อิจิเมะ..การกลั่นแกล้ง รังแกเพื่อน.. ข่าวดัง ณ ตอนนี้ของที่นี่
ว่าจะไม่..จะไม่แล้วเชียว ในการอัพเรื่องนี้.. เพราะหลายเหตุผลอยู่ อันดับแรกเลยคือมันเป็นเ่รื่องที่น่าสลดหดหู่อย่างยิ่งสำหรับป้าโซเวลาได้ยินได้ฟังเรื่องอย่างนี้ เหตุผลต่อๆมาก็คืออิฉันมันขี้โม้.. เล่าสั้นๆกับเค้าไม่เป็น พอได้เล่าละยาวววว.. กลัวจะจบไม่ลง แต่ก็อดเล่าสู่กันฟังไม่ได้.. แว่บ..ดอกที่หนึ่ง.. พอใช้คำว่า "เล่าสู่กันฟัง" อดนึกถึงขำขันไม่ได้ คงเคยอ่านๆกันบ้างแล้วเรื่องสาวคนนึงถูกข่มขืนก็ไปแจ้งความที่โรงพัก เล่าให้ตำรวจฟังด้วยอารมณ์ประมาณ อุ๊ย.. ว้าย.. เจอเข้าไปกี่ดอก ออกทำนองหนุกหนานพึงพอใจ ตำรวจเลยถามว่าแล้วมาแจ้งความนี่จะเอายังไง สาวก็บอกว่า เ่ล่าสู่กันฟังฮ่่ะ.. แล้วก็สะบัดตรูดออกไปจากโรงพัก .. อ่ะ..มาเข้าเรื่องจ้ะ ทะลึ่งตะหัวบล็อกเลย นี่เป็นบล็อกออกแนวเครียดนะคร้าาา.. เริ่มต้นก็เหมือนไม่เครียดเลยนิ เอาน่ะ..ปนๆกันไป ตอนนี้เรื่องที่ำกำลังเป็นข่าวทุกวันของที่นี่ คือการสืบสาวราวเรื่องของเด็กนักเรียนชายชั้น ม.2 ฆ่าตัวตาย เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เป็นข่าวอยู่ไม่เท่าไหร่ก็ห่างหายไปตามเวลา ณ ตอนนั้นข่าวออกมาว่าที่เด็กฆ่าตัวตายนั้นเนื่องมาจากสาเหตุที่ถูกเพื่อนแกล้งที่ร.ร. (อิจิเมะ) หรือเปล่า? แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ ข่าวก็เงียบๆไป จนมาเมื่อเร็วๆนี้ข่าวนี้ก็กลับมาอีกครั้ง มาคราวนี้เนื่องจากการฟ้องร้องของพ่อแม่เด็กที่ฆ่าตัวตาย เรื่องราวที่เกิดขึ้นมีอยู่ว่า.. เด็กคนนี้ถูกเพื่อนแกล้งที่ร.ร.มาตลอด ถูกชก ถูกเตะ ถูกบังคับให้กินผึ้งตาย ถูกรีดไถเงิน.. พวกเค้าเรียกการกระทำแบบนี้ว่าการฝึกเืพื่อฆ่าตัวตาย ที่แย่ก็คือเด็กคนที่ถูกแกล้งนั้นได้ไปบอกครูประจำชั้น ได้โทร.ไปร้องไ้ห้เล่าเรื่องที่ถูกเพื่อนแกล้งให้ครูประจำชั้นฟังหลายครั้ง แต่ได้รับการเพิกเฉยจากครู บางครั้งครูก็หัวเราะด้วยซ้ำบอกไม่เป็นไรน่า.. (เออ..ให้ลูกครูมาถูกยังงี้บ้างแล้วจะดูซิว่าจะยังไม่เป็นไรอยู่อีกมั้ย ไอ้คนไม่มีความสำนึกของความเป็นครู ไม่น่าเรียกครูเล้ยยย ใ้ห้มันตายห่านสิ!!! ขอโทษ..อารมณ์ร่วมของผู้เขียน ) เด็กได้ออกปากว่าเขากำลังจะตาย ไอ้พวกเลวนั่นก็บอกว่า.. "แกสมควรตายได้แล้ว" หลังจากนั้นไม่นานเด็กก็กระโดดตึกชั้นสิบสี่ที่อยู่อาศัยตกลงมาตาย.. สิ้นเวรไปนะลูก.. ป้าโซฟังข่าวนี้แล้วอกใจแห้งผาก..มันปวดร้าวมากกว่าการร้องไห้ออกมาดังๆซะอีก ด้วยหัวอกคนเป็นแม่ที่มีลูกชายในวัยเดียวกัน อายุ 13-14 ปีควรเป็นวัยที่สดใสสนุกสนาน ทุกอย่างในชีวิตน่าสนใจน่าค้นคว้าน่าเสาะหาเรียนรู้ แต่แล้วก็ต้องมารับความทรมานกายใจ ตกนรกทั้งเป็นอยู่ทุกวันโดยที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ด้วยความเป็นเด็กจะแก้ไขอย่างไรก็ต้องพึ่งความคิดเห็นของผู้ใหญ่ช่วยด้วยแหละ แล้วดูไอ้ผู้ใหญ่ที่ถูกเรียกว่าครูซิ.. มันทำอะไร? .. แต่มันก็มีจุดที่ป้าโซไม่เข้าใจ คือทำไมพ่อแม่ไม่หารือกับทางครู ทางร.ร. แย่ที่สุดก็น่าจะย้ายร.ร.ลูกได้ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการย้ายร.ร.จะยากลำบากแค่ไหนยังไง ทำได้หรือเปล่า ? ข่าวบอกว่าทางพ่อแม่เด็กไปแจ้งความตำรวจ เพื่อทำเรื่องฟ้องร้องว่าเป็นการตายจากการถูกกลั่นแกล้งซึ่งทางร.ร.ไม่รับฟังการร้องเรียนของเ้ด็กที่ตาย แต่ทางตำรวจบอกว่าหลักฐานไม่พอที่จะดำเนินเรื่องได้ การฟ้องร้องจึงถูกเลื่อนกำหนดเวลาไปจนเก้าเดือนเข้านี่.. จะด้วยหลักฐานไม่เพียงพอหรือเพราะสาเหตุอื่นอันใด มันมีความเป็นไปดังนี้.. หลังจากที่เด็กเสียชีวิตลง ทางร.ร.ได้ออกแบบสอบถามให้เด็กๆในร.ร.กรอกว่าใครเคยพบเห็นการกลั่นแกล้งนักเรียนรายนี้หรือไม่? มีแบบสอบถามตอบกลับมาสิบกว่าฉบับ แจ้งว่ามีการกลั่นแกล้ังจริงๆ รายงานตามความจริงว่าเห็นเพื่อนคนที่ตายถูกกระทำอย่างไรบ้าง แต่แล้วหลักฐานแบบสอบถามพวกนี้กลับถูกทางร.ร.ดึงออก.. เพื่อเหตุอันใด?? ค้นต่อไปค่ะ.. เด็กกลุ่มที่แกล้งเพื่อนนั้น ตัวหัวโจกมีพ่อเป็นประธานสมาคมผู้ปกครองของร.ร. (พีทีเอ) เป็นเจ้าของกิจการที่มีหน้าตาชื่อเสียงในเมืองนั้น แต่จะมีอำนาจสนับสนุนอะไรทางการเมืองหรือเปล่านี่ ?? ..หนึ่งปัจจัยที่ควรมอง ค้นต่อไป.. เมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว พ่อเด็กที่เป็นหัวโจกได้จัดการย้ายร.ร.ลูกไปเรียนที่อื่น เรื่องราวทางร.ร.ก็เงียบไป ทางตำรวจก็เงียบไป .. ฝ่ายพ่อแม่เด็กที่ตายก็พยายามหาหลักฐานมาร้องเรียนให้ได้ เ้ก้าเดือนต่อมาข่าวนี้จึงปะทุขึ้นอีกครั้ง คราวนี้สื่อเล่นด้วย.. สามัญสำนึกของสื่อนี่ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ทางธุรกิจ อันไหนมีคนสนใจมากเขาก็เล่นให้ อันไหนไม่มีผลตอบแทนคุ้มค่าก็ผ่านๆไป คราวนี้เมื่อสื่อมาเล่นด้วย ก็เป็นจุดสนใจของคนทั้งปท. จึงมีการเคลื่อนไหวส่งตำหนวดไปค้นหลักฐานทางร.ร. กลุ่มครูมาเปิดแถลงข้อเท็จจริง(เท็จอย่างเดียวรึป่าววะ?) และเพราะความสนใจของคนทั้งประเทศนี่เอง .. คราวนี้จึงเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในญี่ปุ่น นั่นคือการเปิดเผยชื่อเสียง ใบหน้า ประวัติ ของผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ ปกติทางญี่ปุ่นจะปกป้องเรื่องสิทธิมนุษยชน.. ไพรเวซี่ .. อะไรเทือกนี้มาก ขนาดคนตายยังลงแค่รูปถ่ายมีตอนมีชีิวิต ขึงพลาสติกบังสายตาภาพคนตายจากสายตาทั่วไปไม่ให้ออกสื่อ ไม่มาอ้าซ่าอย่างนสพ.บ้านเรา .. คราวนี้มีการค้นหาชื่อเด็กกลุ่มกระทำการรังแก พอได้ชื่อมาก็ต่อเนื่องไปถึงรูป ครอบครัว มาแฉโพยว่อนทางอินเตอร์เน็ต แน่นอน.. ไม่ได้พาดหัวออกสื่ออย่างนสพ.หรือทีวีหรอกจ้ะ.. เด๋วถูกฟ้องร้อง แวดวงอินเตอร์เน็ตมีคนเข้าไปโพสต์แสดงความโกรธ ไม่พอใจกับการรังแกเด็กจนตายมาก ถึงแม้จะเอาผิดไม่ได้แต่ชีวิตของเด็กคนนี้คงต้องมีตราไปตลอดกับสายตากล่าวหาของคนทั่วไป เป็นการลงโทษทางสังคมอย่างนึง คุ้มไหมนี่กับการกระทำโดยไม่คิดของเด็ก และโดยไม่มีการตักเตือนอบรมสั่งสอนที่ถูกต้องจากทางบ้าน? รู้สึกจะมีการให้ออกแบบสอบถามอีกครั้งหนึ่งกับนักเรียนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ลุงว่าเป็นการดีเพราะ่น่าจะยังมีเด็กอีกเยอะที่ไม่กล้าออกมาพูดความจริงเพราะกลัว แต่ถ้าไม่พูดออกมาเด็กเหล่านั้นก็เป็นบาปในใจของแกอีก เปิดโอกาสให้แกได้แสดงออกอีกครั้งอย่างนี้น่าจะเป็นการดีสำหรับจิตใจเด็ก ไหนๆก็ไหนๆ มาต่อกันอีกเล็กน้อยถึงสังคมที่นี่.. อันที่ป้าโซก็เพิ่งรู้ต่อเนื่องมาจากข่าวนี้ ก็เรื่องครูนี่แหละ.. ลุงขยายให้ฟังว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่มในปท. ซึ่งมีพวกครูและพวกรับราชการอยู่ด้วยเป็นพวกต่อต้านทางการ ไม่ยอมร้องเพลงชาติ ไม่ยอมยืนให้ความเคารพเพลงชาติ พวกเขาบอกว่าเป็นสิทธิ์ส่วนตัวที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้ ใครจะมาบังคับไม่ไ้ด้ เขาไม่ได้ทำผิด (แต่แนวความคิดขัดแย้งกับทางการเท่านั้น) มันก็ไม่แปลกอะไรถ้าคนพวกนี้ส่วนหนึ่งจะไม่ใช่ครูซึ่งทำหน้าที่สอนเด็ก และไปสอนแนวความคิดแปลกๆเข้าน่ะสิ.. เป็นต้นว่าครูที่โอกินาว่า .. จังหวัดซึ่งเป็นเกาะนี้ต่อต้านฐานทัพของอเมริกามาตลอด เวลาเครื่องบินทหารของอเมริกาบินผ่านครูก็ชี้ไปที่หน้าต่างแล้วบอกเด็ก.. "นั่น..เครื่องบินลำนั้นเข่นฆ่าคนมาตั้งเท่าไหร่ เป็นพวกที่ฆ่าเวียดนามเป็นเบือ" มันก็เป็นความจริงอย่างที่ครูพูดน่ะแหละ แต่การนำสิ่งเหล่านี้มาใ่ส่ในสมองเด็กกึ่งยัดเยียด ตอกย้ำอย่างนี้ มันเป็นการสอนโดยนำความรู้สึกส่วนมาตัวใส่เข้าไปด้วย สมควรอยู่รึ? "เอ้า..นักเรียน เวลาเลือกตั้งบอกพ่อแม่ให้มาเลือกคนนี้นะ" .. ฟังแล้วคงไม่แปลก ถ้าครูประจำชั้นของเด็กคนที่ฆ่าตัวตายจะไม่สนใจจริงจังในเรื่องที่เด็กถูกแกล้ง สังคมที่นี่บางทีก็แปลกอย่างไม่มีเหตุผล.. คือเขาอาจมีเหตุผลของเขาก็ได้แต่เราฟังแล้วมันไม่มีเหตุผลสำหรับเรา เช่น นักโทษชายอะซะฮะระ ผู้ก่อตั้งลัทธิโอมชินริเกียวที่ให้สาวกปล่อยแก๊สพิษฆ่าผู้คนในสถานีรถไฟใต้ดินเมื่อ 17 ปีที่แล้ว จนป่านนี้ทั่นก็ยังนั่งกินนอนกินสุขสบายอยู่ในคุก แทนที่จะได้รับโทษประหารชีวิต จริงๆการพิพากษาดำเนินไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วว่าให้ประหารชีิวิต รออยู่แค่ลายเซ็นแกร๊กเีดียวของผู้มีอำนาจสูงสุดทางกระทรวงยุติธรรม ซึ่งยังไงซะก็ไม่ยอมเซ็นด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากได้ชื่อว่าฆ่าคน??.. เออเนาะแล้วไอ้หมอนั่นฆ่าชีิวิตคนบริสุทธิ์ไปตั้งเท่าไหร่ เจ็บอีกตั้งเท่าไหร่? โทษของที่นี่เบาจริงๆ ตราบใดที่ยังไม่ยอมรับจากปากตัวเองว่าทำผิด ก็จะยังไม่ได้รับโทษอยู่อย่างนั้น อมคำพูดไว้แล้วก็นั่งๆนอนๆอยู่ในคุกนั่นแหละ บางคนเค้าก็เลือกที่จะขโมยของเล็กๆน้อยๆแล้วเข้าไปนั่งๆนอนๆอยู่ในคุก ไม่ต้องออกมารับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีิวิตของตัวเองนอกคุก ให้รัฐเลี้ยงไป.. หุหุ.. ทำไปทำมากลายเป็นบ่นส่งท้ายบล็อกซะนี่ ลากันดีกว่าค่ะ อ่านไว้ใช่ว่าก็แล้วกันเนาะ พบกันใหม่บล็อกหน้า..สวัสดีค่ะ..
Create Date : 17 กรกฎาคม 2555
Last Update : 17 กรกฎาคม 2555 15:44:37 น.
19 comments
Counter : 6323 Pageviews.
โดย: Hana* วันที่: 17 กรกฎาคม 2555 เวลา:17:40:11 น.
โดย: simplyusana วันที่: 17 กรกฎาคม 2555 เวลา:19:37:56 น.
โดย: Kitakaze วันที่: 17 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:21:05 น.
โดย: apple.007 วันที่: 17 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:08:29 น.
โดย: luna_kawaii วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:0:39:09 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:0:55:11 น.
โดย: taiyokun วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:4:30:47 น.
โดย: Bkkbear วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:55:12 น.
โดย: แม่บ้านเกาหลี IP: 59.9.29.63 วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:12:04:57 น.
โดย: Dingtech วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:20:39:46 น.
โดย: aew_ IP: 1.2.151.152 วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:33:09 น.
โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:19:05:56 น.
โดย: yyswim วันที่: 20 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:31:34 น.
โดย: haiku วันที่: 20 กรกฎาคม 2555 เวลา:23:16:38 น.
โดย: หวงหลิง วันที่: 12 สิงหาคม 2555 เวลา:16:39:54 น.
Location :
คุรุเม่ ฟุกุโอกะ Japan
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [? ]
สวัสดีค่ะ .. ป้าโซอยู่อำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งในจังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งอยู่ในเกาะคิวชู เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น เรื่องราวที่เล่าๆสู่กันฟังนี่ มาจากประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งสอดแทรกความคิดเห็นเข้าไปด้วย อันไหนไม่เข้าทีก็อ่านผ่านๆไปละกันนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาค่ะ
1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30 31
เรื่องเส้นสาย..ความไม่เป็นธรรมทางสังคม..
การถูกผู้แข็งแรงกว่า(และเกเรกว่า) ทำร้าย..
มีใครบางคนเคยชื่นชมประเทศนี้ให้ขวัญฟัง
จนขวัญออกปากว่า..น่าจะย้ายไปอยู่ที่โน่น..
อยากรู้จังว่าถ้ามาอ่านเรื่องนี้...
แล้วจะพูดว่าอะไร แต่ขวัญคิดว่าน่าจะเดาถูก
"เรื่องแบบนี้มันก็มีทุกที่แหละคุณ...มันไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย
มันอยู่ที่คนต่างหาก เนอะคนดีเนอะ"
ต้องพูดแบบนี้แน่ๆ...
ทักทายยามเย็นค่ะป้าโซ...
ป่านนี้ป้าโซคงอิ่มอาหารค่ำแล้ว..
แต่ขวัญเพิ่งจะทานยาก่อนอาหารเองค่ะ..
คิดถึงนะคะ