน แต่ก็ส่อเค้าว่า อย่างน้อยน่าจะออกมาไม่น่าผิดหวัง

ความหวาดหวั่นประการเดียวที่มีคือ ไอ้พล็อตประเภท ‘เกมส์ survivor ในดาวเคราะห์อันไกลโพ้น’แบบนี้ ส่วนใหญ่ทำออกมาเละตุ้มเปะแทบทุกครั้ง



หลังดูหนัง



1.ถามว่าสนุกมั้ย ตอบว่า สนุก ถามว่าดีมั้ย ตอบว่า ก็ดี ถามว่าสู้ของเก่าได้มั้ย ตอบได้ว่า ดีกว่า AVP: Alien vs. Predator กับ Aliens vs Predator – Requiem

แต่ถ้าเทียบกับสองภาคแรก อารมณ์ตอนนี้ กับ ตอนโน้นที่ดู สองภาคแรก ความสนุกลุ้นขณะดู ยังเทียบกันไม่ได้ ตอนนั้นยังได้ลุ้นได้สนุก และ ประทับใจแบบฝังใจมากกว่า


2.ซึ่งถ้าเอาสองภาคแรกมาดูตอนนี้ คงไม่ตื่นเต้นมากนัก เพราะ เราก็ผ่านๆหนังแบบนี้กันมาเยอะแล้ว แต่ ความประทับใจตอนนั้น นอกจาก ไอ้หนุ่มผมยาว จะแปลกใหม่ เทคนิกที่มันใช้สังหารมนุษย์โลก ก็มีลูกเล่นที่ต้องลุ้น เช่น ล่องหน และ มีสัญชาติญาณการฆ่าที่เราดูแล้วรู้สึกว่า น่ากลัว

(ซึ่งปัจจุบัน คอหนัง เสพความโหดจนเคยชินชนิดที่เรียกว่า เราอาจจะกลัว จิ๊กซอว์ พอๆกับ Predators)

จุดเด่นของ สองภาคแรก คือ ความเหนือชั้นทางเทคโนโลยีของไอ้หนุ่มผมยาว ที่ไล่ต้อนตัวเอกที่เป็นคนธรรมดา ซึ่งต้องใช้กึ๋นหรือวิธีบ้านๆ มาเอาชนะ ความไฮเทคของพวกมัน นี่เอง เป็น ความสนุกที่ได้ดูควบคู่กับการไล่ล่า

ซึ่ง สิ่งนี้เองคือ สิ่งที่สองภาคหลังขาดหายไป และ ภาคล่าสุดนี้ก็เช่นกัน




3.ความเบสิคของสองภาคแรก ที่มีแค่ มนุษย์ไปเจอตัวประหลาดแล้วถูกตามฆ่าในป่าดงดิบ กับ การทางคืนในป่าคอนกรีต ทำให้ตัวหนังมีความ ดิบสมจริง

แต่ ความไฮเทคและความ’มาก’ ของสองภาคหลัง เช่น มีเอเลี่ยน ฯลฯ ทำให้หนังกึ่งๆจะไปทางแฟนตาซีหรือการ์ตูนที่เรารู้สึกว่ามันไม่จริง และภาคนี้ก็ดำเนินรอยคล้ายสองภาคหลังเสียมากกว่า คือ เน้นความมาก เช่น สถานที่ต่างดาว , สัตว์แปลกๆ , เงื่อนไขแบบเกมส์ survivor ฯลฯ

เพียงแต่ว่า ความมากของภาคนี้ ก็ยังทำออกมาได้ดีกว่าสองภาคหลัง


4.ผมชอบ ช่วงแรกของหนัง กับ ช่วงหลังดวลเดี่ยวซามูไร

ช่วงแรก – ชอบตรงที่เดาไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น หนังเล่าเรื่องได้น่าสนใจในการค่อยๆหาคำตอบว่า เพราะอะไรพวกเขาถึงมาอยู่ที่นี่ แถม ตัวละครแต่ละตัวก็ไม่มีใครที่ดูจะไว้ใจได้ การซ่อนตัวไอ้หนุ่มผมยาวไว้ก็ยิ่งทำให้ บรรยากาศรอบตัว ดูลึกลับชวนสยอง การวางกับดักที่พวกมันทำไว้ ก็ทำให้นึกสนุกอยากรู้ว่า กลุ่มมนุษย์จะวางแผนโต้ตอบหรือรับมือยังไง

ช่วงหลังดวลเดี่ยวซามูไร – ชอบตรงที่หนังแอบเก๋ มีอะไร มากไปกว่าการไล่ล่าเอาตัวรอดระหว่าง คน กับ Predators





แต่ ผม เฉยๆกับช่วงกลาง ตั้งแต่เปิดตัวที่ลานรับน้อง ซึ่งจัดได้ว่าน่าผิดหวังกับการเปิดตัว เพราะในภาคนี้ ทุกฉากที่ Predator ปรากฏตัวกลับออกแนวเฉยๆ ไม่ได้สร้างบารมีความน่ากลัว หรือ ให้ความรู้สึกลุ้น สยองว่า มันจะมาฆ่าตอนไหน ไม่เหมือนตอนดูหนังสองภาคแรกเลย

ภาคนี้ได้แต่ ความมันส์ แต่เป็น ความมันส์แบบไม่ได้มีอารมณ์ลุ้นหรือเอาใจช่วย การตายหลังจากตัวละครตัวแรกที่เหลือก็ตายไปแบบ ง่ายๆหายไปทีละคนสองคน ไม่ได้ทั้งรู้สึกสยอง ไม่รู้สึกเศร้า อะไร

และ กลายเป็นว่าฉากที่ตื่นเต้นที่สุดคือ ฉากหมาล่อเนื้อ แทน



5.หลายจุดของหนังที่ทำให้รู้สึกว่า คนเขียนบท ไม่ละเอียดที่จะใส่ที่มาที่ไปให้น่าเชื่อถือ หรือ ขี้เกียจพัฒนาบทต่อ เช่น ตัวละครที่เอาตัวรอดผ่านมาสิบชั่วรุ่น กลับทำได้แค่นี้นะหรือ ?

, เพราะอะไร เฮียยากูซ่า จู่ๆไปดวลเดี่ยว เราไม่ได้รู้ความรู้สึกนึกคิดเขามากพอที่จะเข้าใจ ว่าทำไปเพราะศักดิ์ศรี ? หรือ ความสนิทชิดเชื้อกับเพื่อนฝูงที่จะให้คิดว่าเสียสละ ?

, ตัวละครแทบทุกตัว มีที่มา มีคาแรคเตอร์น่าสนใจ แต่หนังก็ฆ่าพวกเขาทีละรายง่ายๆแบบไม่น่าจดจำ

, อุตส่าห์ใช้โลเคชั่นต่างดาว ใช้เงื่อนไขชวนให้นึกถึงเกมส์เซอไวเวอร์ แต่ก็เท่านั้น ไม่ถือโอกาสขยายความให้หนังดูแบบมีทีเด็ดอะไรบ้าง

หน้ากากที่ครอบครองมาจากพวกพรีเดเตอร์นึกว่าจะได้ใช้ หรือ จะมีแผนการรับมือ , แผนการเอาคืน ของมนุษย์ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มี ยุทธศาสตร์หรือยุทธการอะไร ที่แสดง มันสมองของคน เหมือน สองภาคแรก ที่พยายามคิดวิธีเอาชนะเหล่าหนุ่มผมยาวจากต่างดาวพวกนั้น


6.ข้อดีอีกข้อที่ชอบของหนังคือ การได้ นักแสดงฝีมือดีในทางดราม่า ช่วยให้หนังดูมีความลึกมากขึ้นจากการแสดงของ เอเดรียน โบรดี้ , อลิซ บราก้า ได้ความบ้าๆบอๆแบบน่าสนใจของ ลอเรนซ์ ฟิชเบิร์น ส่วน โทเฟอร์ เกรซ เล่นดี เพียงแต่ว่า บทนี้ไม่น่าเลือกเขามาแสดง น่าจะเลือกนักแสดงที่ดังน้อยกว่า

ส่วน ลุง Danny Trejo มาเล่นเรื่องนี้เหมือนอุ่นเครื่องก่อนจะระห่ำเต็มที่ใน Machete หนังที่เคยเป็นตัวอย่างหลอกๆตอนฉาย Grindhouse : Planet terror / death proof โดย Robert Rodriguezจะมาทำหน้าที่ กำกับเองอีกครั้ง




7. ที่อยากจะให้คะแนนน้อยที่สุดของหนังภาคนี้คือ พวกฉากเอฟเฟคต์ทั้งหลาย ในบางฉาก เช่น ไฟ , ระเบิด , โดดร่มลงมา ฯลฯ มันดูไม่สมราคา เอฟเฟคต์หรือ CG หนังฟอร์มใหญ่ยุคปัจจุบันเลย


สรุป ... ไม่เสียดายตังค์ ก็ถือว่าเป็น Predators generation ใหม่ ที่คนดูคงต้องทำใจลืมๆธีมดิบเถื่อนแบบสองภาคแรก ดูเอาเพลินพอได้ เพียงแค่ว่า ไม่ได้รู้สึกว่า มันดีมาก เหมือนคะแนนที่ออกมา ไม่ได้รู้สึกว่า ได้กลับไปสนุกเหมือนตอนเด็กๆที่ดูสองภาคแรก

และ ถ้าเทียบกับผลงานเก่าของผู้กำกับ Nimród Antal ผมคิดว่า เขายังทำได้ไม่ดีเหมือนกับตอน Vacancy ที่ได้อารมณ์ลุ้นกว่ามาก



ขอฝาก หนังสือเล่ม 5 ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" จ้า
(วางอยู่ตามร้านหนังสือทั่วไทยแล้ว)









อ่านจบแล้ว ชวนมาคุยกันที่นี่ครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=18

และ

ความเห็นของ เพื่อนผู้อ่านที่อ่านจบแล้ว และสละเวลาเขียนถึง

//blogs.lumamagic.com/?p=1957



หนังสือ 4 เล่มก่อนหน้าที่ว่าด้วย 'ภาพยนตร์ - จิตวิทยา - พัฒนาตัวเอง(self - development)' ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"








สำหรับเพื่อนๆที่เล่น FaceBook หรือ Twitter ณ.บัดนาว "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขยายสาขาเรียบร้อยแล้วจ้า

Create Date : 13 กรกฎาคม 2553
Last Update : 13 กรกฎาคม 2553 1:49:23 น.		5 comments
Counter : 7259 Pageviews.
Share Tweet