คำนวณปริมาณอาหารที่เข้าไปอยู่ในกระเพาะของเราด้วยขนาดมือ 
      ปริมาณอาหารที่แต่ละคนกินได้ต่อครั้งนั้นจะแตกต่างกันไป  ขึ้นอยู่กับขนาดของกระเพาะอาหาร  ถ้าอย่างนั้น  กระเพาะอาหารของคุณใหญ่แค่ไหนกันนะ 
      ขอให้คิดว่ากระเพาะอาหารของคนเรามีขนาดตามธรรมชาติ  เท่ากับขนาดกำปั้นของแต่ละคน  
      ขนาดของกำปั้นกับขนาดของกระเพาะอาหารจะผกผันสัมพันธ์กัน  โดยทั่วไป คนที่มีรูปร่างอ้วนจะมีมือใหญ่  และกระเพาะอาหารก็จะใหญ่ตามไปด้วย  ส่วนคนที่มีมือเล็กก็มีแนวโน้มว่ากระเพาะอาหารจะมีขนาดเล็ก  การที่นักซูโม่สามารถกินจังโกะนาเบะ ซึ่งมีปริมาณมากได้  ก็เพราะกระเพาะอาหารมีขนาดใหญ่นั้นเอง 
      ลองกำมือดูสิ  ขนาดกระเพาะอาหารของแต่ละคนก็ประมาณนี้ละ 
     กระเพาะจะขยายตัวเมื่อมีอาหารเข้าไป  หลังจากที่ย่อยและส่งอาหารไปยังลำไส้แล้ว  ก็จะหดตัวกลับมาตามเดิม  เป็นเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมา  ภายในกระเพาะอาหารที่ว่างเปล่ามีพื้นผิวที่เหี่ยวย่น  มีลักษณะเป็นถุงที่สร้างจากกล้ามเนื้อ  เมื่อกินอาหารเข้าไปมาก  กล้ามเนื้อจะยืดตัว  ส่งผลให้กระเพาะขยายใหญ่ขึ้น  โดยสามารถขยายได้มากที่สุดเท่ากับ  ขนาดสองกำมือ  
      แต่หากกินจนกระเพาะขยายใหญ่ถึงขีดสุด  ก็เท่ากับว่าเรากินมากเกินไป  ถ้าอย่างนั้นเราควรกินมากแค่ไหนดีล่ะ 
      ปริมาณที่เหมาะสมนั้น  ให้นึกถึงความจุของมือทั้งสองข้างที่วางประกบกันเป็นทรงกลมเหมือนเวลาที่ปั้นข้าว  นี่คือปริมาณมาตรฐานหลังจากที่อาหารผ่านการบดเคี้ยวภายในปากจนมีขนาดเล็กลงแล้ว  โดยเฉพาะเต้าหู้  หรือผัก  เช่น  กระหล่ำปลี  ซึ่งมีปริมาณน้ำมาก  เมื่อบดเคี้ยวแล้วก็จะกลายเป็นน้ำและมีขนาดเล็กลงมาทีเดียว  ดังนั้นหากเรากินโดยนึกถึงปริมาณอาหารที่เข้าไปอยู่ในกระเพาะแล้ว  ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้กินมากเกินไปได้
      ถ้าเราไม่กินมากเกินความจำเป็น  กระเพาะอาหารก็จะค่อย ๆ  กลับมามีขนาดเล็กลงตามเดิม  เรามาแก้นิสัยที่มักจะกินโดยคิดว่า  ขออีกสักคำเถอะน่า  หรือ  เสียดายของกันเถอะ
      ถ้ากินอย่างรู้จังหวะที่ถูกต้องแล้ว  ก็จะรู้สึกอิ่มด้วยปริมาณอาหารที่พอดีได้  แล้วกระเพาะอาหารก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิมตามธรรมชาติ 
หลักฐาน “การเปลี่ยนแปลงที่น่าพอใจ”!
นี่ละ“ผลจากการปรับสภาพร่างกาย”!
     นอกจากน้ำหนักตัวแล้ว  หากร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้ ละก็ นั่นเป็นผลจากการปรับสภาพร่างกายแน่นอนแล้ว
      -รู้สึกสดชื่นหลังจากตื่นนอนตอนเช้า
    - หลับสนิทมากขึ้น
     - รู้สึกว่าผักที่ไม่ใส่น้ำสลัดหรือเกลือมีรสชาติ  อร่อย
     - รับรู้รสชาติของผงชูรสและสารปรุงแต่งอาหารได้ไว  ทำให้รู้สึกไม่อยากกิน
     - เปลี่ยนมาชอบอาหารรสอ่อน ๆ
     - รู้สึกว่าน้ำเปล่ามีรสชาติอร่อย  

      เมื่อเริ่มกินอาหารตามเมนูทำความสะอาดกระเพาะอาหารและลำไส้อย่างต่อเนื่อง  ก็จะรับรู้ได้ถึงความอร่อยของน้ำเปล่าหรือวัตถุดิบที่เป็นพืชผัก