รึผม...กำลังบาปด้วยการนินทา..แฟนเก่าที่เป็นมุสลิม? (ขอระบายส่วนตัว)
ผมเคยมีแฟนเก่าที่เป็นคนมุสลิม ซึ่งตลอดเวลาที่คบกันสองสิ่งที่ผมย้ำให้เธอยึดถือคือ แม่กับศาสนา สุดท้ายก็ด้วยเหตุผลหลักสองประการดังกล่าวที่เธอใช้ เลิกจากผมไปพบ miracle ตามพระเจ้าและแม่ของเธอ เธอขอโทษที่ทำผมเสียเวลาหลายๆ ปี (ที่ผมอดทนกับความเห็นแก่ตัวและละโมภของเธอ) ... เธอเห็นแค่นั้น ... และเราตายจากกันไป
วันนึงเธอก็หาผมในที่ใหม่จนเจอ เธอคงเหมาเอาว่าที่ผมเขียนในบางเรื่อง หมายถึงเธอคนเดียว และ.... เธอว่าผมนินทา หรือนำเธอมาประจาน ....
หลายครั้งในชีวิต หลากประสพการณ์ที่เข้ามา การเกี่ยวพันถึงคนอื่นๆ เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ไ่ด้ การเก็บบันทึก และแลกเปลี่ยนประสพการณ์ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสังคม คนที่เรียนรู้แต่ความถูกต้อง ย่อมไม่มีที่ค้ำยันเมื่อพบความผิดพลาด นั่นเป็นเหตุผลที่ปิรามิดสูงใหญ่อยู่ได้เป็นพันๆไป เพราะมีฐานรากที่กว้างพอ ชีวิตคนเรามีที่นาสี่ผืน - เราเห็นเขาเห็น - เขาเห็นเราไม่เห็น - เราเห็นเขาไม่เห็น - ไม่มีใครเห็น การทำให้ผืนสุดท้ายที่ไม่มีใครสามารถเข้าไปดูแลได้ เล็กสุดได้ก็ด้วยการยอมรับความจริงทั้งจากเราและคนอื่น นั่นคือเหตุผลที่ผมกล้าพูดในสิ่งที่เราผิดพลาด เพื่อพัฒณาตนเองและแลกเปลี่ยนกับคนอื่น เพื่ออย่างน้อยเขาจะได้ไม่พลาดเหมือนเรา หากกล่าวในเชิงศาสนาของเธอ นินทามีคำกล่าวว่า...
“หากเป็นข้อบกพร่องที่ปรากฏจริงในตัวเขา และพวกเจ้านำมาพูด พวกเจ้าได้ทำการนินทา แต่ถ้าหากข้อบกพร่องนั้นเป็นเท็จ ถือเป็นการใส่ร้าย” :ท่านศาสดา(ศ็อลฯ)
นินทาในนิยามของอิสลามจึงกล่าวสั้นๆ ได้ว่า -๑. ผู้พูดมีเจตนาที่จะเปิดเผยข้อบกพร่องที่ถูกปกปิดของผู้อื่น ดังนั้นหากพูดถึงข้อบกพร่องของบุคคลหนึ่งที่เป็นเรื่องเปิดเผยไม่ถือว่าเป็น การนินทา -๒. ข้อบกพร่องจะต้องเป็นความจริง มิฉะนั้นจะเป็นการใส่ร้าย -๓. มีเจตนาเพื่อทำลาย หรือทำให้ทุกข์ใจ แต่หากมีเจตนาเพื่อแก้ไขปัญหา ไม่ถือว่าเป็นการนินทา เช่น การบอกและอธิบายถึงข้อบกพร่องที่เป็นความลับของผู้ป่วยให้แพทย์ฟัง -๔. ผู้ที่พูดถึงต้องเป็นที่รู้จักของผู้ฟัง ดังนั้นหากพูดถึงบุคคลที่สาม โดยไม่บอกว่าเป็นใครไม่ถือว่าเป็นการนินทา -๕. ผู้ที่พูดถึงมิได้กระทำผิดบาปอย่างเปิดเผยและโจ้งแจ้ง เพราะบุคคลที่ทำผิดบาปอย่างเปิดเผยนั้น ไม่มีความระอายและรักในเกียรติยศชื่อเสียงของตนเองอีกต่อไป -๖. ผู้ที่ถูกนินทาเป็นมุสลิมและผู้ศรัทธา
.... ผมไม่เคยเปิดเผยตัวเธอกับใครในนี้ ขณะเดียวกันเรื่องที่เขียนก็ไม่ไ้ด้หมายถึงเธอคนเดียว เพียงแต่ผมมักยกประสพการณ์ต่างๆจริงมาเขียนเทียบเพื่อให้เห็นภาพ ดังนั้นหากไม่นับข้อ 6 ผมก็ไม่เห็นเหตุประการใดเลย ในเรื่องนินทา เพราะเจตนาผมไม่ใช่ และไมไ่ด้หมายถึงใครคนเดียว
เวลาผ่านไปแค่ไม่กี่ปี ความพล่อยและอื่นๆของเธอ ก็กลับมาแรงขึ้นดังเดิม การเป็นลูกนักเขียนใหญ่ เป็นสะใภ้โต๊ะครู มีสามีเคร่งทางศาสนา แนวทางศาสนาและสังคมที่เธออยู่คงไม่สอนว่า การกระทำอยู่ที่เรา การขอผลอยู่ที่พระเจ้า นี่ละมังความดีในแบบที่โจรใต้(ที่ทั้งหมดนับถืออิสลาม)เรียกขาน ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่ความดีในแบบพุทธที่ว่า - ตนติเตียนตนไมไ่ด้ - ปราชรู้ตำหนิไมไ่ด้ - เรื่องที่ทำแพร่ไปไม่เป็นที่ละอาย - ไม่ทำให้ตนเองตกในความหลงตาย - ตายแล้วไปสู่สุขคติ
ดังนั้นพระพุทธเจ้าจึงจัดชาวนรกเดินดินไว้สามพวก - ทำบาปแล้วบอกว่าไม่ได้ทำ - ตู่คนไมไ่ด้ทำว่าทำบาป - บอกว่าบาปนั้นไม่มี ผมเองก็อาจจะจัดอยู่หนึ่งในสามแต่ ผมพยายามจะไม่กลับไปเกิดในนรกใหม่
ตอนจากก็เตาฮฺบัต โลผ่มาก็ยังไม่เข้าใจเตาฮฺบัต แม้แต่หลักดูอาร์ยังไม่รู้ สังคมและศาสนาที่ดีสอนคนได้แค่นี้หรือ? ไม่แปลกที่ไฟใต้ไม่ยอมดับ
ความถูกต้องคงอยู่ที่เธอ และควาผมิดของผมคงเพราะ คนไม่ใช่แค่หายใจอยู่ก็ผิด แง่บๆ
Create Date : 02 กันยายน 2552 |
Last Update : 2 กันยายน 2552 17:07:55 น. |
|
3 comments
|
Counter : 723 Pageviews. |
|
|
|
|
แบ่งปัน
ดีรึเลว
คนที่มีความคิดมีสติ
รุ้ผิด รู้ถูก รู้ดี รู้ชั่ว
ยอมรุ้อยุ่แก่ใจ
แล้วแต่ว่าจะนำสิ่งที่คนอืนแบ่งปันให้ไปใช่แบบไหนยังไง
ขอบคุณ กับสิง่ที่แบ่งปันค่ะ
คุณคนเขียน