บล็อก "บ้านหมอ" ขอนำเสนอเรื่องสุขภาพ + ภาษาอังกฤษ + ข่าวต่างประเทศสบายๆ สไตล์เราครับ...

<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
25 พฤศจิกายน 2555
 

ญี่ปุ่นกับจีน_คงทะเลาะกันไม่แรง [EN]


.
สำนักข่าว thediplomat (diplomat = นักการทูต) ตีพิมพ์บทความของ อ.จอฮ์น เฮมมิงส์ จากศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์นานาชาติ PACNET เรื่อง 'Why China needs to change its Japan policy'
= "ทำไมจีน (จำเป็นต้อง) น่าจะเปลี่ยนนโยบาย (เกี่ยวกับ) ญี่ปุ่น", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

  • คำ 'policy' มาจากภาษาฝรั่งเศสเก่า ศัพท์เดิม = police = ตำรวจ; art of government = ศิลปะแห่งการปกครอง
  • [ police ] > [ โผ่ - ลีซ - s/สึ (เสียงพ่นลม เบา-สั้น) ] > //www.thefreedictionary.com/police > noun = ตำรวจ; ศัพท์เดิมมาจากภาษาฝรั่งเศส-ละติน = state = รัฐ นคร เมือง; ปกติใช้ในรูปพหูพจน์ น่าจะเป็นเพราะตำรวจมีหลายท่าน (คงไม่มีเมืองไหนที่มีตำรวจ 1 ท่าน)

กล่าวกัน ว่า คนที่ทะเลาะกันบ่อยมักจะเป็นบ้านเดียวกัน บ้านใกล้เรือนเคียง หรือเป็นญาติ เช่น เป็นพี่เป็นน้องกัน ฯลฯ โดยส่วนใหญ่เป็นการทะเลาะแบบ "ลิ้นกับฟัน (อยู่ใกล้กัน บางทีฟันกัดลิ้นเป็นแผล)"
.
ความสำเร็จของจีนในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาเป็นผลจากนโยบายการเปิดเสรีด้านการลงทุนมากขึ้น โดยมีพลังขับเคลื่อน หรือเงินลงทุนสำคัญจากไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น
.
มหาอำนาจจีนด้านหนึ่งก็ทำเป็นชวนทะเลาะกับไต้หวัน-ญี่ปุ่น, อีกด้านหนึ่งก็ต้องพึ่งไต้หวัน-ญี่ปุ่นมากกว่าประเทศอื่นๆ
.
พรรค คอมมิวนิสต์จีนเพิ่งประชุมใหญ่ครั้งที่ 18 นับเป็นโอกาสดีที่จีนจะได้ทบทวนนโยบายต่างประเทศกับญี่ปุ่นใหม่ เพราะถ้าทะเลาะกันแรง... จะทำให้เสียหายด้วยกันทั้งสองฝ่าย
.

.
รัฐบาลญี่ปุ่นเองก็พลาดที่ไปซื้อเกาะเซนกากุ หรือเตี้ยวหยูจากเอกชนเมื่อกลางเดือนกันยายนปีนี้ (2555) 
.
การทะเลาะกับเพื่อนบ้านเป็น 1 ในยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลทั่วโลกนิยมใช้ในการหาเสียงจากความรู้สึก "ชาตินิยม" ทำให้พรรครัฐบาลได้คะแนนเสียงมากขึ้นเป็นประเด็นหลัก
.
ประเทศชาติจะเสียหาย ยับเยินหรือไม่อย่างไร... ไว้ว่ากันทีหลัง
.
เป็นที่ทราบกันดีว่า การเจริญเติบโตของจีนที่ร้อนแรงมา 20 ปีทำท่าจะแผ่วลงไป และน่าจะโตต่อไปได้ไม่เกิน 7-7.5%/ปี เป็นอย่างมาก
.

.
การที่จีนจะก้าวต่อไป จำเป็นต้องอาศัยเงินลงทุน เทคโนโลยี และธนาคารจากนอกประเทศเพิ่มขึ้น
.
ตอนนี้มีบริษัทญี่ปุ่นกว่า 20,000 บริษัท เข้าไปลงทุนในจีน
.
โพลล์สำนักข่าวรอยเตอร์ ทำในเดือนกันยายนปีนี้ (2555) พบว่า บริษัทญี่ปุ่นในจีนกว่า 37% รู้สึกไม่มั่นใจกับอนาคตในจีน และสนใจจะย้ายการลงทุนไปอาเซียน หรือเอเชียใต้ (อินเดีย ศรีลังกา บังคลาเทศ ฯลฯ)
.
ตอนนี้เศรษฐกิจโลกต้องการพลังขับเคลื่อนจากจีน และจีนเองก็ต้องการพลังการลงทุนจากญี่ปุ่น ทำให้แนวโน้มดีไม่ค่อยดีกับคนทั้งโลกเท่าไร
.

.
มีเหตุผลหลายอย่างที่ทั้งจีนและญี่ปุ่นไม่ควรจะทะเลาะกันนาน คือ ต่างก็ "ใหญ่ทั้งคู่"... ถ้ามีสงครามอะไร จะทำให้เศรษฐกิจโลกชะงักงันแทบจะทันที
.
(1). งบประมาณทหารทั้งจีน-ญี่ปุ่น "ใหญ่ทั้งคู่"
.
จีนลงทุนด้านการทหารติดอันดับ top 5 หรือ 5 รายแรกของโลก, ญี่ปุ่นอยู่ในอันดับ 6 ของโลก และที่ลืมไม่ได้ คือ ญี่ปุ่นมีกองทัพเรือแบบไฮเทคสุดๆ และเป็นพันธมิตรทางทหารกับสหรัฐฯ
.
จีนใหญ่จริง ทว่า... ทะเลาะไปทั่วทะเลจีนใต้ มีกรณีพิพาททั้งกับไต้หวัน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ฯลฯ แถมไม่ถูกกับอินเดียอีกต่างหาก
.
ประวัติศาสตร์สอนเราว่า ชาติใหญ่ที่ไม่มีพันธมิตรมักจะแพ้สงครามในระยะยาว เช่น เยอรมนีแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1-2 ฯลฯ
.
(2). ขนาดเศรษฐกิจ
.
จีนอันดับ 2, ญี่ปุ่นอันดับ 3 ของโลก แถมทั้งคู่ยังเป็นเจ้าหนี้พันธบัตรสหรัฐฯ (คิดเฉพาะเจ้าหนี้ต่างประเทศ) อันดับ 2-3 ของโลกด้วย
.
ถ้าเศรษฐกิจ 2 ประเทศนี้ถดถอยจากสงคราม จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลกแย่ลงทันที
.
(3). ญี่ปุ่นเป็นผู้ลงทุนใหญ่ในจีน
.
ปี 2011/2554 ญี่ปุ่นลงทุนมากเป็น 3 เท่าของสหรัฐฯ และเป็น 1 ในผู้ลงทุนใหญ่ในจีน
.
(4). จีนจำเป็นต้องนำเข้าหุ่นยนต์
.
อุตสาหกรรมจีนจำเป็นต้องนำเข้าหุ่นยนต์จากญี่ปุ่น และโลกตะวันตก เพื่อปฏิรูปอุตสาหกรรมให้มีต้นทุนต่ำลง ผลิตได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะใน 2-4 ปีข้างหน้า
.
ถ้าการปฏิรูปอุตสาหกรรมนี้ชะงักงัน... สหรัฐฯ ซึ่งเดิมเสียเปรียบจากค่าแรงแพง ค่ารักษาพยาบาลแพงมาก จะอาศัยแรงงานราคาถูกจากเม็กซิโก-อเมริกากลาง-ใต้ เช่น ย้ายโรงงานส่วนหนึ่งไปเม็กซิโก (แบบที่ควอลล์คอม ผู้ผลิตสินค้าให้แอปเปิ้ลทำ) ร่วมกับหุ่นยนต์ ปฏิรูปอุตสาหกรรมได้ก่อนจีน
.

.
คนจีน-ญี่ปุ่นส่วนใหญ่คงจะมีใจรักสันติมากกว่าสงคราม
.
ถ้าคนจีน-ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่นิ่งเฉย ช่วยกัน... รณรงค์ต่อต้านลัทธิชาตินิยมของพรรครัฐบาล จะทำให้มิตรภาพจีน-ญี่ปุ่นดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
.
มิตรภาพจีน-ญี่ปุ่นจะดีกับทั้งจีน-ญี่ปุ่น และเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ช่วยคนทั้งโลก โดยเฉพาะยุคนี้เป็นที่ยุโรปกำลังเจอศึกหนัก
.
หนี้ภาครัฐยุโรปไม่ใช่หนี้เละทั้งหมด... ส่วนหนึ่งมาจากการเร่งทำรถไฟใต้ดินความเร็วสูง เจาะแนวภูเขาแอลป์ เชื่อมยุโรปเหนือ-ใต้ และเชื่อมแนวขวางเป็นตะแกรง (grid) ไปทั่วยุโรป
.

.
ตอนนี้รถไฟความเร็วสูงทั่วยุโรปเริ่มใช้ได้เป็นบางสายแล้ว ทำให้เราพอเดาได้ว่า ทศวรรษ (10 ปี) หน้าจะเป็นทศวรรษที่ยุโรปกลับมาในมาดใหม่ โดยเฉพาะต้นทุนด้านพลังงานในการขนส่ง-คมนาคมทั่วยุโรปจะลดลงมาก ทำให้ยุโรปกลับมาแรงกว่าเดิม
.
ถ้าการเมืองไทยนิ่งอีกสักนิด เย็นลงสักหน่อย... และคนไทยส่วนใหญ่ไม่นิ่งเฉย ไม่สนับสนุนพวกหัวรุนแรง แบ่งขั้วแบ่งสี
.
โอกาสที่นักลงทุนญี่ปุ่นจะย้ายฐานมาไทยจะเพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจไทยก้าวไปอีกไกล
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ



> [ Twitter ]

  • ขอขอบพระคุณ >
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 17 พฤศจิกายน 55. ยินดีให้ท่านนำบทความไปใช้ได้ โดยอ้างที่มา และไม่จำเป็นต้องขออนุญาต... ขอบคุณครับ > CC: BY-NC-ND.
  • ข้อมูล ทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค; ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูง จำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.



Create Date : 25 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2555 11:27:38 น. 0 comments
Counter : 2383 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

wullop
 
Location :
ลำปาง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




บล็อกสุขภาพ + เรื่องทั่วไป... ท่านนำบทความไปใช้ โดยไม่ต้องขออนุญาตครับ... นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์...
New Comments
[Add wullop's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com