1.Ancient Rinnoji temple and 500-year old cedars, Nikko, Japan
2.ภูเขาหัวโล้นทังหลายในประเทศไทยควรแก้กฏหมายให้วัดครอบครองได้เหมือนประเทศญี่ปุ่น มรดกทีดีทีสุดคือการปลูกต้นไม้ไว้ให้ลูกหลานและโลกใบนี้ ราวปี1987 ผู้เขียนไปเยือนวัดนิกโก้แห่งนี้ คุณ sato เพื่อนป่าไม้ชาวญี่ปุ่นจากjica เล่าว่านานมาแล้วพระเจ้าแผ่นดินจัดงานวันเกิดและทำบุญทอดกฐินทีวัดนี้ ขุนนางทั่วประเทศต่างนำแก้ว แหวน เงิน ทอง สิ่งมีค่าทั้งหลายนำมาถวาย แต่ขุนนางไดเมียวที่ซื่อสัตย์ท่านหนึ่งไม่มีเงินทองถวายจึงพาลูกน้องร่วมกันปลูกต้นไม้สองข้างทางขึ้นวัด นิกโก้ แห่งนี้ ทรัพย์สมบัติที่ขุนนางร่ำรวยบริจาคให้วัดกันปัจจุบันไม่ทราบว่ากระจัดกระจายสูญหายไปใหน ไม่มีใครจำได้ว่าใครมอบอะไรไว้? คงเหลือแต่ต้นไม้ที่ขุนนางยากจนปลูกเอาไว้และมีคนรู้จักชื่อของเขาและเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนรุ่นต่อมารักต้นไม้และปลูกเพิ่มเติมอีก (มหาเศรษฐีร้อยตระกูลเมื่องไทยน่าจะเอาอย่างบ้างนะครับดีกว่าการกอบโกยสะสมทรัพย์สมบัติมหาศาลให้ลูกหลานทะเลาะกันในที่สุดก็สูญสลายไปตามกาลเวลาและไม่เหลืออะไรแก่โลกและคนรุ่นต่อไปชื่นชมแต่อย่างใด) Almost 400 years ago, Matsudaira Masatsuna, a daimyo serving the Tokugawa Shogun, started a project that took him 20 years: he planted in Nikko over 200000 Sugi - Japanese cedars - trees donated afterwards to the Toshougu Shrine. Only 13000 trees survived until today and, according to Guinness Book, they are forming the longest tree-lined avenue in the world (about 35km).
The trees around the Toshougu Shrine from Nikko are from the same period, and the best place to admire them is probably on this beautiful alley connecting Toshougu to the Futarasan Shrine. The trees are simply overwhelming.