หลักฐานสำคัญทีพระเจ้าชัยวรมันที่2ยกดินแดนปราสาทเขาพระวิหารให้ปราณ-ภรรยาที่เป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ

พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 เสด็จขึ้นครองราชบัลลังก์อาณาจักรเจนละน้ำ เมื่อประมาณ พ.ศ. 1245 ต่อจากนั้นพระองค์พยายามเสริมสร้างพระราชอำนาจและสถานภาพของกษัตริย์ให้กลุ่มชนหลายเชื้อชาติหลายเผ่าพันธุ์มีความเชื่อและยอมรับร่วมกันในเรื่องเทพกษัตริย์บรรบุรุษ เป็นศูนย์รวมอันศักดิ์สิทธิ์แห่งจักรวาล พระองค์ทรงสืบเชื้อสายมาจากเทวราชเหล่านั้น การเคลื่อนย้ายเมืองหลวงห่างจากชายฝั่งทะเลและขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไกลจากทะเลสาบใหญ่อันเป็นสถานที่แห้งแล้งอย่างน่าสงสัย ซึ่งนักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่า อาจเป็นการแสวงหาชัยภูมิอันเหมาะสมปลอดภัยจากการบุกโจมตีของกองทัพเรือศรีวิชัย แล้วพระองค์อาจตระหนักถึงความจำเป็นในการรวมอาณาจักรเจนละบก เพื่อให้ประเทศของพระองค์มีความเข้มแข็งมั่นคงเหมือนดังในสมัยอาณาจักรฟูนันและอาณาจักรอีสานปุระ

…… ศิลาจารึกศิวศักดิที่เขาพระวิหาร บอกให้ทราบว่า ตระกูลของพวกพราหมณ์ปุโรหิตซึ่งมีอำนาจและมีอิทธิพลอยู่ในแถบเขาพระวิหาร เช่น ตระกูลชราเชนทรบัณฑิต ตระกูลศรีนฤเปนทราปฤธินาเรนตรา เป็นต้น พระเจ้าชัยวรมัน 2 ทรงสร้างสัมพันธภาพกับตระกูลเหล่านี้โดยอภิเษกกับนางฮยาง ปาวิตรา หรือ ปราณ แล้วโปรดให้ดำรงตำแหน่งเป็น“พระนางกัมพูชาลักษณมี” ศิลาจารึกดังกล่าวยอพระเกียรติของพระนางว่า
…… “เธอเปรียบเทียบเสมือนธรณี และศรี ผู้เป็นราชินีแห่งสวามี สตรีแห่งคุณความดี ซื่อสัตว์ต่อหน้าที่ของเพศหญิง เธอให้กำเนิดโอรสทรงพระนามว่า ศรีธรรมวัฒนะ..”


…… พระนางกัมพูชาลักษมี ในศิลาจารึกศิวศักดิ นอกจากหมายถึงพระราชมารดาของ “พระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 ” แล้ว พระนางอาจหมายถึง“นางนาค” ธิดาของชาวเขมรพื้นเมืองที่ทำให้ “พระเกตุมาลา” หลงเสน่ห์จนฟั่นเฟือน ดังปรากฏเรื่องราวอยู่ในตำนาน เพราะหลังจากพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 เริ่มต้นผูกสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับผู้นำของอาณาจักรเจนละบกในแถบเขาพระวิหารและแคว้นจัมปาศักดิ์แล้ว พระองค์ทรงนำลัทธิแบบใหม่คือ “ลัทธิเทวราช” ด้วยการยกย่องกษัตริย์ขึ้นเป็นเทพเจ้าโดยถือเสมือนว่า องค์สมมุติเทพ คล้ายกับพระศิวะ ประทับอยู่บนผืนแผ่นดิน ย่อมได้รับการสักการบูชาในรูปศิวลึงค์ ประดิษฐานบนภูเขากลางพระนคร ถือว่าเป็นศูนย์กลางของราชอาณาจักร ในฐานะ“กมรเตง ชคตะราชา” ต่อมานั้นพระองค์ทรงเริ่มต้นบูรณาการฟื้นฟูปราสาทเขาพระวิหารให้เป็นแหล่งสถิตของเทพกษัตริย์บรรพบุรุษ คือ ศรีลิขเรศวร สถานศักดิ์สิทธิ์สูงสุด จนเป็นที่ยอมรับของชาวพื้นเมือง ต่อจากนั้นพระองค์เสด็จไปประทับอยู่ที่มเหนทรบรรพต อันมีภูเขาพนมกุเลนตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางที่ราบเมืองพระนคร ศิลาจารึกสะด๊อกก๊กธมกล่าวต่อไปว่า
…… “ณ มเหนทรบรรพต พราหมณ์ราชปุโรหิต ก็ตามเสด็จไปกับพระองค์ ตั้งหลักแหล่งขึ้นที่นั่นเพื่อรับใช้พระองค์ จากนั้นมีพราหมณ์ผู้เชี่ยวชาญทางเวทมนต์ได้มาจากชนบทตามคำเชื้อเชิญของพระราชา เพื่อมาประกอบพิธีให้กัมพูชาไม่ต้องเป็นเมืองขึ้นของชวาอีกต่อไป และเพื่อจะได้มีกษัตริย์แต่เพียงพระองค์เดียวเป็นผู้ปกครองประเทศ พราหมณ์ผู้นี้จึงอ่านโองการวัธยายคัมภีร์ตั้งแต่ต้นจนจบ สอนพราหมณ์ราชปุโรหิตให้รู้จักการประกอบพิธีของเทวราชาอีกด้วย”

…… พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ทรงครองราชย์อย่างยาวนานถึง 48 ปี เสด็จสวรรคตที่เมืองหริราลัยเมื่อ พ.ศ. 1393 ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าหลังจากพระองค์ทรงประกอบพิธีประกาศอิสรภาพไม่ยอมเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิศรีวิชัยนั้น มหาราชแห่งซาบากทรงจัดการอย่างไรกับอาณาจักรกัมพูชา นอกจากปรากฏเรื่องราวอยู่ในโศลกสันสกฤต ซึ่งกวีประจำราชสำนักแต่งขึ้นยอพระเกียรติสรรเสริญไว้ ภายหลังพระองค์สิ้นพระชนม์ไปราว 50 ปี ความว่า
……
“พระองค์ประทับอยู่เหนือศีรษะของสิงห์ที่ประดับบัลลังก์ของพระองค์ ทรงสถาปนาพระราชประสงค์ไว้เหนือเศียรของกษัตริย์ทั้งหลาย พระองค์ประทับอยู่เหนือยอดเขาเหนทร์ แม้กระนั้นก็มิได้มีความหยิ่งยโสในพระองค์เลย”


ขอขอบคุณ //www.dhammachak.net/board/viewtopic.php?f=14&t=71&start=10





Create Date : 16 เมษายน 2556
Last Update : 16 เมษายน 2556 20:55:06 น.
Counter : 6472 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

surya21
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 50 คน [?]



New Comments
เมษายน 2556

 
1
2
3
5
6
7
8
10
12
13
14
15
19
20
21
22
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog