เปิดบ้านป้าโซในญี่ปุ่น ... ตอนสุดท้าย
ผ่านมาหลายห้องเอาการอยู่ ห้องแรกๆนั้นมีบทบรรยายความเป็นมาอยู่บ้าง ตามความแปลกที่ไม่ค่อยเหมือนไทยเรา แต่ห้องนี้จะเหมือนละจ้ะ เพราะเป็นห้องที่ใช้งานมากที่สุดในบ้านนั่นคือห้องนั่งเล่น กินๆ นอนๆ ดูทีวี หรือที่ฝรั่งเรียกว่าลิฟวิ่งรูม(กรุณาออกสำเนียงแดะนิดส์ๆ พอเป็นกระษัย)
ห้องนี้ไม่บรรยายมากละ เพราะช่วงนี้คนอัพตัวขึ้นขนเพียบ ให้รูปบรรยายตัวเองละกันนิ
เช่นเคย.. เราหยุดความ(ดูเหมือน)เป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องต่างๆภายในบ้านไว้แค่บล็อกก่อนๆหน้านี้ เพราะห้องต่อจากนี้ไปจะเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง มั่วซั่ว สุมๆ กองๆ ตามประสาห้องที่ถูกใช้งานมากที่สุด มีอะไรพวกก็เอามาหมกๆกองๆไว้ตรงนี้ ไอ้รื้อลงมาจากห้องตัวเองน่ะทำได้ แต่เวลาเอาเข้าที่ ทำมั้ยยย..มันยากเย็นแสนเข็ญ?
หนึ่งในคนที่นำสารพัดรกมาสุมๆกองๆ คนนี้แหละหนักหนาที่สุดในบ้าน บ่นทีก็.. "คร้าบบบ.. คร้าบบบ.. เ้ข้าใจแล้วคร้าบแม่" .. แล้วมันก็ย้ายจากที่นึงไปวางอีกที่นึง มันต่างกันตรงไหน?
อ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าไอ้ที่มันรกๆน่ะ คือเรื่องเรียน วันที่ถ่ายรูปนี่มันมีแต่เรื่องการบ้านให้เห็น แต่วันอื่นๆมันมิใช่เช่นนี้ จะสุมไปด้วยการ์ตูน สารพันเกม ขนมของกินเล่นเกลื่อนกลาด
มุมสงบของป้าโซ ยกเครื่องหันไปหันมาแล้วแต่ความสะดวกในการใ้ช้งานในแต่ละครั้ง เดี๋ยวเล่นคอมพ์บนโต๊ะมั่ง เดี๋ยวเล่นตรงที่ของมันมั่ง เห็นรึเปล่าว่าหน้าจอคาเว็บอะไรไว้อยู่?
ทีวีและแฟ็กซ์ยังเป็นรุ่นดึกดำบรรพ์ รออัฐว่างจากการถูกใช้งานก่อนค่อยเปลี่ยนรุ่นเดิ้นๆ
ถัดไปเป็นมุมแห่งความรุงรัง มุมแห่งปากท้องของคนทั้งบ้าน "ไดโดะโกะโหระ" .. ห้องครัวจ้ะ
ด้วยพื้นที่จำกัด จึงมีพวกแขวนๆเต็มไปหมด อย่ามีเนื้อที่นะ แม่แขวนแหลก ตะก่อนตอนอยู่เมืองไทย เห็นร้านขายของร้อยเยนที่เปิดขายที่บ้านเราเค้ามีพวกตะแกรงที่ทำห่างๆเป็นตารางกับตะขอ ยังไม่เก็ทว่าเค้าเอาไว้ทำไม บัดนี้รู้แจ้งเห็นจริงแล้ว แต่ลุงไม่ค่อยนิยมพวกตารางสำหรับแขวน นิยมแค่ตะขอเกี่ยวโน่นนี่
ให้ทายว่าไอ้ถุงดำๆที่ห้อยตรงอ่างล้างจานคืออะไร?.. ติ๊กต่อกติ๊กต่อกติ๊กต่อก.. กริ๊งงง หมดเวลา.. เฉลย-->> ถุงชงชาแบบร้านกาแฟอาโก.. สมบัติสุดหวงของเจ้าโตซึ่งชอบชาเย็นแบบไทยๆเราอย่างมาก คุณยายก็สรรหามาให้หลานเลิฟ ทั้งญี่ปุ่นมีอันเดียวนะเนี่ย
ถังขยะที่บ้านถังเีดียวไม่พอ เพราะกว่าจะถึงวันทิ้งขยะก็เต็มแล้วเต็มอีก อย่ากระนั้นเลยแยกขยะเปียกแบบทิ้งเศษอาหารกับขยะแห้งที่ทิ้งแต่พวกกระดาษ พลาสติกเถอะ พวกขยะแห้งเต็มแล้วยังมัดเอาไปไว้นอกบ้านได้โดยเจ้าแมวไม่มารบกวนตะกุย
ไอ้ที่เห็นหม้อแขกโตๆนั่น แกงกะหรี่ญี่ปุ่นฝีมืออิลุงเค้าหละ ทำทีกินไปสามวัน
ขอแนะนำสาวน้อย.. "สวัสดีนินเกียว" หรือ ตุ๊กตาสวัสดี(ค่ะ) สาวน้อยคนนี้แรกๆที่ยังไม่ชินเดินขึ้นเดินลงทีก็สะดุ้งเฮือกๆ หรือกำลังทำความสะอาดตรงเชิงบันไดก็ให้รู้สึกเสียวสันหลังแว้บว่าเหมือนมีคนยืนดูเราอยู่ ต่อมาเริ่มทำความคุ้นเคยกับเธอได้ ดีที่บันไดตามไฟไว้ตลอดในตอนกลางคืนเลยไม่ต๊กกะใจเท่าไหร่
ที่พาสาวน้อยคนนี้มาที่นี่ก็เนื่องจากความรู้สึกไทยๆไกลบ้านน่ะแหละ แปลกนิ..ที่เวลาอยู่บ้านเรา ตุ๊กตาไทยๆพวกนี้เราเดินผ่านไปผ่านมาจนชินสายตา ไปที่ไหนก็เจอ ไม่จำเป็นต้องหิ้วกลับมาบ้าน แต่พอเวลาออกนอกบ้านเมืองตัวเองละ โหยหา .. ชั้นต้องหิ้วไปสวัสดีจ๋็าจ้ะด้วย กลายเป็นสิ่งล้ำค่าทางใจอย่างนึงไปซะนี่
ยังมีสิงสาราสัตว์ทั้งหลายที่ซื้อมาตอนไปแอ่วเมืองเหนือ ได้ติดไม้ติดมือกลับมานี่ด้วย
ตุ๊กตาโนรา(หรือเปล่า?)สองตัว หมวกกะโล่ และตุง อิลุงเป็นคนซื้อมา
พวกไม้แกะสลักนี่ก็เป็นที่ชมชอบของอิลุงอีกเช่นกัน ซอไม้เด็กเล่นสองตัวนั่น คุณยายสรรหามากำนัลหลานตอนเด็กๆ พอโตเลยมาแขวนแต่งบ้านซะ ส่วนพวงกุญแจหลากหลายแบบไทยๆนั่น คุณยายส่งมาให้เป็นของฝากพวกญี่ปุ่น แล้วป้าโซจะเอาไปฝากใครเค้านักเล่า จัดมาอย่างเยอะอิลุงเลยเจาะแผ่นไม้แขวนติดฝาบ้านซะเลย ..
ห้องของหนุ่มคนโต รกมั่งไม่รกมั่ง
ห้องที่มีเปียโน
คือของคนนี้ ไอ้ที่อ่านอยู่น่ะ การ์ตูนค่ะพี่น้อง หาใช่หนังสือเรียนไม่.. อ้อ ไอ้กระดาษที่ติดๆอยู่ตามฝาผนังน่ะ คือใบประกาศเกียรติคุณในการเดินสายแ่ข่งยูโดแล้วได้ที่หนึ่ง สอง สาม อ๊ะๆ ส่วนมากจะเป็นที่สามจ้า.. แข่งแบบทีมนะคร้ามิได้เก่งกาจแข่งเดี่ยวจนได้รางวัล
ลากันด้วยภาพสองหนุ่มสมัยยังฤทธิ์ไม่มาก เป็นรูปที่ถ่ายมาจากรูปอีกทีนึง
ขอบคุณที่ติดตาม.. ลาละค่ะ..
Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2555 16:10:38 น. |
|
28 comments
|
Counter : 3769 Pageviews. |
|
|
|