ตถตา – ความเป็นอย่างนั้น,ความเป็นเช่นนั้น, ภาวะที่สิ่งทั้งหลายทั้งปวง เป็นของมันอย่างนั้นเอง คือเป็นไปตามเหตุ ปัจจัย (มิใช่เป็นไปตามความอ้อนวอนปรารถนา หรือ การดลบันดาลของใครๆ)เป็นชื่อหนึ่งที่ใช้เรียกกฎ ปฏิจจสมุปบาท หรือ อิทัปปัจจยตา
ภพ –โลภเป็นที่อยู่ของสัตว์, ภาวะชีวิตของสัตว์ มี 3 อย่าง คือ 1. กามภพภพของผู้ยังเสวยกามคุณ 2. รูปภพ ภพของผู้เข้าถึงรูปฌาณ 3. อรูปภพภพของผู้เข้าถึงอรูปฌาณ
ภูมิ- ชั้นแห่งจิต,ระดับจิตใจ, ระดับชีวิต มี 4 อย่าง คือ 1.กามาวจรภูมิ ชั้นที่ยังท่องเที่ยวอยู่ในกาม 2. รูปาวจรภูมิชั้นที่ท่องเที่ยวอยู่ในรูป หรือชั้นของพวกที่ได้รูปฌาณ 3. อรูปวจรภูมิชั้นที่ท่องเที่ยวอยู่ในอรูป หรือชั้นของพวกที่ได้อรูปฌาณ 4. โลกุตตรภูมิชั้นที่พ้นโลก หรือระดับพระอริยบุคคล
วิมุตติ – ความหลุดพ้น,ความพ้นจากกิเลส มี 5 อย่าง คือ
1. หลุดพ้นด้วยธรรมคู่ปรับ หรือพ้นชั่วคราว เช่น โทสะพ้นได้ด้วยการเจริญเมตตา อันเป็นธรรมคู่ปรับ, เกิดความสังเวชจึงพ้นจากกำหนัดเป็นต้น
2. หลุดพ้นด้วยการข่มหรือสะกดได้ เช่นการพ้นหรือสะกดได้ด้วยอำนาจของฌาณ อรูปฌาณ ยังเป็นโลกิยวิมุตติ กลับกล
3. หลุดพ้นด้วยการตัดขาดได้แก่ พ้นจากกิเลสด้วยอริยมรรค กิเลสเหล่านั้นขาดเด็ดไป ไม่กลับเกิดขึ้นอีกเป็นโลกุตตรวิมุติ
4. หลุดพ้นด้วยความสงบระงับ ได้แก่ การหลุดพ้นจากกิเลสด้วย อริยผลเป็นการหลุดพ้นที่ยั่งยืน ไม่ต้องขวนขวายเพื่อละอีก เพราะกิเลสนั้นสงบไปแล้วเป็นโลกุตตรวิมุตติ
5.หลุดพ้นด้วยการออกไปเสีย หรือสลัดออกไปได้ เป็นการพ้นที่ยั่งยืนตลอดไป เป็นโลกุตตรวิมุตติ