.

สำนักข่าว Reuters ตีพิมพ์เรื่อง 'Sugary drinks linked to higher stroke risk'  'Sugary drinks linked to higher stroke risk' = "เครื่องดืมเติมน้ำตาลเพิ่มเสี่ยง (มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยง) สโตรค (หลอดเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต)", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

การศึกษาก่อนหน้านี้ พบว่า เครื่องดื่มเติมน้ำตาลเพิ่มเสี่ยงโรคหัวใจ น้ำหนักเกิน-อ้วน อ้วนลงพุง เบาหวาน และสโตรค (หลอดเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต ความจำเสื่อม สมองเสื่อม ฯลฯ)

การศึกษา ใหม่จากญี่ปุ่น พบว่า ผู้หญิงที่ดื่มเครื่องดื่มเติมน้ำตาล (sugary soft drinks) เช่น ชาเขียวเติมน้ำตาล น้ำอัดลม ฯลฯ ทุกวัน เพิ่มเสี่ยงสโตรค

โรคหลอดเลือดสมองแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ส่วนใหญ่เกิดจากหลอดเลือดตีบตัน อีกกลุ่มหนึ่งเกิดจากหลอดเลือดแตก

.

สาเหตุที่ หลอดเลือดสมองแตกง่ายกว่าที่อื่น ส่วนหนึ่งเนื่องจากสมองเป็นเนื้อเยื่อที่อ่อนและบอบบาง คล้ายเต้าหู้แข็งญี่ปุ่นที่ลอยออยู่ในน้ำเลี้ยง (น้ำเลี้ยงสมอง-ไขสันหลัง)

อ.ดร.ฮิโรยาสึ อิโสะ และคณะ จากมหาวิทยาลัยโอซากา ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่ดื่มเครื่องดื่มเติมน้ำตาล น้ำผลไม้เติมน้ำตาล เกือบ 40,000 คน ติดตามไป 10 ปี (ไม่รวมเครื่องดื่มใส่น้ำตาลเทียม)

แบ่งกลุ่มตัวอย่างเป็น 4 กลุ่มตามปริมาณการดื่ม คือ ดื่มนานๆ ครั้ง, 1-2 ถ้วย/สัปดาห์, 3-4 ถ้วย/สัปดาห์, และพวกที่ดื่มเกือบทุกวันจนถึงทุกวัน

ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่ดื่มเครื่องดื่มเติมน้ำตาลทุกวัน (drink-a-day) เป็นสโตรค = 3% สูงกว่าผู้หญิงที่ดื่มนานๆ ครั้ง = 1.7%

.

การศึกษา นี้พบว่า เครื่องดื่มเติมน้ำตาลเพิ่มเสี่ยงสโตรค หรือกลุ่มโรคหลอดเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต สมองเสื่อม ความจำเสื่อมในผู้หญิง ทว่า... ไม่พบความแตกต่างทางสถิติในผู้ชาย

กลไกที่เป็นไปได้ คือ เครื่องดื่มเติมน้ำตาลเพิ่มเสี่ยงน้ำหนักเกิน อ้วน อ้วนลงพุง น้ำตาลในเลือดสูงเป็นพักๆ (สูงเร็ว ต่ำเร็ว ทำให้หิวเร็ว), ไขมันในเลือดสูง และความดันเลือดสูง

กลไกอื่นที่อาจเป็นไปได้ คือ หลังดื่มเครื่องดื่มเติมน้ำตาลช่วงแรก จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง

ตับจะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมันไตรกลีเซอไรด์ ทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงขึ้น เลือดหนืดขึ้น การไหลเวียนเลือดช้าลง เกิดลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือดได้ง่ายขึ้น

.

อาหารเหลว เช่น เครื่องดื่มเติมน้ำตาล ฯลฯ ไหลผ่านจากกระเพาะอาหารเข้าสู่ลำไส้เล็กได้เร็วกว่าอาหารแข็ง เช่น อาหารครบทุกหมู่ ข้าว-กับข้าว ฯลฯ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นเร็วกว่าอาหารแข็งทั่วไป ฯลฯ

การลดเครื่องดื่มเติมน้ำตาล หรือใช้น้ำตาลเทียมผสมแทน 1/2 เช่น ไลท์ชูการ์ ฯลฯ น่าจะช่วยลดความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง

การเปลี่ยนไป ดื่มพร้อมมื้ออาหาร โดยเฉพาะถ้ากินพร้อมอาหารที่มีเส้นใย (ไฟเบอร์), โปรตีน (เต้าหู้ ถั่ว โปรตีนเกษตร ปลา เนื้อ นม งา ฯลฯ), ไขมันชนิดดี (อาหารที่มีไขมันย่อยช้ากว่าอาหารที่ไม่มีไขมัน) จะทำให้การย่อยและดูดซึมน้ำตาลช้าลงได้

การศึกษาเร็วๆ นี้พบว่า ถั่วสด เช่น ถั่วพู ถั่วฝักยาว ฯลฯ, ถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วแดงหลวง ฯลฯ มีส่วนช่วยให้การย่อยและการดูดซึมน้ำตาลช้าลง ทำให้ระดับน้ำตาลหลังอาหารไม่เพิ่มขึ้นเร็ว

.

อาหารไทย ได้ชื่อว่า เป็นอาหารแห่งสมุนไพร (herbal food) และอร่อยติดอันดับโลก... ถ้าเราวิจัย-พัฒนา (R&D) ให้มีการเติมเส้นใยหรือไฟเบอร์

เช่น พัฒนารำข้าว-จมูกข้าวสำหรับใช้เป็นอาหารเสริมเส้นใย-เพิ่มคุณค่าทางอาหาร ทำให้หอม-อร่อย, พัฒนาผงบุกสำหรับเสริมเส้นใย, พัฒนาสูตรอาหารให้มีแกงถั่วอร่อยๆ แบบแกงแขก ฯลฯ จะช่วยป้องกันเบาหวาน และช่วยคนที่เป็นเบาหวานควบคุมน้ำตาลได้ดีขึ้น

การเคี้ยวอาหาร ให้นานขึ้น (เพิ่มจำนวนครั้งของการเคี้ยวเบาๆ), เดินช้าๆ หลังอาหาร แบบที่โบราณเรียกว่า "เดินย่อยอาหาร" ช่วยป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดสูงหลังอาหารได้ในระดับหนึ่ง

การออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ เช่น เดินให้เร็วขึ้น สะสมเวลาเดินให้ได้ 40 นาที/วัน, ขึ้นลงบันไดตามโอกาส สะสมเวลาให้ได้ 4 นาที/วัน, ปั่นจักรยาน 20 นาที เช้า-เย็น ฯลฯ และไม่นั่งนานเกิน 1-1.5 ชั่วโมง/ครั้ง มีส่วนช่วยป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้

.

ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

.

Thank Reuters > SOURCE:bit.ly/TXPWkZThe American Journal of Clinical Nutrition, online October 17, 2012.

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2555 8:37:08 น.		2 comments
Counter : 1242 Pageviews.
Share Tweet