คำคมคุณครู(บาอาจารย์)
อ.ดร.ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ อาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT จาก Gotoknow.org กล่าวว่า ฝรั่งมีคำคมหนึ่งไว้เตือนครูบาอาจารย์ และท่านผู้รู้ทั้งหลายว่า 'Those who can, do. Those who can't, teach.'
แปลว่า "ใครทำได้ (เป็นนักทำ หรือมีความชำนาญมากกว่าความรู้), ขอให้ (ลงมือ) ทำ. ใครทำไม่ได้ (ไม่ได้เป็นนักทำ เช่น เป็นนักคิด นักสอน มีความรู้มากกว่าความชำนาญ ฯลฯ), สอนเถิด"
กล่าวกันว่า การพัฒนาประเทศ หรือโลก, จะมีแต่นักคิดอย่างเดียว นักพูดอย่างเดียว หรือนักทำอย่างเดียวไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวาย
.
ประเทศใดมีแต่นักคิด นักทฤษฎี... จะไปไม่ถึงไหน และอาจมีความขัดแย้งสูง เพราะต่างคนต่างไม่ฟังใคร
.
เรื่องนี้ตรงกับที่ผู้สื่อข่าว CNN ท่านหนึ่งบ่นว่า การทำข่าวอาหรับ-อาฟริกาเหนือ (Sahara) ยากมากๆ เพราะทุกคนจะแย่งกันพูด ไม่มีใครฟังใคร
.
ตรงกันข้าม, ถ้าไม่มีนักคิด นักทฤษฎีเลย... จะก้าวไปแบบเดิมๆ ขาดการวิจัยพัฒนา ขาดการคิดนอกกรอบ ขาดไอเดียสร้างสรรค์
.
ประเทศที่มีแต่นักพูดร้ายกว่านั้น เพราะวันๆ ไม่เป็นอันทำอะไร พูดไร้สาระไปเรื่อย สังเกตได้จากประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศที่จะต้อง "พัฒนา (developing)" ไปอีกนานแสนนาน
.
ประเทศที่มีแต่นักทำดีในยุคเกษตร-อุตสาหกรรม คือ ทำมากขยันมากยิ่งมีผลิตผลมาก, ทว่า... ตั้งแต่ยุคอุตสาหกรรมที่ผ่านมา การผลิตมากอย่างเดียวไม่พอ ต้องผลิตให้พอดี
.
การผลิตมากเกินไปอาจจะทำให้สินค้าและบริการมีราคาต่ำลง กำไรมักจะน้อยลง หรือถ้าไม่ทันสมัย-ไม่ถูกใจลูกค้า อาจขายไม่ออก ขาดทุนอีกต่างหาก
.
สมัยใหม่เก่งทำอย่างเดียวไม่พอ ต้องขอคนเก่งคิดมาช่วยคิดนอกกรอบ วิจัยพัฒนาสิ่งใหม่, และขอคนเก่งพูดเก่งฟันช่วยทำการค้า
.
Naisbitt (ไนซ์บิทท์) ผู้เขียนหนังสือ 'The Third Wave' แบ่งโลกเป็น 3 ยุค หรือ 3 คลื่น (waves) ได้แก่ ยุคเกษตร อุตสาหกรรม และสังคมความรู้-ข้อมูลข่าวสาร-บริการ-นวัตกรรม (ความคิดสร้างสรรค์)
.
ความสำคัญของเรื่องนี้ คือ ประเทศใดพัฒนาไปไกลกว่า จะมีโอกาสชนะในการแข่งขันระหว่างประเทศ รวมทั้งสงครามสูง
.
การที่ประเทศล้าหลังจะก้าวตามให้ทัน (catch up) จะยากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเทคโนโลยีมีส่วนทำให้การเรียนรู้เร็วขึ้น
.
แม้ในประเทศเดียวกันก็จะเกิดช่องว่าง หรือ "ชนชั้น" ทางด้านองค์ความรู้รุนแรงมากกว่าช่องว่างทางด้านการเงิน หรือฐานะ เช่น สหรัฐฯ จะมีคนที่มีความรู้มากที่สุดอยู่รวมกับคนที่โง่ (รู้น้อย) สุดๆ ฯลฯ ทำให้เสี่ยงต่อความรุนแรงจากแนวปะทะทางด้านความรู้ (knowledge gradient) ที่ต่างกัน คือ "พูดกันไม่รู้เรื่อง"
.
ตัวอย่างเช่น อาณานิคมตะวันตกพัฒนายุคอุตสาหกรรมได้ก่อน อาวุธของยุคนี้ คือ ปืน โดยเฉพาะปืนใหญ่ ปืนกล ทำให้ชนะประเทศที่อยู่ในยุคเกษตร ซึ่งมีอาวุธเป็นพวกมีด ดาบ หอก ธนู
.
ประเทศที่พัฒนาเข้าสู่ยุคคลื่นที่ 3 ได้ก่อน เช่น มีข้อมูลข่าวสารจากดาวเทียม เครื่องบินสอดแนมไร้คนขับ ฯลฯ มักจะได้เปรียบประเทศที่ไม่มีข้อมูลข่าวสารแบบนี้
.
การที่ประเทศไทยจะแข่งขันกับนานาชาติได้ในระยะยาวนั้น... เราต้องการทั้งคนที่เก่งคิด-เก่งพูด-เก่งทำ และที่ต้องการที่สุด คือ "คนที่ลงมือทำ"
.
คำกล่าวที่ว่า 'Those who can, do. Those who can't, teach.' ไม่ได้หมายความว่า คนที่เป็นครูบาอาจารย์เก่งน้อยกว่ามืออาชีพที่ทำงานในด้านต่างๆ เช่น อาจารย์ดอกเตอร์คอมพิวเตอร์อาจจะซ่อมคอมฯ แพ้ช่าง ฯลฯ
.
ทว่า... เราต้องการครูบาอาจารย์ที่เก่ง และอ่อนน้อมถ่อมตน ดังคำกล่าวสอนเต๋าที่ว่า "รวงข้าวที่สมบูรณ์ (คนเก่งจริงย่อม) น้อมลงต่ำ, รวงข้าวที่ลีบเล็ก (ย่อม) ชูสู่ฟ้า (เย่อหยิ่ง จองหอง)"
.
ฝรั่ง (ชาวตะวันตก) จึงมีคำกล่าวแบบนี้ไว้เตือนคนเก่ง ไม่ให้ลืมตนหลงตน อ่อนน้อมถ่อมตน เพราะคุณสมบัตินี้ (อ่อนน้อมถ่อมตน) ทำให้คนทำประโยชน์ใหญ่สำเร็จ
.
ศ.ชมิดต์ ผู้เชี่ยวชาญสาขาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยบือทิงเงน เยอรมนี กล่าวเรื่องครูไว้อีกอย่างหนึ่ง ท่านว่า 'Informed people should teach.' = "คนที่มีความรู้ควรสอน"
.
คนเยอรมันมีธรรมชาติใฝ่รู้ และเชื่อว่า "คนที่มีความรู้ มีสติปัญญาควรเป็นครูบาอาจารย์, และถึงไม่ได้เป็น (ครูบาอาจารย์) ก็ต้องสอนให้ได้... , ถ้าไม่สอนก็ควรเป็นนักเขียน"
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.
ยินดีให้ท่านนำบทความทั้งหมดไปใช้ได้ > CC: BY-NC-ND
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
.
Free TextEditor
| Create Date : 22 พฤษภาคม 2554 |
| Last Update : 22 พฤษภาคม 2554 16:57:11 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 660 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [
