คนแก่กับญี่ปุ่น..
ประเทศนี้ได้ชื่อว่ามีพลเมืองที่อายุยืนยาวติดอันดับโลกอย่างที่เราๆได้ทราบกันมาแล้ว สาเหตุของการมีชีวิตยืนยาวได้อย่างนี้ ไม่สามารถบอกเฉพาะเจาะจงได้หรอกมังคะว่าเพราะอะไร แต่ก็มีหลายปัจจัยเช่น เรื่องอาหาร เรื่องอากาศ การวางผังเมืองจัดสัดส่วนของที่อยู่อาศัย โซนอุตสาหกรรม นอกเหนือไปจากนั้นรัฐบาลเขาก็ดูแลคนของเขาได้เป็นอย่างดีไม่ว่าในเรื่องเบี้ยเลี้ยงที่ให้กับผู้สูงวัยที่เกษียณไปแล้ว และที่สำคัญก็คือด้านการรักษาพยาบาล การดูแลด้านนี้จะค่อนข้างทั่วถึง คนของเขาเลยมีสุขภาพที่ดี ประกอบกับการให้ความรู้ในด้านการดูแลรักษาสุขภาพด้วย
แต่..ก็มีผลตามมาอีกเช่นกัน นั่นคือในเมื่อผู้สูงวัยเหล่านี้มีอายุยืนยาวขึ้นเรื่อยๆ ค่าใช้จ่ายในการดูแลก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ส่วนหนึ่งได้มาจากการเก็บภาษีจากคนวัยทำงานนั่นเอง จากการเปรียบเทียบเมื่อก่อนนี้คนทำงาน 1 คนจ่ายภาษีซึ่งสามารถครอบคลุมดูแลผู้สูงวัยได้ 0.25 คน แต่ปัจจุบันนี้สัดส่วนได้เปลี่ยนไป คนทำงานคนเดียวไม่ใช่เพื่อผู้สูงวัยครึ่งคนหรือคนเดียวซะแล้ว แต่กลายเป็นเพื่อ 3-4 คน
อายุการเกษียณงานของคนที่นี่ จากก่อนเริ่มจากอายุ 58 แล้วก็ขยายมาเรื่อยๆเป็น 60, 65 ตามลำดับซึ่งใครจะรู้ อาจจะขยายออกไปเป็นถึง 70 ปีก็ได้ เบี้ยเลี้ยงในการจ่ายให้กับผู้เกษียณอายุ เป็นปัญหาของรัฐบาลอย่างหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งเบี้ยเลี้ยงแต่ละคนจะมีระดับที่ 5-6 หมื่นเยน ถึง 130,000 เยนต่อคนต่อเดือน
เคยมีโปรโมชั่น รูปแบบของการเลือกรับเบี้ยเลี้ยงว่าจะขอรับทีเดียวเป็นก้อน หรือจะรับเป็นรายเดือนจนตาย คนเลือกก็ต้องคำนวณการมีชีวิตอยู่ของตัวเองให้ดี ว่าฉันคิดว่าจะมีชีวิตอยู่ยาวได้ถึงอีกกี่ปี? เพื่อรับเงินเบี้ยเลี้ยงจากรัฐบาล เช่น คิดว่าตัวเองจะมีอายุมากที่สุดถึง 80 ปี ก็ขอรับเบี้ยเลี้ยงจนถึงแปดสิบปีนั้นมาก่อนเป็นก้อน ถ้าโชคดีตายก่อนอายุ 80 ก็ถือว่าได้กำไร แต่ถ้าดันมีอายุยืดออกไปเกินแปดสิบ ก็..ลำบากหน่อยนะคะคุณตาคุณยาย .. อยู่ที่ความเมตตาของลูกหลานกันละค่ะ
เรื่องการขอรับก่อนนี้ จะมีบวกเพิ่มเพื่อชักชวนหรือเปล่าอันนี้ป้าโซไม่แน่ใจค่ะ เพราะคนแปลให้ฟังก็ฟังไปแปลไป ไม่ทราบว่าฟังหมดทุกขั้นตอนหรือเปล่า ส่วนคนที่ไม่เลือกรับก่อน ก็รับเป็นเดือนตามจริงไปได้ค่ะ ที่มีคนเลือกอย่างนี้เพราะบางคนอาจมีภาระหนี้สินหรืออะไรที่ต้องการเงินก้อนมาบรรเทา
ที่พูดมานี่ พูดถึงคนแก่ที่มีสิทธิ์รับเบี้ยเลี้ยงจากรัฐบาลนะคะ ป้าโซเข้าใจว่าก็พวกที่เคยทำงานรัฐบาล รัฐวิสาหกิจอะไรนั่นแหละค่ะ ส่วนคนที่ไม่ได้ทำงานกับภาครัฐ อันนี้จะมีสิทธิ์ได้รับหรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ .. รายการที่เขาเอามาเล่า ถ่ายทำให้เห็นคนแก่บางคนที่ลำบาก เงินไม่พอจ่ายค่าไฟก็อยู่มืดๆ กินข้าวมืดๆ บางคนลูกเต้าสามีภรรยาตายหมดแล้วก็มี อยู่คนเดียวซึ่งเคยมีนะคะ.. ที่ตายไปแล้ว 3 ปีก็ยังไม่มีคนรู้
เดี๋ยวนี้ คนหนุ่มๆสาวๆเลยมีลูกกันน้อยลง เพราะค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูก ไหนจะต้องรับภาระเลี้ยงดูปู่ย่าตายายพ่อแม่ที่ไม่มีเงินได้อีก ลองคิดดูแล้วกันค่ะ ว่าการมีลูก 1 คนและเลี้ยงพ่อแม่อีก 2 คนนั้นสำหรับสภาพเศรษฐกิจที่นี่ ค่อนข้างลำบากค่ะ เมื่อแต่ละคนมีลูกน้อย ประชากรต่อไปในอนาคตก็จะมีแต่คนแก่ที่เพิ่มปริมาณมากขึ้น เป็นปัญหาที่ภาครัฐต้องแก้ไข เอ..คลับคล้ายคลับคลาว่ามีโปรโมชั่น (อีกแระ) ใครมีลูกเกินสองหรือสามคนเนี่ย คนที่สามจะได้ฟรีค่าอะไรซักอย่างนี่แหละค่ะ อย่าไปรู้เลย เพราะตอนนี้เราคุยกันเรื่องปู่ๆ ที่เป็นคนแก่
Create Date : 04 ธันวาคม 2551 |
|
6 comments |
Last Update : 4 ธันวาคม 2551 0:23:59 น. |
Counter : 2489 Pageviews. |
|
|
|
//theplants.multiply.com/