Group Blog
พฤศจิกายน 2551

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
15
25
27
28
30
 
 
All Blog
วิธีลดอายุผิว
1. ชีวิตสมัยใหม่ ร่างกายถูกโจมตี

ผลร้ายของชีวิตสมัยใหม่นั้นเห็นได้ชัดทั้งจากร่างกายภายนอกและความรู้สึกภายใน ร่างกายของเราถูกโจมตีอยู่ตลอดเวลาจากแสงอาทิตย์ มลภาวะ ความเครียด อาหารจานด่วน และชีวิตที่รีบเร่ง ผลข้างเคียงของสิ่งเหล่านี้แสดงออกในรูปของโมเลกุลแปลกปลอมที่เรารู้จักกันในชื่อ “ อนุมูลอิสระ ” ที่คอยทำร้ายผิวพรรณ สร้างริ้วรอยก่อนวัย ซ้ำยังแทรกแซงการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ อีกด้วย ทางเลือกที่ดีที่สุดคือ ปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ด้วยการ “ ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ” ตราบใดที่เรายังคงต้องมีชิวิตเช่นทุกวันนี้ การเลือกอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เต็มที่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง คือพื้นฐานที่ดีที่สุดของการมีผิวพรรณที่สมบูรณ์ ให้เวลากับตัวคุณเองบ้าง เพราะตราบใดที่คุณยังทำไม่ได้ คุณก็ต้องจ่ายค่าทดแทนด้วยริ้วรอยก่อนวัย

2. บุหรี่ ... ขยี้มันทิ้งเสียเถอะ

บุหรี่ไม่ใช่จะมีอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยร้ายกาจต่อผิวพรรณด้วย ผู้ที่สูบบุหรี่ครึ่งซองต่อวัน ต่อเนื่องนานเกิน 2 ปี จะเกิดริ้วรอยก่อนวัยมากกว่าผู้ที่ไม่สูบหรี่ถึงเท่าตัว และริ้วรอยจะเพิ่มเป็น 2 เท่าของอายุ ดังนั้นบุหรี่อาจทำให้คนอายุ 20 มีริ้วรอยเหมือนคนอายุ 40 ก็ได้ สำหรับผู้ที่กำลังตั้งใจอด การทานวิตามิน B รวมแบบเข้มข้นจะช่วยลดอาการอยากบุหรี่ได้ และนึกไว้เสมอว่ายิ่งเลิกบุหรี่เร็วเท่าไรก็ยิ่งลดการเร่งริ้วรอยก่อนวัยได้เร็วเท่านั้น

3. พิษร้าย ของมลภาวะ

อีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามก็คือพิษร้ายของมลภาวะการหายใจเอาอากาศเสียเข้าไปมาก ๆ นั้นร้ายแรงพอ ๆ กับการสูบบุหรี่ 10 มวนต่อวันเลยทีเดียว มลภาวะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระทื่ทำให้เซลล์ผิวหน้าเสื่อมสภาพ ผลก็คือริ้วรอยก่อนวัย วิธีที่ดีที่สุดก็คือหลีกเลี่ยงให้ห่าง สวมเครื่องป้องกันการหายใจ หรืออีกอย่างหนึ่งคือการเสริมวิตามินที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน A วิตามิน C และโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามิน E ควรรับประทานตามปริมาณที่แนะนำบนฉลาก ที่สำคัญรับประทานอาหารให้ครบมื้อ และครบหมู่ด้วย

4. สุขศึกษาเบื้องต้น ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

เรื่องง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็รู้ แต่จำเป็นต้องนำมากล่าวในที่นี้อีกครั้ง เพราะน้ำ คือส่วนประกอบสำคัญของเซลล์ผิว เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ต่อสุขภาพของผิวพรรณ รวมไปถึงสุขภาพรวมของร่างกายด้วย นั่นหมายความว่า น้ำ สามารถส่งผลทั้งโดยตรง และโดยอ้อมต่อสุขภาพผิวที่แข็งแรง ผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง ถ้าไม่เริ่มต้นที่พื้นฐานที่ดี และวิธีง่ายที่สุด สิ่งที่จะแก้ไขต่อไปก็ยากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ถามตัวคุณเองว่า วันนี้คุณดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้ว แล้วหรือยัง

5. ควบคุมคาเฟอีน

คาเฟอีนมีอยู่ในกาแฟ ชา โกโก้ ช็อกโกแลต และเครื่องดื่มโคล่าทั้งหลาย ถ้าแต่ละวันคุณดื่มกาแฟมากกว่า 4 ถ้วยหรือดื่มชาเกิน 8 ถ้วย ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องลดปริมาณที่ว่านี้ลง มิฉะนั้น ฤทธิ์ของคาเฟอีนอาจทำให้คุณเกิดความดันโลหินสูง หายใจไม่สะดวก และระบบย่อยอาหารไม่ปกติ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อผิวพรรณ และความรู้สึกของคุณทั้งสิ้น ความร่วงโรยก็จะถามหาก่อนถึงวัยอันควร

6. แอลกอฮอล์ พระเอกหรือผู้ร้าย

ถึงจะเป็นที่รู้กันว่าไวน์แดงมีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ และการดื่มไวน์แดงวันละแก้วมีประโยชน์ต่อหัวใจและระบบสูบฉีดโลหิต แต่อย่างไรก็ตาม การได้รับแอลกอฮอล์มากเกินไปย่อมเป็นผลเสียต่อสุขภาพแน่นอน เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวพรรณที่สมบูรณ์ ดังนั้น แอลกอฮอล์ที่มากเกินไปย่อมเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย ทั้งยังทำลายสารอาหารอันมีคุณค่าต่อร่างกายอีกด้วย คุณจึงไม่ควรจิบแอลกอฮอล์ให้บ่อยครั้งจนเกินไป

7. พักผ่อนต้องผ่อนคลายจริง ๆ

คุณเครียด ผิวก็เครียด มีผลทดลองที่บ่งบอกว่าความเครียด ทำให้ผิวเร่งการผลิตไขมันมากกว่าปกติ เมื่อคุณขมวดคิ้ว กล้ามเนื้อจะทำงานมากกว่ายามคุณยิ้มหลายเท่า ใบหน้าที่เคร่งเครียดจะทำให้กล้ามเนื้อตึง และเหนื่อยล้า และถ้าเป็นอย่างนี้นาน ๆ เข้าก็จะเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย ไม่มีอะไรสำคัญกว่าจิตใจที่มีความสุข ดังนั้นการพักผ่อนของคุณจึงต้องหมายถึง การที่จิตใจของคุณได้ผ่อนคลายอย่างแท้จริงด้วย

8. หยุดสบู่ อย่างเด็ดขาด

เพราะสบู่ส่วนใหญ่ยังคงทิ้งอัลคาไลน์ไว้บนผิวแม้จะใช้น้ำล้างออกแล้ว อัลคาไลน์ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นด่าง จะเป็นตัวการทำลายสารเคลือบผิวตามธรรมชาติของเรา ซึ่งปกติจะมีคุณสมบัติเป็นกรด จึงเป็นการรบกวนต่อประสิทธิภาพในการควบคุมความชุ่มชื่น ผลก็คือผิวแห้งกร้าน และสิ่งที่ตามมาแน่นอนคือริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้นคุณจึงไม่ควรล้างหน้าด้วยสบู่ ทางที่ดีที่สุด เลือกใช้โฟมล้างหน้า ครีม หรือโลชั่นทำความสะอาดผิวหน้าซึ่งเป็นกลางและไม่มีส่วนผสมของสบู่ ครีมล้างหน้าที่ดีควรกำจัดน้ำมัน สิ่งสกปรก เครื่องสำอางและเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกไป แต่จะต้องไม่มีสิ่งเหลือค้างอยู่บนผิวหน้า ซึ่งเป็นต้นเหตุของรูขุมขนอุดตัน

9. ระวังเครื่องทำน้ำอุ่น

บางช่วงโดยเฉพาะในฤดูหนาว ผิวหน้าจะแห้งแตก ที่เราเคยนึกกันว่าเป็นเพราะอากาศแห้ง ปัจจุบันไม่ใช่แค่นั้นเพราะเราใช้เครื่องทำน้ำอุ่นกันมากขึ้น และเปิดจนอุ่นเกินกว่าผิวหน้าจะรับได้ในฤดูหนาว หรือแม้กระทั่งในยามที่ต้องการคลายความเหนื่อยล้าให้ร่างกาย น้ำที่อุ่นเกินไปจะรบกวนการทำงานของสารเคลือบผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวของคุณแพ้ง่ายและจะทำให้เห็นเส้นโลหิตฝอยตรงส่วนที่บอบบางของผิวหน้าชัดเจนขึ้น ผิวจะแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้น เวลาอาบน้ำอุ่นจากเครื่องในอุณหภูมิที่สูงเกินไปต้องระวังอย่าให้น้ำรดใบหน้าด้วย ทางที่ดีหลังจากล้างครีมล้างหน้าออกแล้วควรใช้น้ำเย็นล้างอีกครั้ง นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปลุกผิวให้ตื่น ทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของผิวได้อย่างยอดเยี่ยม

10. ผิวหน้าก็ต้องออกกำลัง

เมื่ออายุมากขึ้นกล้ามเนื้อของเราจะสูญเสียความกระชับลงไป แต่การบริหารใบหน้าด้วยวิธีง่าย ๆ ก็สามารถยับยั้งกระบวนการนี้ไว้ได้ แถมยังทำให้ใบหน้าของคุณดูดีขึ้นอีกต่างหาก เพื่อให้เห็นผลคุณจะต้องทำอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยทำท่าต่อไปนี้ค้างไว้ท่าละ 5 นาที เบิ่งตาให้กว้างที่สุด กรอกตาไปทางขวา แล้วกรอกตาไปทางซ้าย เหลือบตาขึ้นข้างบน แล้วลงล่าง อ้าปากให้กว้างที่สุด สุดท้ายทำปากเหมือนเวลาพูดคำว่า “ อู ” ให้เล็กที่สุด การนวดหน้าอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ไม่ว่าคุณจะซื้อครีมนวดหน้ามานวดเองที่บ้าน หรือไปให้ผู้เชี่ยวชาญนวดให้ ก็เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและการทำงานของเซลล์ผิว กระชับกล้ามเนื้อและช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัยได้เช่นกัน

11. ยิ้มแย้มเข้าไว้

ที่ไม่ควรละเลยอีกอย่างคือบริหารกล้ามเนื้อรอบริมฝีปาก ท่านี้คุณต้องยิ้มกว้าง ๆ ระวังอย่าให้ตาเอียงหรือหรี่ตา ยิ้มค้างไว้ประมาณ 5 วินาที จากนั้นเผยอริมฝีปากเล็กน้อย ฟันติดกัน เหยียดมุมปากขวาไปทางขวาให้สุด ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นเหยียดมุมปากไปทางซ้ายให้สุด ค้างไว้ 5 วินาทีเช่นกัน สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้ผิวพรรณรอบริมฝีปากเกิดริ้วรอยสามารถใช้วิธีนี้ได้เลย ยิ้มให้กว้างที่สุดในขณะที่กัดฟันไว้ให้ติดกัน ทำท่านี้ให้ได้ 12 ครั้งต่อวัน หรือทางที่ดีคุณควรเป็นคนที่ยิ้มแย้มโดยธรรมชาติอยู่เสมอ เด็ก ๆ นั้นยิ้มโดยเฉลี่ยวันละเป็นร้อยครั้ง แต่ผู้ใหญ่อย่างเราวันหนึ่ง ๆ กลับยิ้ม แค่สิบกว่าครั้งเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่การยิ้มทำให้เนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกันรอบริมฝีปากกระชับขึ้น ซึ่งช่วยให้ใบหน้าของคุณเข้ารูป ดังนั้นจงมีความสุขอยู่เสมอ เพราะเมื่อคุณยิ้มหรือหัวเราะกล้ามเนื้อที่ตึงจะคลายออก บรรเทาความเหนื่อยล้า และกระตุ้นวงจรการทำงานของใบหน้า

12. ผิวคอ ... ผิวคาง ... ก็บ่งบอกอายุผิว

อย่าลืมเป็นอันขาดว่าผิวคอ ผิวคาง นั้นอยู่ในสายตาของคนที่มองคุณมากพอ ๆ กับผิวหน้า ผิวหน้าตึงแต่ผิวคางย่น ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะซ่อนอายุผิว เพื่อป้องกันริ้วรอยบริเวณลำคอ ให้ใช้ฝ่ามือสองข้างสลับกัน ลูบเร็ว ๆ จากลำคอด้านล่างขึ้นไปหาปลายคางด้านบน ทำอย่างนี้ให้ครบ 24 ครั้ง และเพื่อให้ได้ผลสุงสุดควรทำท่าบริหารนี้ทุกครั้งที่ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ ส่วนวิธีกระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณคางคือใช้มือตบเบา ๆ เร็ว ๆ ให้ได้ 30 ครั้ง ทำให้เป็นประจำทุกเช้า เย็น อย่าปล่อยให้ผิวคอ ผิวคาง ฟ้องอายุที่แท้จริงของผิวคุณ

13. คางสองชั้น

สาเหตุของคางสองชั้นมักจะเป็นความอ้วน ของเหลวที่ร่างกายสะสมไว้และการเพิ่มปริมาณของสารพิษแต่บางครั้งท่ายืนก็อาจทำให้คุณมองดูเหมือนมีคางสองชั้นได้เช่นกัน ดังนั้นคุณควรยืดไหล่ให้ตรง และเชิดศรีษะไว้เสมอ การนอนก็มีส่วนทำให้เกิดคางสองชั้นได้ หากคุณหนุนหมอนสองใบซ้อนกัน ผิวของคุณจะเกิดรอยพับใต้คาง นานเข้ารอยพับนี้ก็จะอยู่คงที่เป็นชั้นผิวข้างใน ซึ่งทำให้เกิดเป็นคางสองชั้นได้ทันทีเมื่อคุณมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น

14. เรื่องราวจากหมอน

น่าอัศจรรย์จริง ๆ ที่แค่เพียงมองดูใบหน้าคุณ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ ก็จะบอกได้ทันทีว่าคุณชอบนอนท่าไหน ที่จริงก็เป็นแค่การเดาจากริ้วรอยบนใบหน้าของคุณ เป็นธรรมดาเมื่อผิวเราถูกทับไว้เป็นเวลานาน ๆ ก็ย่อมเกิดรอยพับ รอยย่น เป็นชั่วคราวแล้วหายไป แต่ถ้าหากรอยพับนั้นเกิดเป็นประจำทุกวัน และแต่ละครั้งยาวนานตลอดคืน นาน ๆ เข้าก็จะเกิดเป็นรอยพับถาวร โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้นและความกระชับของผิวลดลง ปกติริ้วรอยมักจะมีมากบนใบหน้าด้านที่เอียงทับหมอน ซึ่งคุณอาจลองสังเกตดูเองก็ได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันริ้วรอยดังกล่าว ควรใช้ปลอกหมอนที่ทำจากผ้าซาตินซึ่งจะลื่นและนุ่มนวลต่อผิวมากกว่าแต่ทางที่ดีที่สุดคือไม่ควรนอนเอาหน้าซุกหมอน ไม่ว่าหมอนนั้นจะนุ่มแค่ไหนก็ตาม

15. อย่ายอมแพ้แรงโน้มถ่วง

เป็นที่รู้กันว่า พลังของแรงโน้มถ่วงดึงทุกสิ่งทุกอย่างให้กลับลงสู่พื้นดิน แต่ในโลกของผู้หญิงเราไม่มีวันแพ้แก่แรงโน้มถ่วงของโลกเป็นอันขาด ดังนั้น ทุกครั้งที่ทาครีมบำรุงผิวไม่ว่าส่วนใดให้คุณลูบไล้ครีมขึ้นสู่ส่วนบน ในทิศทางที่ย้อนแรงโน้มถ่วงเสมอและอย่าลืมกระตุ้นเลือดลมใต้ผิวพรรณด้วยการตบเบา ๆ ขณะใช้มอยส์เจอไรเซอร์ลูบไล้ผิวด้วย

16. น้ำตาลอันตราย

ไม่น่าเชื่อว่าการกินอาหารหวานเป็นของว่าง จะเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ เราเคยกลัวกันแต่เรื่องความอ้วนจากน้ำตาล แต่วันนี้ผู้ที่ไม่กังวลเรื่องน้ำหนัก ควรต้องระวังเรื่องขนมหวานด้วยแล้ว เพราะผลการวิจัยชี้ว่าการบริโภคน้ำตาลในปริมาณที่สูง เป็นสาเหตุให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของคอลลาเจนในผิว ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผิวหย่อนคล้อยและการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้นเคล็ดลับอีกอย่างในการต่อต้านริ้วรอยคือกินน้ำตาลให้น้อย ๆ เข้าไว้

17. แดด ... ศัตรูตัวร้ายที่สุดของผิว

ไม่มีข้อแม้ใดทั้งสิ้นในการหลีกเลี่ยงการปะทะกับแสงแดดโดยตรง เพราะผลวิจัยระบุไว้ชัดเจนเลยว่า 90 % ของปัญหาริ้วรอยก่อนวัยเกิดจาก “ แสงแดด ” การปล่อยให้ผิวสัมผัสแสงแดดโดยตรง เซลล์ผิวจะถูกทำลายโดยทันที แม้ว่าคุณไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของผิวก็ตาม และสิ่งที่จะตามมาคือริ้วรอยก่อนวัย หรืออาจรุนแรงถึงมะเร็งผิว อานุภาพของแสงแดดในการทำลายผิว เกิดจากรังสีที่มาพร้อมกับแดด อาที รังสีอินฟาเรด รังสีอัลตราไวโอเลต และรังสีอัลตราไวโอเลตนี้ยังสามารถผ่านทะลุอากาศแบบไหน ผิวหน้าจึงควรทาครีมกันแดดปกป้องไว้เสมอเมื่อต้องออกนอกบ้าน



Create Date : 26 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2551 1:01:26 น.
Counter : 1517 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mimi-jaiko
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]