ทำกับข้าว(ลดเค็ม)ลดเสี่ยงอัมพฤกษ์-อัมพาต
. . ภาพ: ปริมาณเกลือโซเดียมที่คนอเมริกันได้รับในแต่ละวัน, การได้รับเกลือเกินเพิ่มเสี่ยงความดันเลือดสูง, ความดันเลือดสูงเป็นสาเหตุการตายของคนอเมริกันเกือบ 400,000 ราย/ปี [ CDC ] . คนอเมริกันกินเกลือโซเดียมเฉลี่ย 3,436 มก./วัน สูงกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ 2,300 มก./วัน (= เกลือแกง 1 ช้อนชา), สูงกว่าคำแนะนำของสมาคมโรคหัวใจอเมริกา (AHA) ที่ 1,500 มก./วัน (คำแนะนำในที่นี้เป็นขีดจำกัด คือ ไม่ควรกินเกินขนาดเท่าไรต่อวัน) . เด็กทารกไม่ควรได้รับเกลือโซเดียมเกิน 180-500 มก./วัน ทำให้มีคำแนะนำทั่วไปว่า ควรฝึกไม่เติมเกลือ ซอส น้ำปลาในอาหารตั้งแต่เด็ก เพื่อป้องกันนิสัย "ติดเค็ม" . . การศึกษาใหม่ (ตีพิมพ์ใน J Stroke) จากมหาวิทยาลัยไมอามี สหรัฐฯ ทำในคนสูงอายุ ส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ (African American = คนอเมริกันเชื้อสายอาฟริกา) และฮิสแปนิค (hispanic = สเปน ในที่นี้หมายถึงคนอเมริกันเชื้อสายเม็กซิโก หรืออพยพมาจากอเมริกากลาง-ใต้) อายุเฉลี่ย 69 ปี 2,657 ราย ติดตามไป 10 ปี . ผลการศึกษาพบว่า คนสูงอายุที่ชอบกินเค็ม (salty diets) เกินขีดจำกัดที่สมาคมโรคหัวใจอเมริกา (AHA) กำหนด เพิ่มเสี่ยงสโตรคเพิ่มขึ้น (stroke = สโตรค = กลุ่มหลอดเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต) . เป็นที่ทราบกันดีว่า การกินเค็ม หรือกินเกลือโซเดียมเกิน (เกลือแกง = โซเดียม คลอไรด์, เกลือโซเดียมอื่นๆ เช่น ผงชูรส ฯลฯ) เพิ่มเสี่ยงความดันเลือดสูง . องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้กินโซเดียมไม่เกิน 2,000 มก.วัน, ทว่า... สมาคมโรคหัวใจอเมริกา (AHA) เข้มงวดกว่านั้น คือ แนะนำให้กินโซเดียมไม่เกิน 1,500 มก./วัน . ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่กินเกลือโซเดียมอย่างต่ำ 4,000 มก./วัน เพิ่มเสี่ยงสโตรค หรือโรคหลอดเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต เกือบ 3 เท่า เมื่อเทียบกับคนที่กินโซเดียมต่ำกว่า 1,500 มก./วัน . การสำรวจในสหรัฐฯ พบว่า ผู้ชายอเมริกันได้รับเกลือโซเดียม 4,000 มก./วัน และผู้หญิงได้ 2,800 มก./วัน เกินขีดจำกัดมาตรฐาน เกลือโซเดียมเกือบ 80% มาจาก "อาหารซื้อ" ได้แก่ อาหารที่ปรุงแล้ววางขายที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ภัตตาคาร อาหารกระป๋อง อาหารใส่ถุง และขนมปัง-เบเกอรี่, ส่วนน้อยมาจากการเติมเกลือผงบนโต๊ะ (salt shakers) . ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้อ่านฉลากอาหาร (labels) ก่อนซื้ออาหารสำเร็จรูป ทำอาหารกินเองอย่างน้อย 1 มื้อ/วัน, เปลี่ยนอาหารขัดสีเป็นอาหารที่ไม่ขัดสี (whole foods) . เช่น เปลี่ยนข้าวขาวเป็นข้าวกล้อง เปลี่ยนขนมปังขาวเป็นขนมปังเติมรำ (โฮลวีท), เปลี่ยนน้ำผลไม้เป็นผลไม้ที่ไม่หวานจัดทั้งผล เช่น ชมพู่ ส้มโอ ส้ม มะละกอ ฝรั่ง แอปเปิ้ล ฯลฯ, กินผักเพิ่ม ทั้งผักสุกและผักสด . ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเสนอให้ออกกฎหมายควบคุมปริมาณเกลือในอาหารสำเร็จรูป และอาหารจานด่วน (ฟาสต์ฟูด) เพื่อลดปริมาณเกลือให้น้อยลง . คนไทยได้รับเกลือโซเดียมสูงจากอาหารซื้อ น้ำจิ้ม น้ำปลา และซอส, การกินกับข้าวทำเองที่บ้านอย่างน้อย 1 มื้อ/วัน, และกินข้าวกล้องอย่างน้อย 1 มื้อ/วัน น่าจะช่วยลดการได้รับเกลือ ลดเสี่ยงความดันเลือดสูงได้ในระยะยาว . ความดันเลือดสูงเพิ่มเสี่ยงอัมพฤกษ์-อัมพาต 3-17 เท่า, เพิ่มเสี่ยงหัวใจวาย 2 เท่า, เพิ่มเสี่ยงไตเสื่อม-ไตวาย 5 เท่า . ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ . > [ Twitter ] - Thank Reuters source > SOURCE: bit.ly/Ia5cbe Stroke, online April 12, 2012.
- นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 26 เมษายน 55. ยินดีให้ท่านนำบทความไปใช้ได้ โดยอ้างที่มา และไม่ใช้เพื่อการค้า > CC: BY-NC-ND.
- ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค; ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.
Create Date : 26 พฤษภาคม 2555 |
Last Update : 26 พฤษภาคม 2555 17:46:34 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1085 Pageviews. |
|
|
|