เรื่องกินเรื่องเล็ก
ความเดิมที่แล้ว เอ.. เกริ่นผิดค่ะ เกริ่นผิด.. เอาใหม่
สืบเนื่องมาจากตอนที่แล้วและก่อนหน้านั้น มีเพื่อนสมาชิก(ใครน้อ?? ) ทักถามมาเรื่องร้านรวงกับการกินเวลาไปเที่ยว และก่อนหน้าโน้นก็ถามเรื่องกินเจ
ป้าโซก็เลยไปแงะข้อมูลมา ได้คร่าวๆดังนี้ค่ะ..
เอาเรื่องกินเจก่อนนะคะ ถามว่าคนญี่ปุ่นมีประเพณีกินเจแบบบ้านเราไหม? ข้อมูล(คน)ที่ป้าโซแงะมาได้ เขาบอกว่าไม่มีนะคะ กินเจเป็นเรื่องเป็นราวแบบบ้านเราไม่มี มีกินมังสวิรัติบ้างแต่ไม่เยอะนัก
ญี่ปุ่น เป็นชาติที่ค่อนข้างรับเอาอาหารการกินของหลากหลายประเทศเข้ามาค่ะ(เหมือนบ้านเราแหละ) ทั้งฝั่งยุโรปและเอเชีย บางครั้งอาจปรุงแต่งให้เข้ากับรสปากของเขา แต่โดยรวมๆแล้ว เขาเปิดรับอาหารหลากหลายจากต่างประเทศมาก ใช่ว่าจะเน้นที่อาหารญี่ปุ่นของเขาเองอย่างเดียว เรียกว่าอะไรดีอะไรอร่อย พวกสรรหามากินมาลองกัน เรียกว่าเปิดใจรับมากกว่าภาษาที่ใช้
รู้สึกป้าโซจะเคยเล่าแล้ว ถ้าไม่ที่นี่ก็ที่เว็บบ้านเพลงฯ ที่ป้าโซเคยไปทานอาหารร้านพิซซ่า พาสต้า อะไรเทือกนั้นมา แล้วเจอกลุ่มคุณป้าคุณลุง (หรือจะเรียกว่าคุณปู่คุณย่าดีนะ?) วัยประมาณเจ็ดสิบขึ้น มาสั่งพาสต้าทานกัน ป้าโซค่อนข้างแปลกตาเพราะไม่ค่อยเคยเห็นคนแก่ๆทานของพวกนี้กัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เขาจะเน้นเรื่องบาล้านซ์ของอาหารกันค่ะ จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ลงท้ายแล้วถ้าดูกันจริงๆ จะเห็นว่าอาหารที่ทานๆกันนั้น เขาจะพยายามให้มีบาล้านซ์ตามหลักโภชนาการ ที่เห็นชัดๆก็คืออาหารที่โรงเรียนจัดให้เด็กนักเรียนทาน เขาจะมีเมนูแต่ละเดือนบอกมาเลยค่ะว่าวันไหนมีอะไรบ้าง และอาหารแต่ละอย่างกี่แคลอรี่ วัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหารให้ประโยชน์อะไรบ้าง
ยิ่งคนแก่ตัวลง ก็ยิ่งเน้นทานของแบบธรรมชาติมากขึ้น ปรุงแต่งให้น้อยที่สุด เช่น เต้าหู้หลากหลาย (ที่ว่าหลากหลายนี่ เพราะมีทั้งเต้าหู้นิ่ม แข็ง ไข่ งา ทอด..) ถั่วหมัก ผักสด ไชเท้าฝนดิบๆ และเน้นทานพวกปลามากกว่าเนื้อสัตว์ อาจเป็นเพราะความเบื่อหรือไม่ก็การย่อยง่ายของผู้สูงวัย
ตอนป้าโซมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ เห็นปู่ของเด็กๆทานข้าวบางมื้อแล้ว มีแค่ไชเท้าฝนๆ ก็เอามาเหยาะด้วยโชยุ ทานกับข้าว หรือไม่ก็ไข่ฟองนึงตอกใส่ชามข้าวร้อนๆ แล้วราดโชยุ คลุกๆๆ ก็อิ่มได้ เหมือนเขากินเพื่ออยู่ ป้าโซยังนึกว่าเขากินได้ยังไง? พออยู่ไปนานๆ เออ.. เจ้าไชเท้าฝนราดโชยุนี่มันก็อร่อยแฮะ ออกจะขึ้นจมูกนิดๆคล้ายวะซะบิ ได้อารมณ์ลุ้นดี หรือป้าโซจะแก่แล้วนี่?
นอกจากเรื่องอาหาร และอากาศแล้ว คนแก่ที่นี่เขายังพยายามออกกำลังกายหรือไม่ก็เคลื่อนไหวตลอดทำโน่นทำนี่อยู่เรื่อย บางคนกระย่องกระแย่งแล้วก็ยังอุตส่าห์เกาะรถเข็นสำหรับคนแก่ คล้ายๆรถเข็นเด็กอ่อน เพียงแต่ตรงที่นั่งเปลี่ยนเป็นกระเป๋าสำหรับใส่ของ เดินไปโน่นมานี่ ซุปเปอร์มั่ง หาเพื่อนฝูงตามบ้านใกล้ๆมั่ง บางคนขี่จักรยานไม่ไหวแล้ว หลังก็ค่อมแต่ก็ยังเข็นจักรยานค่อยๆเดินไป อาจจะด้วยความเคยชินที่เคยทำอะไรๆด้วยตัวเองมาตลอดชีวิตก็ได้ ที่ยังทำให้ยังทำอะไรๆด้วยตัวเองอยู่แม้จะแก่ปานนี้แล้ว แต่กิจวัตรเหล่านี้แหละค่ะที่ทำให้คนแก่ของญี่ปุ่นมีอายุยืนยาว อ้าว!! ป้าโซไปไหนแล้วนี่???
มาต่อด้วยเรื่องไปเที่ยวแล้วทานข้าวกันนะคะ..
จากที่เคยๆเห็นกันเรื่องอาหารญี่ปุ่นที่ดูน่าทานครบทั้งรูปทั้งรส ดูเป็นความพิถีพิถันในการกินของเขาใช่ไหมคะ? แต่อีกด้านหนึ่งเขาก็มีความเรียบง่ายค่ะ ด้วยความจำกัดเรื่องเวลา เรื่องความสะดวกในการหากิน และรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการกินด้วย..
ในยามเร่งด่วน อาหารยอดฮิตที่สุดก็คงไม่พ้นโอนิกิริหรือข้าวปั้นต่างๆ ไม่ก็พวกแซนวิชที่แพ็คพร้อมนำเข้าปาก เคี้ยวๆกลืนตามด้วยน้ำให้อิ่มท้อง พร้อมจะสู้รบปรบมือกับกิจกรรมต่อไปได้ ที่นี่จะมีร้านสะดวกซื้ออยู่มากมายหลายยี่ห้อ แต่ละร้านที่ขาดไม่ได้คือมุมอาหารเร่งด่วนนี่แหละค่ะ จะมีทั้งข้าวปั้น แซนวิช สำหรับคนที่พอจะมีเวลากินหน่อย ก็จะมีพวกอาหารกล่องง่ายๆ เช่น ยะกิโซบะ ข้าวแกงกะหรี่(ญี่ปุ่น) สปาเก็ตตี้ ข้าวกล่องชุดต่างๆ สลัด ซึ่งอาหารพวกนี้เวลานำไปจ่ายเงินเขาจะมีบริการอุ่นให้พร้อมรับประทาน
ป้าโซต้องพาเจ้าตัวเล็กออกตระเวณแข่งยูโดตามสถานที่ต่างๆ เวลาไปก็ต้องนัดพบกันทั้งกลุ่ม ไปกันเป็นทีมและเวลาที่นัดเจอกันก็เช้าพอควร บางครั้งหกโมงเช้าก็มี อาหารเช้าที่พึ่งเป็นประจำก็ร้านรวงพวกนี้แหละค่ะ ตอนแรกๆก็นึกสงสารลูกว่ามันจะอยู่ท้องรึ สารอาหารจะได้ครบรึ กับการกินลวกๆเช่นนี้? แต่พอคิดเข้าจริงๆ มันก็พออยู่ได้ค่ะ เพราะนอกจากข้าวแล้วไส้ของข้าวปั้นยังมีปลา หรือไม่ก็เนื้อ สาหร่ายปรุงรส หุ้มห่อข้าวด้วยสาหร่าย เรียกว่าเป็นบาล้านซ์เล็กๆสำเร็จรูปได้เหมือนกัน ที่สำคัญคือสะดวกมาก..
พอเขาอุ่นให้ก็นำกลับมาทานที่รถระหว่างเดินทางนั่นแหละค่ะ แกะห่อพลาสติกที่หุ้มตามหมายเลขที่เขากำกับไว้ ก็จะสามารถเอาสาหร่ายห่อข้าวปั้นสามเหลี่ยมที่มีไส้อยู่ข้างในถือกัดทานได้เลย มือก็ไม่เปื้อน จานช้อนก็ไม่ต้องใช้ พอทานเสร็จก็น้ำขวดที่ซื้อมาแหละค่ะ มีทั้งน้ำชาเย็น ชาร้อน กาแฟกระป๋องทั้งเย็นทั้งร้อน โกโก้สำหรับเด็กก็มี เปิดขวดดื่มกันเป็นอันเสร็จพิธีอาหารเช้า
การทานอย่างนี้เป็นการสะดวกที่สุด ประหยัดเวลา และราคาก็ไม่แพง เหมาะสำหรับเวลาเร่งด่วน แล้วค่อยไปเน้นที่อาหารกลางวันหรืออาหารเย็นที่พอจะมีเวลาทานได้อย่างสบายๆ
ส่วนเวลาไปเที่ยว ตามสถานที่ท่องเที่ยวบางที่แทบไม่มีร้านอาหารเลยค่ะ ยิ่งตามนอกเมืองด้วยแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งจะอิงกับธรรมชาติมาก เรียกว่าถ้าไปเที่ยวชม ก็เพื่อการนี้โดยเฉพาะ เรื่องปากท้องเป็นเรื่องรองๆไป บางแห่งอาจมีร้านอาหารจัดเตรียมไว้ แต่ก็น้อยร้าน อาหารที่ขายก็จะเป็นอาหารทำและทานง่ายๆ เช่นอุด้ง โซบะ ข้าวเปรี้ยวห่อเต้าหู้ ข้าวราดแกงกะหรี่ อะไรเทือกนี้ เรียกว่ากินเพื่อให้อยู่ๆท้อง
แต่สถานที่บางแห่งก็มีค่ะ ร้านอาหารที่จัดเป็นเรื่องเป็นราว หลากร้านแล้วแต่จะเลือกทาน อย่างที่ดะไซฟุที่ไปมานี่ เขาก็มีร้านอาหารหลายร้านอยู่หรอกนะคะ เพียงแต่กรณีพิเศษอย่างช่วงปีใหม่นี่ คนจะเยอะมาก บางคนคร้านที่จะรอคิวก็จะสะดวกซื้อของที่เขาขายตามแผงแบบงานวัดทานกันค่ะ ซึ่งแผงงานของกินที่มีอยู่ตามงานวัดนี่ เขาจะเปิดขายกันเมื่อมีเทศกาลเท่านั้นค่ะ สนนราคาของตามแผงพวกนี้ ตกอย่างละประมาณห้าร้อยเยน ถ้าคิดจะกินให้อิ่มจริงๆ ก็แพงกว่ากินตามร้านอาหารละค่ะ
ส่วนระหว่างการเดินทางระยะไกล ถ้าต้องขึ้นทางด่วนเขาก็จะมีที่พักตามรายทางให้ค่ะ ไม่ถี่ติดกันนัก ตามที่พักระหว่างทางเช่นนี้จะมีห้องน้ำแยกชายหญิงบริการฟรี มีตู้กดอัตโนมัติชายน้ำขวด น้ำกระป๋อง ไอติม กาแฟร้อนเย็น มีร้านสะดวกซื้อ บางแห่งที่ใหญ่หน่อยก็อาจจะมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกซึ่งจะมีของมีชื่อของพื้นที่นั้นๆขายด้วย บางแห่งก็จะมีแผงขายของกินเล่น เช่นไก่ทอด ทะโกะยะกิ(ขนมครกญี่ปุ่น) มันฝรั่งทอด ลูกชิ้นปลาต่างๆ ซาลาเปา เบอร์เกอร์ ไส้กรอก.. เทือกนี้ขายค่ะ
เริ่มหิวแฮะ ว่าแล้วคนเล่าก็ไปหาของเช้าทานล่ะค่ะ
แล้วพบกันใหม่ค่ะ .. สวัสดี ..
Create Date : 17 มกราคม 2552 |
Last Update : 17 มกราคม 2552 8:01:59 น. |
|
19 comments
|
Counter : 982 Pageviews. |
|
|
|
โดย: joblovenuk วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:8:46:50 น. |
|
|
|
โดย: ga_tan_u วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:11:43:43 น. |
|
|
|
โดย: tiktoth วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:14:47:51 น. |
|
|
|
โดย: Goizd วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:15:59:31 น. |
|
|
|
โดย: ปรานทยา วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:1:16:05 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:2:09:20 น. |
|
|
|
โดย: บูม IP: 124.121.63.254 วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:9:25:59 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:23:29:54 น. |
|
|
|
โดย: ฟองสมุทร IP: 203.114.122.27 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:13:50:15 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:14:38:31 น. |
|
|
|
โดย: Koneko-chan (GutChy ) วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:20:52:12 น. |
|
|
|
โดย: แม่เจ้าสตีเว่น IP: 88.89.10.47 วันที่: 20 มกราคม 2552 เวลา:13:58:17 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 20 มกราคม 2552 เวลา:22:29:10 น. |
|
|
|
โดย: คุณน้องนุช IP: 61.91.161.44 วันที่: 21 มกราคม 2552 เวลา:19:57:43 น. |
|
|
|
โดย: แฟนคลับ (ก้าวไปตามใจฝัน ) วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:11:29:02 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
คุรุเม่ ฟุกุโอกะ Japan
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]
|
สวัสดีค่ะ ..
ป้าโซอยู่อำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งในจังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งอยู่ในเกาะคิวชู เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น
เรื่องราวที่เล่าๆสู่กันฟังนี่ มาจากประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งสอดแทรกความคิดเห็นเข้าไปด้วย อันไหนไม่เข้าทีก็อ่านผ่านๆไปละกันนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาค่ะ
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|