ตำนานการควบรวมดินแดนและสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับชนชาติต่างๆ ของผู้นำชาวไท-ลาว ที่เป็นกษัตริย์นักรบ นักรัก แห่งลุ่มแม่น้ำกกและแม่น้ำโขง-ชี-มูล...การศึกในแต่ละครั้งขุนเจืองได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่อง การประสบความสำเร็จนั้นมิใช่จะเกิดจากอภินิหาริย์ แต่เป็นเหตุปัจจัยดังที่กล่าวมาแล้ว นอกจากนั้นแล้วพระองค์ยังมีเหตุปัจจัยอีก ๓ ประการ กล่าวคือ
๑) ทรงผูกใจคนท้องถิ่น หรือประเทศนั้น ๆ เช่นมีการผูกพันเป็นพี่เป็นน้อง ขุนเจืองทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีวิสัยทัศน์ดี พระองค์ทรงมีสัจจะสามารถผูกใจคนท้องถิ่นให้มาเป็นสมัครพรรคพวกได้โดยการอาศัยเชื้อชาติเผ่าพันธุ์เป็นตัวกำหนด นอกจากนั้นแล้วพระองค์ยังทรงเป็ฯนักการทูตที่ดีเยี่ยมสามารถนำทัพออกไปตีเมืองต่าง ๆ โดยมีกองกำลังหนุนช่วยตลอดทางอันได้แก่เผ่าพันธุ์ในรัฐนั้น ๆ ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบได้พร้อมใจกันสนับสนุนพระองค์ในการทำศึกสงคราม
๒) ทรงปลดปล่อยและทรงต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบ คือการปลดปล่อยทาส แม้ในยุคพะเยาโบราณจะเป็นสังคมที่มีศึกสงครามแต่พระองค์ก็ทรงใฝ่สันติภาพ โดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของกลุ่มชนด้วย เช่นมีการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยทาสในล้านช้าง และเมื่อชนะแกว หรือเวียดนามตอนเหนือแล้วยังได้ส่งคนพะเยาให้กลับถิ่นเดิมอีกด้วย ซึ่งข้อนี้ทำให้ชนเผ่าต่าง ๆ นับถือพระองค์ว่าเป็นผู้ปลดปล่อยและกอบกู้เอกราชของชนเผ่าต่าง ๆ
๓) ทรงมีบุคลิกเป็นแบบผู้นำที่ชอบใจของผู้คน หรือการเป็น Hero นับได้ว่าพระองค์ทรงเป็นที่ประทับใจและภาคภูมิใจของชนเผ่าต่าง ๆ จนเป็นเหตุให้พระองค์มีชื่อเสียงเกียรติยศมากมายถึง ๓๓ พระนามและมักอ้างพระนามของพระองค์เพื่อปลุกจิตสำนึกให้ชนในเผ่า หรือรัฐต่าง ๆ หึกเหิม
เอาอย่างพระองค์
ไหเหล้าเจืองที่ทุ่งไหหิน...ในบันทึกของพระวิภาคภูวดลเขียนไว้ด้วยว่าเมืองพวนเคยมีชื่อว่าเมืองข่าปทุม นักประวัติศาสตร์โบราณคดีเลยสันนิษฐานว่าก่อนชาวพวนจะมาตั้งรกราก ชนพื้นเมืองของเชียงขวางอาจเป็นข่าปทุมหรือขมุ ซึ่งเป็นพวกลาวเทิงที่พูดภาษาตระกูลมอญ-เขมร และยกย่องท้าวฮุ่งหรือขุนเจือง เป็นวีรบุรุษ ท้าวฮุ่งหรือขุนเจืองเป็นชื่อของวีรบุรุษที่ได้รับการยกย่องโดยเผ่าพันธ์ต่างๆ ของสองฝั่งโขงว่าเป็นผู้นำในการรวบรวมบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่น สามารถสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางการเมือง สังคม และวัฒนธรรมให้แก่กลุ่มชนเชื้อสายต่างกันในบริเวณลุ่มแม่น้ำโขงตั้งแต่สิบสองพันนา สิบสองเจ้าไทย ล้านนา ล้านช้าง จนถึงลุ่มแม่น้ำดำ-แดงในภาคเหนือของเวียดนามตำนานเมืองลาวบอกว่า ไหหินเหล่านี้เป็นไหเหล้าเจืองหรือไหขุนเจือง เกิดขึ้นเมื่อขุนเจืองทำสงครามกับพวกแกว แล้วตีเอาเมืองปะกัน (Pagan) คือเมืองเชียงขวางของแกวได้ ก็สั่งทำเหล้าไหเลี้ยงไพร่พลฉลองชัยชนะอยู่ที่เชียงขวางถึง 7 เดือน ไหหินในเชียงขวางจึงถือเป็นไหเหล้าเจือง ร่วมสมัยท้าวเจือง รัฐพุกามเรืองอำนาจในพม่า, รัฐโคตรบูรเรืองอำนาจอยู่ในลาวและอีสาน มีศูนย์กลางอยู่เวียงจัน, รัฐหริภุญไชยควบคุมบ้านเมืองทางลุ่มน้ำปิง-วัง ตั้งแต่เชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง, ทางใต้ลงไปมีรัฐเชลียง อยู่บริเวณลุ่มน้ำยม-น่าน ทางสุโขทัย-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก, ลุ่มน้ำเจ้าพระยามีรัฐละโว้ อยู่ลพบุรี กับรัฐสุพรรณภูมิ อยู่สุพรรณบุรี, ทางคาบสมุทรมีรัฐนครศรีธรรมราชกับรัฐปัตตานี ร่วมสมัยท้าวฮุ่ง ท้าวเจือง บริเวณลุ่มน้ำมูลตอนบนเป็นดินแดนในอำนาจของราชวงศ์มหิธร บรรพชนของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 (สร้างนครวัด) มีศูนย์กลางอยู่เมืองพิมาย ที่มีปราสาทหินพิมายในพุทธศาสนามหายานสร้างอยู่แล้ว ท้าวฮุ่ง ท้าวเจือง เป็นเรื่องราวตามคำบอกเล่าอยู่ร่วมสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ขณะนั้นยังไม่ได้เป็นใหญ่อยู่ทะเลสาบ แต่หลังจากนั้นจะสถาปนาปราสาทนครวัดเมื่อราว พ.ศ. 1650
สาเหตุใหญ่ที่ทำให้ขุนเจืองมีชัยชนะเหนือล้านช้างตลอดไปจนถึงแกวประกันก็เพราะขุนเจืองดำเนินนโยบายผูกมิตรกับชนชาติข่า ในอาณาจักรล้านช้างนั้น ชนชาติข่าคือชนพื้นเมืองที่มีอยู่มากกว่าลาว,....ในยุคนั้นข่าถูกลาวเหยียดลงเป็นข้าทาส (ข่า ภาษาลาวแปลว่า ทาส) ต้องถูกเกณฑ์แรง
งานมารับใช้ชนชั้นปกครองลาว, พวกข่าย่อมไม่พอใจ (ในการนี้) ขุนเจืองใช้นโยบายเข้าผูกมิตรกับข่า สาบานเป็นญาติพี่น้องกันโดยเฉพาะกับพวกข่าภูสูง(เหนือทุ่งไหหิน)จึงมีกำลังเพียงพอที่จะปราบล้านช้างและแกวประกัน(เวียตนามเหนือ)และการได้รับเกียรติเป็นคนเท่าเทียมกันนี่เองพวกข่าจึงนับถือขุนเจืองมาก และยังมีข่าที่นับถือผีเจืองอยู่จนบัดนี้และยังเชื่อว่าขุนเจืองจะมากอบกู้ชนชาติข่าอีกในอนาคต เพราะเหตุนี้เอง เลยทำให้นักพงศาวดารบางคนคิดเลยเถิดไปว่าขุนเจืองเป็นกษัตริย์ของชนชาติข่า....
อ่านเพิ่มเติม //www.gotoknow.org/posts/443683