คุณหมอตายแน่ (Dr. Death) -ตายแล้ว [EN]
. ทนายความและเพื่อนแถลงข่าวว่า อ.นพ.เควอร์เคียน (ขออนุญาตเรียกว่า "อ.เคฟ") เสียชีวิตที่โรงพยาบาลโบมองต์, รอยัล โอค, มิชิแกน สหรัฐฯ หลังเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคไตและโรคหัวใจ - [ attorney ] > [ แอ็ท - เท้อ' - หนี่ ] > //www.thefreedictionary.com/attorney > noun = ทนายความ นิติกร นักกฎหมาย
- คำนามภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ย้ำเสียง (accent) ที่พยางค์แรก คำนี้มาจากภาษาฝรั่งเศส จึงย้ำเสียงที่พยางค์ที่สอง
คุณนีล นิโคล เพื่อนซึ่งสนับสนุนแนวคิด และช่วยคุณหมอสนับสนุนการฆ่าตัวตายของคนไข้ 130 ราย กล่าวว่า อ.เคฟ เป็นมะเร็งตับ และตายจากลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดปอด . ต้นฉบับเรื่องนี้ใช้ศัพท์ว่า 'assisted suicides' = การฆ่าตัวตายด้วยความช่วยเหลือ (ของคนอื่น), ทว่า... ตามหลักกรรมในพระพุทธศาสนา น่าจะสงเคราะห์เป็นการสนับสนุนการฆ่าให้สำเร็จ (ปาณาติบาต) ผู้เขียนสังเกตว่า ประเทศที่ร่ำรวย โดยเฉพาะฝรั่ง/ชาวตะวันตก และญี่ปุ่น จะมีสถิติการฆ่าตัวตาย (suicide) สูง, ตรงกันข้ามกับประเทศที่ยังไม่รวย หรือกำลังพัฒนา จะมีสถิติการฆ่าคนอื่น (homicide) สูง กลไกที่อาจเป็นไปได้ คือ สังคมยุคใหม่มีการแข่งขันกันสูง ตัวใครตัวมัน มีการโฆษณาให้มีความอยากมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อไม่ได้ดังใจจะเสี่ยงผิดหวังรุนแรง หรือซึมเศร้า ซึ่งเพิ่มเสี่ยงฆ่าตัวตายอีกต่อหนึ่ง อ.เคฟ เป็นพยาธิแพทย์ (ตรวจชิ้นเนื้อ เซลล์ ชันสูตรศพ) เป็นคุณหมอหัวรุนแรง หมกมุ่นอยู่กับความตาย (death) และการตาย (dying = ช่วงที่กำลังจะตาย ใกล้ตายในสายตาฝรั่ง / ชาวตะวันตก) ก่อน . ต่อมาท่านจุดประเด็นเรื่องการช่วยคนไข้ฆ่าตัวตาย โดยขับรถโฟล์คสวาเกนคันเก่า ขึ้นสนิม ทำให้คนอเมริกันแตกเป็น 2 ฝ่าย คือ สนับสนุนกับคัดค้าน (การฆ่า) . ฝ่ายสนับสนุนชมว่า ท่านเป็นฮีโร่ ช่วยให้คนไข้ตายอย่างมีศักดิ์ศรี (to die with dignity), ส่วนฝ่ายค้านติเตียนว่า ท่านเป็นนักฆ่าเลือดเย็น (cold-blooded killer) โดยไปทำให้คนที่มีความเจ็บปวดเรื้อรัง และมีอาการซึมเศร้าฆ่าตัวตาย . ทุกวันนี้การรักษาสมัยใหม่ทำให้อาการปวดบรรเทาเบาบางได้ประมาณ 80-90% . อีก 10-20% ต้องใช้ยา "ทำใจ" ช่วย, ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือใช้แพทย์ทางเลือก เช่น ฝังเข็ม นอนให้พอเป็นประจำ ออกแรง-ออกกำลังให้เหงื่อตกบ้าง เลี้ยงสัตว์ หางานอดิเรกทำ ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้ไปหมกมุ่นกับอาการปวดมากจนเกินไป . คนไข้ที่หวังจะให้อาการปวดหมดไป 100% จะเสี่ยงเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดจนหยุดหายใจ ดังกรณีท่านไมเคิล แจคสัน . เรื่องที่น่าสนใจ คือ ลูกค้า (clients) ของหมอเคฟเกือบทั้งหมดเป็นผู้หญิงวัยกลางคน . หมอเคฟรณรงค์เรื่องช่วยฆ่าตัวตายในปี 1990 / 2533 โดยใช้เครื่องมือที่ออกแบบพิเศษ ทำให้คนไข้กดปุ่มฉีดยาที่ทำให้ตายได้เอง ทำให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีไม่ได้ในช่วงแรก . หมอเดฟได้แนะนำให้คนไข้ใช้วิธีอีกหลายอย่าง โดยอาจนำศพไปไว้ที่โรงพยาบาลตอนดึก หรือทิ้งไว้ที่โรงแรมแบบโมเตล (motel = โรงแรมที่จอดรถไว้ใกล้ๆ ห้องพักได้อย่างสะดวกสบาย) . ต่อมาอัยการใช้หลักฐานแสดงว่า ท่านเป็นคนฉีดยาเอง ทำให้ถูกพิพากษาจำคุก 8 ปี และได้รับทัณฑ์บนให้พ้นโทษอย่างมีเงื่อนไขว่า จะต้องไม่ช่วยใครฆ่าตัวตายอีก . ตอนที่หมอเคฟป่วย ได้รีบประกาศว่า ตัวเองไม่ควรอยู่ในกลุ่มคนที่ควรช่วยฆ่าตัวตาย คล้ายๆ กับเกิดกลัวตายขึ้นมา! . หมอเดฟได้รับการขนานนาม "ดร.เดต (Dr. Death)" หรือ "คุณหมอแห่งความตาย (คุณหมอตายแน่)" จากเพื่อนๆ ตั้งแต่ตอนฝึกอบรมเป็นแพทย์เฉพาะทางในปี 1950s = 1950-1959 / 2493-2502 . ช่วงนั้นหมอเดฟขอแลกเวรกับเพื่อนๆ ไปอยู่เวรดึก ซึ่งมักจะมีคนตายเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ . หลังจากศาลสูงสหรัฐฯ ประกาศใช้โทษประหารชีวิตอีกครั้งในปี 1976 / 2519, หมอเดฟได้รณรงค์ให้มีการใช้นักโทษประหารชีวิตในการศึกษาวิจัย และขอให้นักโทษมีโอกาสบริจาคอวัยวะก่อนตาย . สรุปรายงานข่าวจากรอยเตอร์ คือ "คุณหมอตายแน่ (ถ้าใช้บริการ)... ตายแล้ว" . ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ .
> [ Twitter ]
Free TextEditor
Create Date : 06 มิถุนายน 2554 |
Last Update : 6 มิถุนายน 2554 6:17:50 น. |
|
0 comments
|
Counter : 606 Pageviews. |
|
|
|