บล็อก "บ้านหมอ" ขอนำเสนอเรื่องสุขภาพ + ภาษาอังกฤษ + ข่าวต่างประเทศสบายๆ สไตล์เราครับ...

<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
6 มิถุนายน 2554
 

โจรปล้นยา+วิธีป้องกันการใช้ยามากเกิน [EN]

สำนักข่าวรอยเตอร์นำเสนอวิดีโอเรื่อง 'Pill-addicted robbers target pharmacies'  = "โจร (ขโมย) ติดยามุ่งเป้าร้านขายยา", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

.

เรื่องของเรื่อง คือ คนอเมริกันติดยาแก้ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยาที่นั่นก็มีราคาแพงมาก หลายๆ คนเลยคิดจะปล้นร้านขายยาเสียเลย > [ คลิกที่ลิ้งค์ถ้าต้องการชมวิดีโอ ]

.

อาจารย์พยาบาล-หมออนามัยหลายท่านเล่าว่า สถานีอนามัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ยาบ้าระบาดจะพบปัญหาแบบนี้บ่อย คือ คนไข้และญาติเข้าไปขโมยยา หรือหยิบยาไปจากชั้นยาหลายครั้ง

.

คนอเมริกันนอกจากจะใช้พลังงานมากผิดปกติแล้ว ทหารอเมริกันยังใช้ยาต้านซึมเศร้ามากประมาณ 1/5 ของทหารที่ไปอิรัก-อัฟกานิสถานทั้งหมด, และใช้ยาแก้ปวดมากด้วย > [ CNN ]

.

คนอเมริกันใช้ยา $234 billion (2010 / 2553) = 7.02 ล้านล้านบาท (เพิ่มจากปี 1990/2533 = $40 billion = 5.85 เท่า/20 ปี) = เฉลี่ย 22,537 บาท/คน/ปี (คิดจากประชากร 311.481 ล้านคน


  • [ target ] > [ ท่า - เก็ท - t ] > //www.thefreedictionary.com/target > noun = เป้าหมาย จุดมุ่งหมาย; verb = ตั้งเป้าหมาย สนใจเป้าหมาย

  • คำนี้มาจากภาษาฝรั่งเศส และเยอรมันเก่าตามลำดับ, ศัพท์เดิม = light shield = เกราะเบา, มีความเป็นไปได้ว่า ตอนรบกันมีการตั้งเป้าธนูไปที่หน้าอก (หุ้มเกราะ) ของอีกฝ่ายหนึ่ง

  • [ addict ] > [ แอด - ดิ้ก - t ] > //www.thefreedictionary.com/addict > noun = คนติดยา หมกมุ่นกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากผิดปกติ; คำนี้ศัพท์เดิมมาจาก 'adjudge' = ตัดสินให้ผิด คดีแดง ล้มละลาย ไร้ความสามารถ 

  • to be addicted = ซึ่งติดยา; addiction = การติดยาเสพติด


ผู้เชี่ยวชาญแนะนำวิธีป้องกันการใช้ยามากเกินไปดังต่อไปนี้

.

(1). ซื้อยาจากเภสัชกร หรือใช้ยาจากโรงพยาบาลใกล้บ้านแห่งเดียว


  • ข้อควรระวังในเรื่องนี้มีเหมือนกัน เช่น นักธุรกิจท่านหนึ่งใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในเชียงใหม่แห่งหนึ่ง ป่วยเป็นโรคความดันเลือดสูง (ค่าบนประมาณ 150) มานานหลายปี แต่ไปเจอหมอที่ให้การรักษาแย่กว่าสถานีอนามัย (ถ้าไปสถานีอนามัยไทย... ได้รับการรักษาความดันเลือดสูงแน่นอน), ทิ้งไว้ ไม่รักษาหลายปีจนไตเสื่อมสภาพ


(2). ถาม (เรียนปรึกษา) เภสัชกรหรือหมอว่า ยานี้ควรกินกี่วัน ถ้าอาการหายก่อนจะหยุดได้ไหม หรือให้กินยาจนหมด (ยาแต่ละชนิดมีวิธีใช้ต่างกัน)

.

(3). เมื่อไปร้านขายยา สถานีอนามัย หรือโรงพยาบาลครั้งต่อไป... ขอให้นำยาเดิม สมุดประจำตัวคนไข้ เช่น ทุกวันนี้เรามีสมุดประจำตัวคนไข้ความดันเลือดสูง-เบาหวาน ฯลฯ ไปด้วย เพื่อจะได้สื่อสารตรงกันว่า เป็นโรคอะไร และใช้ยาอะไรบ้าง

.

(4). ถ้ามีอาการแพ้ยา... ให้ติดต่อกับร้านขายยา หรือสถานพยาบาลเดิมเสมอ เพื่อขอจดชื่อยาที่น่าจะแพ้ บันทึกเป็นประวัติไว้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อป้องกันการได้รับยาที่แพ้ซ้ำ

.

โรงพยาบาลหลายๆ แห่งมีระบบเตือนผ่านคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ห้องตรวจโรคจนถึงห้องจ่ายยา ปิดป้ายแดง ห้ามการจ่ายยาที่แพ้ แต่จำเป็นต้องขอให้คนไข้ยืนยันก่อนว่า แพ้ยาตัวใด ก่อนบันทึกลงระบบอัตโนมัติ

.

ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

_______________________________________


  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์

  • ยินดีให้ท่านนำบทความทุกตอนไปใช้ได้ > CC: BY-NC-SA.

  • บทความทั้งหมดเป็นไปเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ไม่ใช่รักษาโรค

  • ท่านที่มีโรคประจำตัว หรือมีความเสี่ยงต่อโรคสูง จำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้






Free TextEditor


Create Date : 06 มิถุนายน 2554
Last Update : 6 มิถุนายน 2554 6:33:49 น. 0 comments
Counter : 578 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

wullop
 
Location :
ลำปาง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




บล็อกสุขภาพ + เรื่องทั่วไป... ท่านนำบทความไปใช้ โดยไม่ต้องขออนุญาตครับ... นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์...
New Comments
[Add wullop's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com