ฟันขาวทำอย่างไร
ฟันคนเราปกติจะมีสีขาวเป็นมันวาว แต่บางคนจะมีฟันออกสีเหลือง หรือดำคล้ำ แลดูไม่สวยงาม โดยอาจเป็นเพียงบางซี่ หรือทุกๆ ซี่ก็ได้ ซึ่งแน่นอนที่ใครๆ ก็อยากมีฟันที่ขาว สะอาด เพื่ออวดยิ้มได้อย่างมั่นใจ
เทคนิคทำให้ฟันขาว
วิธีที่จะทำให้ฟันขาวนั้นมีอยู่หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและลักษณะของสีฟันที่ผิดปกติไป
1. วิธีแรกที่ง่ายมากคือ การแปรงฟันให้สะอาดอย่างทั่วถึงหลังอาหารทุกมื้อร่วมกับการไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อขูดหินปูนและขัดฟัน ซึ่งจะสามารถกำจัดสีที่เกิดนอกเนื้อฟันได้เท่านั้น และการขัดฟันจะไม่ทำให้ฟันบางลงอย่างที่เข้าใจ ถ้ามีฟันหน้าผุ ทันตแพทย์จะกรอส่วนที่ผุ มีสีดำ หรือสีเหลืองออก แล้วอุดด้วยวัสดุที่มีสีเหมือนฟัน เท่านี้ฟันก็จะมีสีขาวสะอาดได้เหมือนปกติ
2. การฟอกสีฟัน ปัจจุบันมีการฟอกสีฟันทั้งปาก เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม และมีวิวัฒนาการของยาที่ฟอกสีฟัน ทำให้ใช้ได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การฟอกสีฟันทั้งปาก ทำได้ 2 วิธี คือ
1. จะต้องทำในคลินิก โดยทันตแพทย์จะใช้สารฟอกสี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารประเภท Peroxide ที่มีความเข้มข้น 30-35% โดยใช้เวลาในการทำแต่ละครั้งประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง
2. ผู้ป่วยสามารถนำสารฟอกสีกลับไปทำเองที่บ้าน โดยทันตแพทย์จะเตรียมอุปกรณ์ให้ แต่ผู้ป่วยต้องกลับมาตรวจเป็นระยะตามที่นัด สารฟอกสีที่ใช้จะเป็นประเภทเดียวกับที่ทำในคลินิก แต่จะมีความเข้มข้นน้อยกว่า คือประมาณ 2-10% ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย วิธีฟอกก็ไม่ยาก เพียงแต่บีบสารฟอกสีลงในถาดฟันยางที่ทันตแพทย์ทำเฉพาะไว้สำหรับแต่ละคน จำนวนน้ำยาที่ใส่ลงในถาดก็ประมาณเพียง 1 ใน 3 ของถาด แล้วสวมฟันยางไว้ วันละ 1-2 ชม. ทุกวันและจะต้องกลับไปพบทันตแพทย์ตามที่นัดไว้
ระยะเวลาในการรักษา
ขึ้นอยู่กับสีและความคล้ำของฟัน ถ้าฟันมีสีเหลืองไม่มาก อาจฟอกให้ขาวได้ในเวลา 2-3 สัปดาห์ แต่ถ้าหากฟันมีสีเหลืองเข้ม หรือสีเทาดำ อาจต้องใช้ระยะเวลานานในการฟอกให้ขาว ประมาณ 4 - 5 สัปดาห์
อันตรายของสารฟอกสี
อันตรายหรือผลข้างเคียงต่อเหงือกและฟันของสารฟอกสีมีบ้าง โดยเฉพาะชนิดที่ทำในคลินิก เพราะมีความเข้มข้นสูง ซึ่งทันตแพทย์จะต้องทำอย่างระมัดระวัง ส่วนชนิดทำที่บ้านนั้น จะมีความเข้มข้นน้อย จึงไม่ค่อยมีอันตรายแม้จะกลืนสารฟอกสีไปบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ต้องกังวลเพราะสารดังกล่าวจะสลายตัวกลายเป็นน้ำได้ง่าย
ส่วนอาการที่เกิดขึ้น อาจแสบที่เหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก เนื่องจากการระคายเคืองโดยตรงที่สัมผัสกับน้ำยา และอีกอาการหนึ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ คือ การเสียวฟันหลังจากฟอกสี แต่ทั้งนี้ประสาทฟันจะมีการป้องกันตัวเองโดยธรรมชาติ ซึ่งอาการจะค่อยๆ ทุเลาลงและหมดไปเมื่อหยุดฟอกสี นอกจากนี้ทันตแพทย์อาจเคลือบฟลูออไรด์ช่วยอีกทาง
อย่างไรก็ตาม การฟอกสีฟันทั้งปากไม่ได้ทำให้ฟันสึกกร่อนหรืออ่อนแอลงอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ
ทำแล้ว ทำอีกได้หรือไม่
ถ้าเดิมสีค่อนข้างคล้ำก่อนฟอก โอกาสคืนกลับสู่สีเดิมจะเป็นไปได้สูงในเวลา 1-2 ปี แต่การฟอกสีฟันที่สีเหลืองอ่อน จะขาวได้นานประมาณ 3-4 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความระมัดระวังป้องกันการติดสีจากคราบอาหารด้วย และเมื่อสีฟันคล้ำลงอีกก็สามารถใช้ยาฟอกสีฟันซ้ำได้อีก
การทำฟันขาวถาวร ด้วยวิธีอื่นๆ
1. การเคลือบฟัน ทันตแพทย์จะกรอแต่งผิวเคลือบฟันด้านหน้าออกเล็กน้อย แล้วปิดทับด้วยวัสดุอุดสีขาว หรือสีเหมือนฟัน ตบแต่งให้ได้รูปร่างสวยงาม ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ฟันขาวค่อนข้างถาวรกว่าการฟอกสี แต่ยังมีโอกาสเสื่อมได้ คือ อาจจะมีรอยแตก กะเทาะของวัสดุที่ทำเคลือบเมื่อใช้ไม่ระมัดระวัง แต่สามารถซ่อมแซมหรือทำใหม่ได้ไม่ยากนัก แต่วิธีนี้ ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าการฟอกสีฟัน
2. การครอบฟัน ทันตแพทย์จะกรอแต่งผิวเคลือบฟันออกทั้งซี่ให้เหลือเป็นแกน แล้วทำฟันปลอมครอบทับลงไปติดแน่นด้วยซีเมนต์ทันตกรรม ฟันที่ดำหรือแตก บิ่น สามารถทำครอบให้มีสีและรูปร่างที่สวยงามได้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนสีฟันอย่างถาวร แต่ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าการทำเคลือบฟันและการฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันด้วยตนเองที่มีขายตามท้องตลาดสามารถทำเองได้หรือไม่
ยาฟอกสีฟันชนิดที่วางขายตามร้านค้า บุคคลทั่วไปสามารถซื้อไปฟอกเองที่บ้านได้ และยาสีฟันที่ทำให้ฟันขาวก็มีออกมาสู่ท้องตลาดมากขึ้น ซึ่งเป็นประเภทที่นอกเหนือจากการดูแลของทันตแพทย์ จึงยังไม่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดี ๆ นะคะ วันหลังจะแวะมาสูบทิปดี ๆ ใหม่ อิอิ