หลายแสน(บาท)รักษาทุกโรค+อเมริกาขาขึ้น
.[ CNN & YouTube ] . . . กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประมาณการณ์ใหม่ว่า สหรัฐอเมริกาจะมีอัตราการเติบโตของผลผลิตรวมประเทศ (GDP) เพิ่มเป็น 3% ในช่วงปี 2013-2016/2556-2559 . สาเหตุสำคัญที่ทำให้สหรัฐฯ โตเร็ว (3%) มากกว่าแคนาดา (2.3%), เยอรมนี (1.2%), และฝรั่งเศส (1.2%) ได้แก่ . (1). ท่านเบน เบอร์นันเก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ กู้วิกฤติได้เร็ว โดยการซื้อคืนพันธบัตร พิมพ์แบงก์ เพิ่มปริมาณเงินดอลลาร์สหรัฐฯ 3 รอบ (QE1, QE2, QE3) ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ต่ำลง . ค่าเงินดอลลาร์ที่ต่ำลง ทำให้สหรัฐฯ ส่งออกสินค้าได้มากขึ้น และชวยชะลอการนำเข้าสินค้า . ตอนนี้ธนาคารกลางทั่วโลกนำวิธีแบบนี้ไปใช้หลายแห่ง เพราะวิธีนี้ใช้ต่อต้านค่าเงินแข็งได้ดี . สำนักวิจัย Stratfor วิเคราะห์ว่า การลดค่าเงิน 2 รอบแรก ทำให้สินทรัพย์ในรูปพันธบัตรสหรัฐฯ ของจีนลดลงมากถึง 1/4 เป็นการสกัดจุดแข็งของจีนได้อย่างแยบยล . ตอนที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงใหม่ๆ จีนหันไปซื้อพันธบัตรเงินยูโรมากขึ้น ทว่า... ต่อมากลับด้อยค่าลงไปอีก เนื่องจากวิกฤติหนี้ภาครัฐยุโรปใต้ เช่น กรีซ อิตาลี สเปน โปรตุเกส ฯลฯ มีแนวโน้มจะต้องใช้เวลาแก้ไขไปอย่างน้อย 5-8 ปี . . (2). ท่านประธานาธิบดีโอบามาถอนทหารจากอิรัก และจะถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายสงคราม . ประสบการณ์ทั่วโลกพบว่า ชาติที่เศรษฐกิจโตเร็วจะต้องหลีกเลี่ยงสงคราม หรืออย่างน้อยก็ไม่เข้าสงครามบ่อยหรือนานเกินไป . เรื่องนี้อาจมีข้อยกเว้นบ้างสำหรับประเทศที่มีรายได้จากการส่งออกอาวุธสูง โดยเฉพาะสหรัฐฯ-ยุโรป-จีน . ทว่า... ถ้าสหรัฐฯ หลีกเลี่ยงสงครามกับอิหร่าน หรือไม่ทำสงครามยืดเยื้อได้... จะประหยัดรายจ่ายได้มาก . . (3). ท่านโอบามาลดภาษีให้บริษัทที่เพิ่มการจ้างงานคนอเมริกัน ช่วยลดอัตราการว่างงาน, คนที่มีงานทำเสียภาษีมากขึ้น เบิกเงินค่ารัฐสวัสดิการช่วยเหลือคนตกงานน้อยลง . (4). ท่านโอบามาพยายามปฏิรูประบบบริการสุขภาพสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้บริษัทประกันรวยน้อยลง โรงพยาบาลเอกชน-หมออเมริกัน-บริษัทยารวยน้อยลง (ถ้าจะประหยัด... ต้องใช้บัญชียาหลักแห่งชาติ) จึงถูกต่อต้านรุนแรง . ระบบสุขภาพอเมริกันทุกวันนี้เป็นแบบที่ต้องประกันกับบริษัทเอกชน "หลายแสนบาท(ต่อปี)รักษาทุกโรค" แถมถ้าป่วยมาก... บริษัทก็ไม่รับประกัน (ไม่ใช่ระบบ 30 บาทรักษาทุกโรคแบบไทย), ต้องไปจ่ายเงินกับโรงพยาบาลเอกชนแพงๆ เอาเอง (ค่ารักษาน่าจะตกเกือบล้าน หรือหลายล้านบาทต่อคนต่อปี) . ปี 2010/2553 คนอเมริกัน 49.9 ล้านคน = 16.3% ของประชากร ไม่มีประกันสุขภาพ ไม่มีสิทธิ์เข้าโรงพยาบาล ต้องรอให้ป่วยหนักพะงาบๆ ก่อน จึงจะมีสิทธิ์ไปห้องฉุกเฉิน (ER) [ CNN ] . ปี 2012/2555 (ปีนี้) ค่าประกันสุขภาพในสหรัฐฯ เพิ่ม 3% ถ้าทำประกันรายคน, 4% ถ้าทำประกันรายครอบครัว ได้แก่ [ KSS ] - ประกันคนเดียว > 172,504.30 บาท/คน/ปี
- ประกันครอบครัว > 483,718.64 บาท/ครอบครัว/ปี
. ถ้าประกันเป็นกลุ่มหรือบริษัท (firms), ค่าประกันจะเป็นแบบเหมาจ่าย โดยนายจ้างสมทบส่วนหนึ่ง ทำให้สิทธิในการรักษาพยาบาลดีกว่าคนที่ไม่ทำงาน ได้แก่ - คนทำงาน 3-199 คน > 468,603.39 บาท/ครอบครัว/ปี
- คนทำงาน 200 คนขึ้นไป > 490,938.32 บาท/ครอบครัว/ปี
นโยบาย "หลายแสนบาทรักษาทุกโรค" ของท่านโอบามาจะทำให้คนชั้นกลาง-คนจนมีขวัญ มีกำลังใจในชีวิตมากขึ้น ล้มละลายน้อยลง มีเงินใช้จ่ายมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นในระยะยาว . ท่านโอบามาพยายามออกกฎหมายให้บริษัทประกันต้องรับทำประกันทุกราย โดยลดจาก "หลายแสนบาทรักษาทุกโรค" เป็นแบบ " . . ทว่า... ถ้าทำได้ จะทำให้คนอเมริกันลำบากจากค่ารักษามหาโหด แบบป่วยหนักโรคเดียวหมดตัว (catastrophe illness) น้อยลง . จุดอ่อนของท่านโอบามา คือ ถ้าจะใช้นโยบาย "หลายแสนบาทรักษาทุกโรค" จะต้องขึ้นภาษีคนรวย และทำให้บริษัทประกัน บริษัทยา-หมอ-รพ.ในสหรัฐฯ ได้กำไรน้อยลง จึงเกิดปรากฏการณ์ "เสื้อสี" หรือการแบ่งขั้วทางการเมืองในสภา (bi-partisans) คล้ายๆ กับในไทย . (5). สหรัฐฯ มีงานวิจัยและพัฒนา (R&D) สูงกว่าชาติอื่นๆ โดยเฉพาะด้าน IT, อาวุธ, งานบริการ เช่น ธนาคาร ประกันภัย ฯลฯ ทำให้มีรายได้ทั้งจากการขายสินค้า การลงทุนในต่างประเทศ และการขายสิทธิบัตร . (6). สหรัฐฯ มีความได้เปรียบจากการนำเข้าแรงงานฝีมือ-คนเก่งจากทั่วโลก เรื่องนี้นักธุรกิจรัสเซียท่านหนึ่งกล่าวไว้คล้ายๆ กับท่านลี กวน ยู จากสิงคโปร์ คือ สหรัฐฯ เป็นคล้ายเครื่องดูดฝุ่นที่ดูดคนเก่งจากทั่วโลกเข้าประเทศ . ประเทศอื่นๆ ที่ใช้นโยบายนำเข้าคนเก่ง คือ แคนาดานำเข้าคนเก่ง-คนรวยจากจีนตั้งแต่ช่วงอังกฤษคืนเกาะฮ่องกงให้จีน, สิงคโปร์นำเข้าคนเก่งจากทั่วโลก, ออสเตรเลียนำเข้าคนเก่ง โดยเน้นวิศวกร-นักวิทยาศาสตร์-พยาบาล-หมอ จากอินเดีย จีน และยุโรปตะวันออก . สหรัฐฯ มีความได้เปรียบในการใช้แรงงานราคาถูกจากเม็กซิโก คล้ายๆ กับเยอรมนี-อังกฤษที่ใช้แรงงานราคาถูกจากตุรกี-ยุโรปตะวันออก . สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ปรับตัวได้เร็ว ตัวอย่างเช่น รถฟอร์ดที่นำเข้ามาขายในไทยช่วงปี 1990s หรือประมาณ 20 ปีก่อน มีปัญหาแยะ เช่น ขับๆ ไปแล้วพวงมาลัยหลุด ฯลฯ . . ตอนนั้นสหรัฐฯ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมคุณภาพ (QA, QC) ทั้งในสหรัฐฯ และญี่ปุ่นเข้าไปรื้อปรับระบบ . ทุกวันนี้รถฟอร์ดแข็งแกร่ง คุณภาพสูง และไม่มีข่าวพวงมาลัยหลุดตอนขับอีกเลย . ค่าแรงในจีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บริษัทหลายแห่งในสหรัฐฯ ย้ายโรงงานกลับไปในประเทศ และเม็กซิโกมากขึ้นเรื่อยๆ... ตรงนี้จะทำให้เกิดการสร้างงานในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใน 5 ปีข้างหน้า . . ถ้าประเทศไทยมุ่งจะแข่งขันกับนานาชาติให้ได้, เราน่าจะรีบส่งเสริมการศึกษาพื้นฐาน โดยการประกวดวิดีโอบทเรียนทุกปี เน้นภาษาไทย-อังกฤษ-ภาษาที่สาม, ติวสอน-ติวสอบ ตั้งแต่อนบาล-ประถมฯ-มัธยมฯ-อาชีวะ-ช่างทุกสาขาหลัก เช่น ช่างปูน ช่างเชื่อม ช่างไฟ ฯลฯ . การประกวดควรให้รางวัลสูงๆ, กำหนดให้ยกบทเรียนเป็นสมบัติของประเทศไทย นำขึ้นยูทูบ ให้ดาวน์โหลดได้ที่ห้องสมุด-โรงเรียนทุกจังหวัด และบริษัทต่างๆ ทำจำหน่ายราคาถูก . ถ้าทำตรงนี้ร่วมกับส่งเสริมอินเตอร์เน็ต สอนผ่านดาวเทียม โดยใช้ครูโรงเรียนเก่งๆ 2-3 แห่ง เช่น เตรียมอุดมศึกษา ฯลฯ ให้คนทั่วประเทศเลือกเรียนได้ จะเพิ่มพัฒนาการศึกษาพื้นฐานได้มาก . เรียนเสนอรัฐบาลลดการผลิตสาขาที่จบมาแล้วไม่มีงานทำ เพิ่มการผลิตสาขาที่จบมาแล้วมีงานทำ เช่น ส่งเสริมให้ ม.รามฯ-ม.ราชภัฎ-ม.ราชมงคล ร่วมผลิตพยาบาล หมอฟัน, ส่งเสริมให้สถาบันอาชีวะทั่วไป ร่วมผลิตผู้ช่วยพยาบาล . . เพราะการเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาล (medical hub) อย่างเดียวไม่พอ ต้องขอให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาสุขภาพ (medical education hub) ด้วย จึงจะแข่งขันกับนานาชาติได้ . ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ .
Create Date : 28 ตุลาคม 2555 |
Last Update : 28 ตุลาคม 2555 12:28:41 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1791 Pageviews. |
|
|
|