ชีวิตที่ไม่พอเพียง .. จึงต้องไขว่คว้าในมุมมองของสาวญี่ปุ่นบางคน
ที่ขึ้นชื่อบล็อกไว้อย่างนั้น ก็เป็นแค่แง่คิดของสาวญี่ปุ่นคนเดียวเท่านั้นแหละค่ะ สำหรับคนอื่นๆจะเป็นอย่างนี้ไหมไม่อาจทราบได้ เพราะป้าโซรู้จักคนน้อย ค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัวพอควร(แบบไม่มีใครเขาคบ)
วันก่อน..เป็นวันดูการเรียนการสอนที่ร.ร.เจ้าตัวเล็ก ได้คุยกับแม่เพื่อนเจ้าตัวเล็กคนหนึ่งซึ่งสนิทกันพอสมควรเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่ลูกเข้าป.๑ แม่ญี่ปุ่นคนนี้เธอพูดภาษาอังกฤษได้ และก็ชอบที่จะคุยกับป้าโซเป็นภาษาอังกฤษในยามที่เจอกันทุกครั้ง คิดว่าเธอคงเป็นหนึ่งในคนที่คลั่งไคล้เรื่องของต่างชาติต่างภาษาพอสมควร เพราะเธอจัดมีทติ้งที่บ้านเธอทุกเดือน เพื่อเชิญเพื่อนชาวต่างชาติให้มาทานข้าวสังสรรค์พูดจาภาษาอังกฤษที่เธอชอบ แต่.. ป้าโซไม่เคยไป
เรื่องราวของเธอผู้นี้ถูกเล่าจากปากเธอเอง ชีวิตแต่งงานของเธอมาจากการชักนำของแม่สื่อ เธอและสามีได้รับการแนะนำให้รู้จักกัน หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็แต่งงานกันเลยเพราะอายุพอควรแก่การมีครอบครัวแล้วทั้งคู่ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยพอใจชีวิตการแต่งงานครั้งนี้นัก ด้วยเหตุผลที่เธอบอกว่าสามีทำหนี้สินไว้เยอะ ต้องขายกิจการอสังหาริมทรัพย์ที่ให้เขาเช่าอยู่ เธอบอกว่าสามีเธอเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่เคยช่วยหยิบทำอะไรในบ้าน ไม่เคยออกความเห็นใดๆในบ้านทั้งสิ้น แม้กระทั่งเรื่องที่เกี่ยวกับลูก
สามีเธอเป็นตำรวจค่ะ วันๆออกไปทำงานพอกลับมาบ้านก็กินข้าวที่เมียเตรียมไว้แล้วก็สิงอยู่หน้าทีวี ฟังเหมือนเขามีโลกส่วนตัวของเขาแค่นั้น แต่งงานมาไม่เคยพากันออกไปเที่ยวนอกบ้านเลย เพราะสามีพอใจกับชีวิตส่วนตัวที่เป็นอยู่ ฝ่ายภรรยาทนอยู่ด้วยมาเจ็ดแปดปี มีลูกมีเต้าด้วยกัน จนถึงวันหนึ่งที่ภรรยาจะไม่ยอมทนอีกต่อไป
เธอเคยทำงานเป็นพนักงานขายของตามร้านค้าที่สนามบิน ได้รู้จักฝรั่งออสเตรเลียคนหนึ่ง ติดต่อคบหากันทางเมล์มานาน สถานะกับฝรั่งคนนี้เธอบอกว่าเป็นเพื่อนเท่านั้นค่ะ อันนี้ป้าโซก็ไม่ทราบว่าจริงเท็จประการใด แต่ฟังๆดูเธอค่อนข้างดิ้นรนไม่อยากอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้ว อยากไปใช้ชีวิตอยู่อีกประเทศหนึ่งเช่นออสเตรเลีย
ป้าโซก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไรเธอถึงต้องดิ้นรนขนาดนั้น เธอบอกว่าไม่อยากทำงานแล้วเสียภาษีแพงๆให้กับรัฐบาลญี่ปุ่น แต่ถ้าเธอไปอยู่ที่ออสเตรเลียแล้วต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง เธอก็ต้องเสียภาษีให้กับรัฐบาลออสเตรเลียอยู่ดีนั่นแหละ ซึ่งอัตราการเสียภาษีก็ใช่ว่าจะถูก..
ล่าสุดที่ป้าโซเจอเธอนั้น เธอเล่าว่าได้ติดต่อคบหากับชายออสเตรเลียอีกคนหนึ่งซึ่งเธอรู้จักทางเว็บหาคู่ เธอบอกว่าชายคนนี้เป็นคนมีมารยาท สุภาพไม่เคยพูดจาส่อไปในทางที่ไม่ดีเลย หลังจากแช้ทกันมาได้สักไม่กี่เดือน เธอก็บินไปพบเขาที่ออสเตรเลีย โดยฝากลูกสาวตัวเองไว้กับเพื่อนที่สนิทกันให้ช่วยดูแล เธอบอกว่าตัวจริงเขาดูใจเย็น ใจดี เป็นคนทำงานหนักมาก วันละสิบหกหรือสิบแปดชม.นี่แหละ ที่ต้องทำงานหนักขนาดนั้นเพราะเขาเลิกกับภรรยาซึ่งมีลูกด้วยกัน ภรรยาเขาทำหนี้สินรุงรังไว้ จนเขาต้องเอาบ้านไปจำนองและหย่ากับภรรยาในที่สุด แต่ด้วยกฏหมายของที่นั่นเขาก็ต้องส่งเสียค่าเลี้ยงดู และต้องหาเงินมาไถ่ถอนบ้านที่อยู่นี่ด้วย..
ดูเพื่อนป้าโซเธอก็เข้าใจถึงภาระของฝ่ายชายดี แต่เธอก็พร้อมจะเสี่ยงไปอยู่ที่ออสเตรเลีย.. กับเขา.. เธอคิดจะเอาลูกไปอยู่กับเธอ หย่ากับสามีให้เป็นเรื่องเป็นราว ไปอยู่ที่โน่นหางานหาการทำ ป้าโซติงหลายๆเรื่องให้คิดดูให้ดี การอยู่ในประเทศตัวเอง ถึงแม้จะแย่ทางความรู้สึกอย่างไรแต่ที่นี่ก็คือบ้านของเธอเอง เธอสามารถทำอะไรๆได้ทุกอย่าง เป็นพลเมืองชั้นหนึ่งของญี่ปุ่น แล้วการจะเอาลูกไปที่โน่นน่ะ ลูกเธอต้องปรับตัวมากมายแค่ไหน เพราะลูกไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้ว อยู่ป.ห้าแล้ว การเปลี่ยนแปลงอย่างมากขนาดนี้ คงทำได้ลำบากสำหรับเด็ก.. พอติงไปเช่นนี้ดูเธอก็หยุดชะงักอยู่เหมือนกัน
แต่ก็แค่ชะงักค่ะ เพราะเธอเตรียมตัวไปออสเตรเลียอีกครั้งหนึ่งปลายปีนี้ โดยส่งข้าวของเครื่องใช้ของเธอไปทางไปรษณีย์ให้ฝ่ายชายที่อยู่ทางนู้นรับไว้ เพื่อที่ว่าเวลาเดินทางจริงๆ เธอจะได้บอกกับสามีที่ยังอยู่ด้วยกัน(แต่เหมือนต่างคนต่างอยู่นะคะ.. เธอบอกงี้) ว่าเธอไปเกี่ยวกับเรื่องงานที่โตเกียว โดยเธอจะหิ้วแค่กระเป๋าใบเล็กๆไปใบเดียวเพื่อป้องกันการถูกสงสัย??
ก็คงต้องคอยดูต่อไปว่าเธอจะตัดสินใจกับชีวิตของเธออย่างไร ลำพังตัวเธอคนเดียวคงไปนานแล้ว แต่นี่เพราะลูกจึงทำให้เธอยังละล้าละลังอยู่..
เออเนาะ.. คนที่น่าจะอยู่อย่างสบายในประเทศของเขาเองอย่างญี่ปุ่น ก็ยังดิ้นรนอยากไปให้พ้นๆประเทศตัวเอง ขนาดประเทศเขาพร้อมออกอย่างนี้เนี่ยนะคะ?
ช่วงนี้จขบ. สันหลังงอกออกมาอีกหลายคืบค่ะ หันไปหันมาไม่รู้จะอัพอะไร มาเม้าท์เรื่องชาวบ้านแล้วกัน..
มีความสุขกันทุกๆคนนะคะ..
Create Date : 22 กันยายน 2552 |
Last Update : 22 กันยายน 2552 23:38:01 น. |
|
11 comments
|
Counter : 1392 Pageviews. |
|
|
|
เพื่อนคุณเตรียมการได้เนียนมากเลย
อยากทราบจังว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร