|
ป้าโซกับใบขับขี่ที่ญี่ปุ่น
วันก่อนป้าโซไปสอบทำใบขับขี่ของที่นี่ จริงๆป้าโซทำใบขับขี่สากลไว้แล้วเมื่อตอนกลับไปคราวที่แล้ว แต่ปรากฏว่าใช้ไม่ได้ค่ะ เนื่องจากต้องมีหลักฐานว่าเราอยู่ในประเทศไทยไม่น้อยกว่าสามเดือน ถึงจะใช้ได้  แล้วมันเกี่ยวกันยังไงล่ะนี่?  แต่เราสามารถแปลงใบขับขี่ไทยเป็นญี่ปุ่นได้ โดยส่งใบขับขี่ไทยไปให้เขาแปลเอกสารรับรองให้ที่โตเกียวแล้วค่อยเอาไปแปลง..
หลังจากเสียเงินไปสามพันเยนในการแปลใบขับขี่แล้ว ป้าโซก็แล่นไปทำใบขับขี่ เขาไม่บอกอะไรเลยบอกแต่ว่ามาเหอะ เอารูปมาด้วยสองใบ พอไปถึงก็เจอระดับหัวหน้าตำรวจกรมการขนส่งที่แก่ๆ เป็นคุณลุงจะเกษียณอยู่มะรอมมะร่อ แกซักยิกเลยค่ะ ถามว่าได้ใบขับขี่ครั้งแรกเมื่อปีอะไร เปลี่ยนมากี่ใบแล้ว ได้ตลอดชีพนี่มาได้ยังไง การสอบทำใบขับขี่มีอะไรบ้าง ข้อเขียนมีกี่ข้อ ภาคปฏิบัติสอบกี่ครั้งถึงผ่าน .. ดี. ไม่ถามเลยไปถึงว่าวันนี้นุ่งกุงเกงในสีอะไรมา 
พอถามได้ดั่งใจ คุณลุงก็ไปเขียนๆในใบสมัคร แล้วก็ให้ป้าโซสอบสายตา ซึ่งให้ถอดแว่นตาแล้วถามว่าเห็นยังไง ฟระ.. ไอ้คนใส่แว่น พอถอดมันก็ไม่เห็นสิ  เห็นลางๆ ไม่รู้ว่าจุดหมายคือวงกลมเล็กๆตรงกลางที่มีรอยเปิดของวงกลมไว้บน ล่าง ซ้าย ขวา แล้วแต่เขาจะเวียนรูปไป กว่าจะรู้เรื่องว่าให้เราดูรูปข้างในนั่น อีตาคุณลุงคนนี้แกก็ไม่ยอมบอกแต่แรกว่ามีอยู่ สุดท้าย แกเลยอ่อนใจให้ป้าโซใส่แว่นดูจึงถึงบางอ้อ..  แล้วก็ไปสอบข้อเขียนที่มีอยู่สิบข้อ ป้าโซเลือกข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งพอสอบผ่านแล้วคุณลุงแกก็เรียกไปขับรถสอบเลย
ฟระ.. ไอ้ยังงี้มันไม่น่าจะเรียกว่าแปลงใบขับขี่นี่นา ไหนเรียกซะดิบดีว่าแปลงใบขับขี่ มันก็คือการสอบใหม่นั่นแหละ เขาแจกแผนที่สำหรับคอร์สที่จะต้องขับให้ วนไปเวียนมาซ้า.. ตอนสอบก็มีตำรวจคุมสอบนั่งไปกับเราด้วยสองคน ไปเช็คว่าเราทำผิดตรงไหนบ้างหรือเปล่า .. ป้าโซไม่ได้จับรถมาสามปีกว่าตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ เพิ่งได้จับพวงมาลัยก็ตอนนี้แหละค่ะ กรำ
ผลสอบออกมาว่า .. ไม่ผ่านตามการคาดหมาย  เรื่องการสอบทำใบขับขี่ของที่นี่ ใครสอบผ่านครั้งแรกได้นี่ถือว่าวันเด้อฟู้ลลลล เลยค่ะ  เพราะกฏเกณฑ์จุกจิกมากมาย หยุมๆหยิมๆ ซึ่งเวลาเราขับจริงๆ ไม่ได้ใช้เจ้าพวกนี้ซักกะหน่อย คนญี่ปุ่นเองส่วนมากเขาจะไปเรียนขับรถก่อนที่ร.ร.สอนขับรถก่อนจะมาสอบจริงค่ะ ซึ่งถึงแม้เรียนแล้วก็ยังไม่ผ่านในครั้งแรก
โดยรวมๆแล้ว ตำรวจที่นั่งไปด้วยบอกว่าการขับของป้าโซโอเค ใช้ได้ (ชนไม่ถึงตาย  ) แต่มีส่วนที่คนต่างชาติทั่วไปไม่รู้ ไม่คุ้นกับกฏการสอบของญี่ปุ่น ซึ่งต้องไปฝึกซักหน่อย กลับมาสอบอีกครั้งก็น่าจะผ่าน เขาว่างี้ ..  รู้แต่แรกงี้ว่าจะต้องแสดงท่าไหนตอนจะเลี้ยว ป้าโซเล่นละครลิงตบตาได้อยู่แล้นนน.. 
กลับมาบ้าน โทร.ไปเช็คราคาแค่ขอให้ร.ร.สอนขับรถ ช่วยสอนเรื่องการเหลือบซ้ายแลขวาเพื่อให้คุ้นกับกฏการสอบ แค่สิบห้านาทีฟาดไปห้าพันเยน โอ้..แม่เจ้า.. แต่ยังไงเดินหน้าแล้วก็ต้องลุยให้จนได้แหละค่ะ ไหนๆก็ไหนๆ มันจะซักเท่าไหร่กันเชียะ 
| Create Date : 06 ธันวาคม 2551 |
|
8 comments |
| Last Update : 6 ธันวาคม 2551 3:46:11 น. |
| Counter : 1269 Pageviews. |
|
 |
|
แล้วมันเกี่ยวกันยังไงล่ะนี่? 
แต่เราสามารถแปลงใบขับขี่ไทยเป็นญี่ปุ่นได้ โดยส่งใบขับขี่ไทยไปให้เขาแปลเอกสารรับรองให้ที่โตเกียวแล้วค่อยเอาไปแปลง..
เห็นลางๆ ไม่รู้ว่าจุดหมายคือวงกลมเล็กๆตรงกลางที่มีรอยเปิดของวงกลมไว้บน ล่าง ซ้าย ขวา แล้วแต่เขาจะเวียนรูปไป กว่าจะรู้เรื่องว่าให้เราดูรูปข้างในนั่น อีตาคุณลุงคนนี้แกก็ไม่ยอมบอกแต่แรกว่ามีอยู่ สุดท้าย แกเลยอ่อนใจให้ป้าโซใส่แว่นดูจึงถึงบางอ้อ.. 
แล้วก็ไปสอบข้อเขียนที่มีอยู่สิบข้อ ป้าโซเลือกข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งพอสอบผ่านแล้วคุณลุงแกก็เรียกไปขับรถสอบเลย 
เรื่องการสอบทำใบขับขี่ของที่นี่ ใครสอบผ่านครั้งแรกได้นี่ถือว่าวันเด้อฟู้ลลลล เลยค่ะ 
เพราะกฏเกณฑ์จุกจิกมากมาย หยุมๆหยิมๆ ซึ่งเวลาเราขับจริงๆ ไม่ได้ใช้เจ้าพวกนี้ซักกะหน่อย คนญี่ปุ่นเองส่วนมากเขาจะไปเรียนขับรถก่อนที่ร.ร.สอนขับรถก่อนจะมาสอบจริงค่ะ ซึ่งถึงแม้เรียนแล้วก็ยังไม่ผ่านในครั้งแรก 
) แต่มีส่วนที่คนต่างชาติทั่วไปไม่รู้ ไม่คุ้นกับกฏการสอบของญี่ปุ่น ซึ่งต้องไปฝึกซักหน่อย กลับมาสอบอีกครั้งก็น่าจะผ่าน เขาว่างี้ .. 
รู้แต่แรกงี้ว่าจะต้องแสดงท่าไหนตอนจะเลี้ยว ป้าโซเล่นละครลิงตบตาได้อยู่แล้นนน.. 
ป้าโซก็เป็นค่ะ อ่านรวดเดียวหลายๆเรื่อง แล้วอยากเม้นท์แต่ดั๊นไปกดเม้นท์ผิด โดนเจ้าของเขาหัวเราะมาเหมือนกันค่ะ 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [
