เดือนรอมฏอน ... แต่จะกินข้าวกลางวันใน รพ. นะผิดเหรอ

ไปเยี่ยมพี่ที่รถชนแขนหัก
สุดท้ายหมอก็จับผ่าดามเหล็ก
กรรมการสุเหร่าอย่างแก แม้จะดูนอกรีต
แต่คนก็ไปมาหาสู่เยอะ
พอไปเห็นแกนั่งโซ้ยข้าวมื้อเย็น
ก็มักจะพูดเสียงเดียวกันว่า ไม่ซอร์บัต(อดทนเลย)
เดือนบวช(รอมฏอน)แท้ๆ กินข้าวกินน้ำได้ไง
แล้วก็เดินส่ายหน้าไม่พอใจ จับกลุ่มนินทากันออกไป
...
พอพวกเขาไปก็นั่งคุยกัน
แกบอก ... เรากินเวลาเราก็ได้
แต่ใครจะยกข้าวยกน้ำมาให้
แค่เค้าต้องมาทำอะไรพิเศษเฉพาะเราก็ลำบากเขาหนักหนาแล้ว
ผมไม่อยากรบกวนใครตายไปติดฮักกุลอาดัม(หนี้กรรมต่อคน)เปล่าๆ
ทำไมเราต้องเรียกร้องในสิ่งที่เราทำเองไม่ไ่ด้
ผมเป็นมุสลิมก็คนพุทธเหมือนคุณเหมือนใครๆ ได้มาเท่าๆกันทั้งนั้น
พอดีครูเข้ามาก็เลยคุยกันท่าเลยยกหะดิษที่ว่า
ชายหัวแตกแล้วโดนพรรคพวกบังคับให้ล้างศรีษะก่อนละหมาด
จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิต จนนบีมูอัมหมัดกล่าวว่า
"เขาได้ฆ่า้เสียแล้ว ๆ ๆ พวกเขาต้องได้รับการตอบสนอง"
ในสถานะภาพของความเจ็ปป่วย คำตัดสินต่างๆ อยู่ที่หมอผู้รักษา
การไม่ทำตนให้เป็นภาระและเอาเปรียบสังคมเป็นฟัตดรูของมุสลิม
ไม่เช่นนั้นอิสลามคงมีนักบวชเหมือนศาสนาอื่นๆ ไปแล้ว
ทำไมเขาไม่เข้าใจกันนะ

สังคมไทยปี 2009 รึปีไหนๆ
ก็ไม่ต่างจากที่หลวงวิจิตว่าการเคยเขียนไว้ว่า
เราชินกับการเป็นทาษ เราจึงให้แต่ผู้เรียกร้อง
หากใครก้มหน้าก้มตาทำก็จะได้ัรับการกดขี่
จนหากเป็นพุทธก็ลืมคำว่า กรรม
หากเป็นมุสลิมก็ลืมคำว่า ตราชู
แต่ต่างก็บอกว่ากูมีศาสนา
เหตุนี้มังพระพุทธเจ้าตรัสว่าการล่มสลายของสังคมเมืองมีด้วยสามประการ
- กำหนัดยินดีไม่เป็นธรรม
- โลภเกินควร
- มุ่งแต่ทางมิจฉาชีพ
ส่งผลให้
- คนฆ่าฟันกันเอง
- ธรรมชาติแปรปรวน
- อมสนุสสภัย
เฮ่ออ.. แต่เราอยู่ในสังคมจะหลบไปไหนจริงม๊ะ แง่บๆ

Create Date : 07 กันยายน 2552		2 comments
Last Update : 7 กันยายน 2552 14:19:16 น.
Counter : 680 Pageviews.
Share Tweet