อยู่สบาย ตายสงบ จากไปไม่คิดค้างใคร แง่บๆ

<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
17 สิงหาคม 2553
 

มุสลิมพูด...เป็นคนพุทธมันไม่เคร่ง เป็นบาปอย่าแตะฉัน

เด็กสาว 17 โทรมาร้องไห้กับผมกลางดึก
เธอเครียด... เพื่อนฝูงรุมว่าเธอ
เธออยู่แถวตอนใต้ๆของเรานั่นแหละ
คำแรกที่เธอถามคือ "ไม่เข้าใจพวกมุสลิมเลย"
เพื่อนสนิทเธอสองคน เป็นมุสลิมเหมือนกัน
ในเดือนบวชเดือนบุญ ทำไมทำตัวไม่เหมือนกัน
คนนึงก็แค่ไม่กินข้าวกินน้ำกลางวัน แล้วก็แค่ระวังตัวอย่างเดิม
แต่อีกคนนึงกลับเคร่งครัดจัดจ้า อะไรๆก็ว่าบาป
เธอเล่าว่าขนาดแค่เธอเดินไปโอบเอวเหมือนเคยๆกับเพื่อน
เธอก็โดนตวาดว่า "บาปปปป... แกทำชั้นบาป อย่ามาจับตัวชั้น"
แต่พอเธอกลัวว่าจะไปทำเพื่อนบาป ก็เลยเดินห่างๆ
เธอก็โดนคนทั้งห้องรุมว่า ...รังแกเพื่อน รังเกียจมุสลิมหรือ
เพราะเพื่อนเธอคนนั้นไปร้องไห้น้อยใจที่เธอไม่ยอมเข้าใกล้

ผมถามเธอว่า.. "คนไม่กินน้ำวันนึงกลิ่นปากเป็นไง"
เธอตอบทันควัน..
"เหม็นโครตพี่ เพื่อนที่ถือบวชนะกลิ่นฉึ่ง แต่เพื่อนกันอะ ไม่คิดมาก"
ผมจึงตอบเธอว่า
"นั่นซิ แต่สำหรับมุสลิมนี่คือกลิ่นที่หอมหวลแห่งบุญ
ไม่ใช่กลิ่นปากหรอกนะที่มันหอม แต่กลิ่นบุญต่างหาก
เห็นม๊ะ มุมมองก็ต่างกันแล้ว เราจะไปเข้าใจเขาได้ไง"
"อือออ..." เธอครางรับทราบ

ผมจึงต่อว่า
"มุสลิมไม่เหมือนพุทธ คนบรรลุศาสนะภาวะก็ต้องไปเรียนศาสนา
ไม่มียกเว้น จะมาอ้างไมู่รู้ไม่ได้ อิสลามไม่ให้ปฏิบัติโดยไม่รู้ชัดนะ
ดังนั้นเมื่อรู้เพียงพอจะกล้าเรียกตัวว่าุมุสลิมแล้ว
คำถามคือ ที่เธอว่าผู้หญิงแตะตัวผู้หญิงธรรมดา บาปตรงไหน หะดิสอะไร
หะดิสนั้นฮะซัน ฏอแอฟ เซาะห์รึไม่เซาะห์ ตัดสินตามมัสฮับไหน
เขาก็ต้องอธิบายได้ และที่สำคัญ ในเหตุการณ์หนึ่งๆนั้น
จะใช้หะดิศเดียวมาอ้างค้างโลกไม่ได้ เพราะหะดิศคือ
การรายงานเหตุการตามสายตาผู้เห็นเหตุการณ์
และอิสลามกำหนดการสอบสวนว่าต้องมีพยานอย่างน้อยสี่คน
หรือผู้เป็นพยานต้องสาบานตนแทนคนสี่คน
ดงันั้นต้องมีหะดิสประกอบมากกว่าหนึ่ง ไม่ใช่กียาสมั่วๆมา
ไม่งั้นก็ถือว่า ต่อเติมศาสนา หรือกำลังสร้า้งศาสนาใหม่
นั่นบาปกว่าไม่ทำตามซะอีก"
เธอว่า ..."โหยย พูดแบบนี้ก็ขาดกันซิ แต่่จริงนะเค้าว่าคนพุทธอ่ะ เหอะ"
ผมถามทันที "ทำไมหรือ?"
เธอตอบ "เค้าว่าไ่ม่เคร่งไม่เห็นดีอย่างพวกเขาเลย"
ผมตอบ "นั่นก็เพราะอย่างแรกคือ เราได้โอกาศเกิดใหม่เรื่อย
แต่เขาหละหมดโอกาศนี้ไปแล้วไง"
เธอแ้ย้ง "แต่เขาก็ว่าเราเหลวไหล ไร้สาระ ชอบทำชั่ว"
ผมตอบ " แต่คนพุทธเราเชื่อว่า
ถ้าทำดีในชาตินี้ ถ้ามีชาิติหน้าผลดีก็ย่อมพาเราไปที่ดีๆ
และถ้ามันไม่มีชาิติหน้า ในชาตินี้ก็มีคนเรียกเราว่าดี
ถ้าผลกรรมมีจริง กรรมดีๆก็ย่อมส่งผลดีๆแก่เราในที่สุด
และถ้าผลกรรมไม่มี ก็ไม่มีหน้าไหนกล้ามาบอกว่าเราเลว"
เธอยังแย้งต่อ "แต่เขาว่าเรา ไม่ดี บาป"
ผมตอบ "สิ่งที่เรียกว่าบาปนั้น บาปที่ว่าของเราเคยไปละเมิดเขาไหม
เราเคยแบ่งปันและมีน้ำใจให้เขาไหม"
เธอตอบ "อือ มีอะไรหนูก็ช่วยเขาประจำ ขอก็ให้ตลอดและ
อะไรเขาห้ามหนูก็ไม่อยากให้เพื่อนลำบากใจ"
ผมถามต่อ "ถ้าเราทำกรรมใดๆก็ตามผลเป็นไง เขาเป็นไง"
เธอว่า "กรรมใดเราทำัวันนึงก็ต้องสนอง หนีไม่พ้นแน่ๆ"
ผมจึงต่อว่า "เห็นม๊ะ แนวคิดพุทธเราเน้นกลับมาที่ตนเองเป็นสำคัญ
เรากล้าและบ้าพอจะเรียกว่าแรคน่ารอค สิ่งใดเราทำเรายืดอรับเองหมด
ต่างจากเขาที่ยังหนีไปเตาฮบัตขอพระเจ้า ไปทำดีล้างบาปกันได้
กรรมเนี่ยมันล้างกันได้หรือ ตีหัวหมาและวจะไปขอให้พระเจ้าอภัยงั้นหรือ"
เธอบอ "อ้อก็จริง มองแบบนี้คนพุทธเรากล้ารับผิดชอบมากกว่าเนาะ"
ผมตอบ..."นั่นซิมุมมองเราต่างกัน ในมุมมองของคนพุทธเรา
เรามีแต่บุญเพราะเราไม่เคยทำอะไรเขา แถมมีแต่ให้
ส่วนเขาจะว่าเราบาปเพราะเราไม่ใช่พวกเขาก็คงได้แต่ปลอ่ยเขาไป
เพราะแม้แต่ในทางพุทธก็มีคนบางประเภทเช่นกันที่โดนห้ามไม่ให้เราให้"
เธอถาม ..."คนแบบไหนเหรอพี่"
ผมตอบ.."โดยสรุปนะ พวกมักได้ คนเห็นแก่ตัวไง"
เธอตอบ... "อือ หนูไม่กล้าคุยกับเค้าแบบนี้หรอก กลัวเสียเพื่อน"
ผมจึงถามบ้าง...
"แล้วเค้าทำแบบนี้ เค้าคิดว่าคุณเป็นเพื่อย หรือแหล่งผลประโยช์นละ?"



Create Date : 17 สิงหาคม 2553
Last Update : 18 สิงหาคม 2553 20:54:21 น. 0 comments
Counter : 1050 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

itoursab
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




New Comments
[Add itoursab's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com