บัวแก้วตอกผู้เชี่ยวชาญยูเอ็น ม.112 ไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน-สอนมวยให้ไปศึกษามาตรา 19 (3) กติการะหว่างป



กระทรวงต่างประเทศออกมาโต้ผู้เชี่ยวชาญ UN ให้ไทยเลิกใช้ ม.112 เผยไทยให้ความสำคัญกับการแสดงความคิดเห็น แต่ต้องไม่ไปหมิ่นประมาทผู้อื่น โต้ไม่ขัดแย้งกับกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชนให้กลับไปศึกษามาตรา 19 (3) ของกติการะหว่างประเทศ ชี้แจง''ไผ่ ดาวดิน''ถูกถอนประกันเพราะทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว

 

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 กระทรวงการต่างประเทศได้เสนอ“ความเห็นต่อข่าวสารนิเทศของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ระบุว่า

ตามที่ผู้เสนอรายงานพิเศษว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิในเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติได้แสดงความห่วงกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจง ดังนี้ 

1. สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันหลักของชาติที่สร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่น ประชาชนชาวไทยเคารพเทิดทูนและผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างยาวนานกว่า 700 ปี ถึงปัจจุบัน ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์คงมีบทบาทสำคัญยิ่งในการเป็นศูนย์รวมที่หล่อหลอมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชนในชาติ การที่ไทยหรือชาติใดๆจะตรากฎหมายที่เหมาะสมเพื่อการปกป้องคุ้มครองสถาบันฯ ที่มีคุณูปการยิ่งต่อชาติบ้านเมืองจึงเป็นเรื่องปกติสามัญที่ชนในชาติพึงเคารพยึดปฏิบัติ

2.กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นส่วนหนึ่งของประมวลกฎหมายอาญาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จากการกระทำฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้าย ในลักษณะเดียวกับกฎหมายหมิ่นประมาทที่ให้ความคุ้มครองบุคคลทั่วไป เพื่อรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด

นอกจากนั้นไทยยังมีความเป็นสากลในการให้ความคุ้มครองลักษณะคล้ายคลึงกันต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทของชาติอื่น รวมถึงผู้แทนของรัฐต่างประเทศประจำประเทศไทย ดังปรากฏตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 133 และมาตรา 134 ทั้งนี้ การดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มิได้มีแรงจูงใจทางการเมืองแต่อย่างใด

3.ประเทศไทยเคารพและให้ความสำคัญกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ดี การใช้สิทธิดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่กระทบความสงบเรียบร้อยและสันติสุขในสังคม และต้องไม่ละเมิดสิทธิหรือชื่อเสียงของผู้อื่นตามที่ได้บัญญัติไว้ใน มาตรา 19 (3) ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ดังนั้น การบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จึงไม่ได้ขัดแย้งกับกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด

4.การดำเนินคดีในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมีกระบวนการพิจารณาคดีอันควรแห่งกฎหมาย (due legal process) เหมือนกับคดีอาญาโดยทั่วไป ผู้ที่ถูกพิพากษาให้มีความผิดตามกฎหมายดังกล่าวมีสิทธิเฉกเช่นเดียวกับความผิดอื่น ๆ รวมถึง สิทธิในการอุทธรณ์และขอพระราชทานอภัยโทษ

5.สำหรับกรณีนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ซึ่งถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นั้น คดีดังกล่าวยังอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลซึ่งเป็นกระบวนการอิสระที่รัฐบาลไม่อาจแทรกแซงได้ ทั้งนี้ นายจตุภัทร์ฯ เคยได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 แต่ต่อมาถูกถอนประกันเนื่องจากนายจตุภัทร์ฯได้กระทำผิดซ้ำ ซึ่งขัดต่อเงื่อนไขการประกันตัว

สำนักข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนโจมตีไทยกรณีไผ่ ดาวดิน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNOHCHR)ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิทเซอร์แลนด์ ได้เผยแพร่ความเห็นของ นาย เดวิด เคย์ ผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยเสรีภาพด้านความคิดเห็นและการแสดงออก (the UN's special rapporteur on freedom of opinion and expression) เรียกร้องให้รัฐบาลไทยหยุดใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อกีดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก

นายเคย์ระบุว่า “บุคคลสาธารณะ รวมทั้งผู้กุมอำนาจสูงสุดทางการเมืองอาจตกเป็นเป้าวิจารณ์ได้ และถึงแม้การแสดงออกทางความคิดในบางรูปแบบอาจถูกมองว่าเป็นการหมิ่นประมาทได้ แต่การพยายามขัดขวางและดำเนินการลงโทษถือเป็นเรื่องไม่ชอบธรรม”

นายเคย์ยังโจมตีรัฐบาลไทยได้ใช้กฎหมายอาญา ม.112 เพิ่มมากขึ้นหลังจากมีการยึดอำนาจโดยคสช.เมื่อปี 2557 “กฎหมายดังกล่าวจะไม่มีที่ยืนในประเทศประชาธิปไตยพร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิก”นายเคย์กล่าว รวมทั้งกล่าวถึงกรณีนายไผ่ ดาวดิน นักศึกษาที่ถึกจับกุมและไม่ได้รับการประกันตัวรวมทั้งการไต่สวนยังเป็นเรื่องลับอีกด้วย

Thailand: UN rights expert concerned by the continued use of lèse-majesté prosecutions

//www.ohchr.org/EN/NewsEvents/Pages/DisplayNews.aspx?NewsID=21149&LangID=E

Where Was "Dao Din" When Terrorists Killed Protesters in 2013-2014?

//altthainews.blogspot.com/2016/08/where-was-dao-din-when-terrorists.html

ดาวดินอยู่ไหนเมื่อกลุ่มก่อการร้ายสังหารคนบริสุทธิ์และกลุ่มกปปส.ในปี 2556-2557

//www.thaitribune.org/contents/detail/312?content_id=22320&rand=1484480422

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2560    
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2560 3:59:40 น.
Counter : 434 Pageviews.  

กสท.สั่งยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ช่วงงดออกอากาศหลัง 13 ตุลาคม-ช่วงออกอากาศรายการ คสช.



กสท. อนุมัติให้มีการลดหย่อนหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีระบบดิจิทัลตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เป็นระยะเวลา 30 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง และรายการที่เกี่ยวกับ คสช. ให้นับจำนวนชั่วโมงที่ออกอากาศเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 เท่า เพื่อขอลดหย่อนหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมอนุญาตรายปี สั่งระงับรายการ The Daily Dose 7วัน พร้อมปรับเรทละครเรื่อง The Extra วงการร้าย วงการรัก เป็น น18

 

เมื่อวันที่ กุมภาพันธ์ 2560 ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ผศ.ภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการ กสทช.สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ กล่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) อนุมัติให้มีการลดหย่อนหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีแก่ผู้ประกอบการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เป็นระยะเวลา 30 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้ถือเป็นรายการข่าวสารหรือสาระที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะทั้งหมด เพื่อประกอบการยื่นขอลดหย่อนหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี

ซึ่งการยื่นขอลดหย่อนหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี ให้เป็นไปตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการลดหย่อนหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2556 รวมทั้งการออกอากาศรายการเดินหน้าประเทศไทย รายการคืนความสุขให้คนในชาติ และรายการที่เกี่ยวกับ คสช. ให้นับจำนวนชั่วโมงที่ออกอากาศเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 เท่า เพื่อประกอบการยื่นขอลดหย่อนหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมอนุญาตรายปี ส่วนการออกอากาศรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน รายการที่เกี่ยวกับการพระราชกรณียกิจ แนวความคิด และปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสารคดีเทิดพระเกียรติพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ให้นับจำนวนชั่วโมงที่ออกอากาศเพิ่มขึ้นเป็น เท่า เพื่อประกอบการยื่นขอลดหย่อนหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี

นายภักดี กล่าวว่าที่ประชุมยังได้สนับสนุนให้เร่งแก้ไขประกาศ กสทช. เรื่องการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิ์ของคนพิการให้เข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากรายการของกิจการโทรทัศน์ เพื่อผ่อนผันการปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว ในการดำเนินการจัดทำบริการล่ามภาษามือ คำบรรยายแทนเสียง และเสียงบรรยายภาพ ออกไปอีก ปี นับแต่วันที่ครบกำหนดเดิมในวันที่ กุมภาพันธ์ 2560 และให้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดทำรายการที่มีบริการล่ามภาษามือ คำบรรยายแทนเสียงและเสียงบรรยายภาพ ให้กับผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล เพื่อให้คนพิการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากรายการของกิจการโทรทัศน์พื้นฐาน โดยให้เสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) เพื่อขอรับการสนับสนุนในเรื่องดังกล่าวต่อไป

อีกทั้ง ที่ประชุม กสท. มีมติให้ระงับการออกอากาศรายการ The Daily Dose เป็นเวลา 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่ง เนื่องจากสำนักงาน กสทช. ตรวจสอบพบว่ารายการดังกล่าวออกอากาศช่อง VOICE TV เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560 เรื่อง “ขัดแย้งเพราะตุลาการ (ไม่) ภิวัฒน์” เนื้อหาเป็นการวิเคราะห์ที่ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม และนำข้อเท็จจริงมาเสนอไม่ครบถ้วนขัดต่อประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 อีกทั้ง ยังให้สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี และช่องรายการ MCOT HD เปลี่ยนระดับความเหมาะสมของละครเรื่อง The Extra วงการร้าย วงการรัก จากระดับความเหมาะสม น13 เป็น น18 และให้สำนักงาน กสทช. ทำหนังสือขอความร่วมมือให้ระมัดระวังในการนำเสนอเนื้อหารายการและจัดระดับความเหมาะสมรายการให้ถูกต้อง นายภักดีกล่าว

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2560    
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2560 23:13:43 น.
Counter : 469 Pageviews.  

กรมศุลฯ โชว์หลักฐานรูปเรือเทียบท่าที่มาเลย์ รถเมล์ NGV ประกอบที่จีน วิ่งลงมาทั้งคัน



ศุลกากร แสดงหลักฐานการนำเข้ารถเมล์ NGV ผลิตในจีน ชี้ซุเปอร์ซาร่าใช้สิทธิ์ลดอากร เสรีอาเซียนไม่ได้ พร้อมให้นำรถออกจากแหลมฉบังทันทีหากเข้ามาจ่ายค่าปรับรวมภาษีกว่า 366 ล้านบาท

 

วันที่ 7 ก.พ. 2560 - นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร พร้อมด้วยนายกรีชา เกิดศรีพันธุ์ รองโฆษกกรมศุลกากร ร่วมแถลงข่าวกรณีการนำเข้ารถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ หรือ เอ็นจีวี ของบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป หลังจากบริษัท เบสท์ริน ยื่นหนังสือถึงสภานิติบุญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ให้ตรวจสอบการทำงานของกรมศุลกากร และจะฟ้องร้ององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.หากยกเลิกสัญญาซื้อรถเมล์เอ็นจีวี กับบริษัทฯ

โดยนายชัยยุทธ คำคุณ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมศุลกากรได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้ารถเมล์ NGV ของบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป มากพอสมควรว่าเป็นรถที่ประกอบในประเทศจีน โดยในวันนี้ (7 ก.พ) ได้แสดงหลักฐานภาพถ่ายที่ยืนยันว่ารถเมล์ NGV ที่ประกอบเรียบร้อยทั้งคันมาจากประเทศจีน มาลงที่ท่าเรือในประเทศมาเลเซีย เพื่อเตรียมจัดส่งให้บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารถเมล์เอ็นจีวีให้กับบริษัท เบสท์ริน จึงเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ชี้ว่าเป็นการนำรถเข้ามาจากจีนทั้งคัน โดยไม่ได้นำเข้าและประกอบในประเทศมาเลเซีย เพื่อขอรับสิทธิการลดหย่อนภาษีนำเข้าร้อยละ 40 ภายใต้ข้อตกลงในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ส่วนเอกสารอื่น ๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อรูปคดีหากขบวนการฟ้องร้องถึงชั้นศาล

นายชัยยุทธ คำคุณ ยังชี้แจงกรณีที่มาเลเซียออกใบยื่นสำแดงประเทศถิ่นกำเนิดสินค้า หรือ ฟอร์มดี เพื่อใช้ลดหย่อนภาษี ให้กับบริษัทเบสท์ริน ว่าใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า เป็นเอกสารซึ่งประเทศสมาชิกได้ ตกลงกันว่า ให้ใช้เป็นเอกสารในการผ่านกระบวนการศุลกากร เป็นเอกสารหนึ่งเพื่อขอรับสิทธิลดหรือยกเว้นภาษีอากร ไม่ใช่เป็นเอกสารพิสูจน์ว่าสินค้านั้นจะได้รับลดอากรหรือไม่ ถึงแม้ว่าบริษัทใดบริษัทหนึ่งขอหนังสือมา แต่ถ้าบริษัทนั้นไม่ได้นำเข้าสินค้าจากประเทศที่ได้รับสิทธิ์ ก็ไม่สามารถยกเว้นได้ ความสำคัญในการได้รับยกเว้น ขึ้นอยู่กับสินค้าที่นำเข้าว่ามีถิ่นกำเนิดจากประเทศสมาชิกหรือไม่ ดังนั้นตัวหนังสือ Form D เป็นเพียงตัวช่วยที่จะสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว หากว่าไม่มีข้อมูลอื่นในการประกอบทำความเข้าใจในการปล่อยของนั้น แต่ถึงแม้ว่าท่านมีฟอร์ม แต่ไม่ได้เอาสินค้ามาจากถิ่นนั้น ก็ไม่ได้รับสิทธิ ความสำคัญของการได้รับสิทธิ์ไม่ได้อยู่ที่ฟอร์ม แต่อยู่ที่ตัวสินค้าว่ามาจากประเทศที่ได้รับสิทธิ์หรือไม่

พร้อมยังยืนว่า กรมศุลกากร ไม่ได้กักรถเมล์ NGV จำนวน 99 คัน ที่จอดในท่าเรือแหลมฉบัง เนื่องจากบริษัทเบสท์ริน ยังไม่ได้จ่ายค่าปรับและค่าภาษีนำเข้าศุลกากรจำนวนรวม 3.7 ล้านบาทต่อคัน หรือรวมมูลค่ารวมกว่า 366 ล้านบาท ทั้งที่มีการยื่นใบขนถ่ายสินค้าผ่านระบบ อิเลกทรอนิกส์ และชำระภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ซึ่งที่ผ่านมากรมศุลกากรได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังบริษัทที่นำเข้าเพื่อมารับรถแต่เอกสารถูกตีกลับ

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2560    
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2560 0:53:00 น.
Counter : 309 Pageviews.  

สำนักงานศาลยุติธรรม เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ จำนวน 50 อัตรา รับสมัครตั้งแต่วันที่ 6 -



ประกาศสำนักงานศาลยุติธรรม เรื่อง รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการ จำนวน 50 อัตรา อัตราเงินเดือน 9400 - 12650 บาท

 

ตำแหน่งที่เปิดรับสมัครสอบ
ตำแหน่ง เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีปฏิบัติงาน
จำนวน ตำแหน่งว่างที่จะบรรจุครั้งแรก 50 อัตรา

อัตราเงินเดือนที่จะได้รับ
วุฒิ ปวช. 9400 - 10340 บาท
วุฒิ ปวท. 10840 - 1193 บาท
วุฒิ ปวส. 11500 - 12650 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง
ได้รับวุฒิ ปวช. , ปวท. , อนุปริญญา , ปวส. หรือเทียบได้ในระดับเดียวกันในสาขาวิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการบัญชี สาขาวิชาพาณิชยการ สาขาวิชาเลขานุการ

การรับสมัครสอบ
ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ สามารถสมัครได้ทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 6 - 28 กุมภาพันธ์ 2560 ที่เว็บไซต์ https://op.job.thai.com/ ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ

รายละเอียดเพิ่มเติม
ไฟล์ประกาศรับสมัครสอบ

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2560    
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2560 15:08:10 น.
Counter : 261 Pageviews.  

สั่งสอบตำรวจ-ตม.-ดารา-นักร้อง-ลูกนักการเมืองถ่ายรูปคู่กับไซซะนะ-อาจพัวพันยาเสพติด



ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบภาพตำรวจไทย 3 นายถ่ายรูปคู่ไซซะนะเผยเป็นตม.-ตำรวจจังหวัดเลย ยังมีดารา-นักร้องดังเพื่อชีวิตชื่อย่อ อ.และนักร้องต้อม เรนโบว์ถ่ายรูปด้วยแถมลูกนักการเมืองใหญ่อาจพัวพันกลุ่มยาเสพติด ตำรวจสรุป เบนซ์ เรซซิ่ง ให้การขัดกันเงิน 6 ล้านวางดาวน์รถ 20 ล้าน

 

ตำรวจประชุม 3 ฝ่ายสรุปประเด็น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ห้องประชุมภักดีภูมิ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส. เปิดเผยก่อนการประชุมหารือความคืบหน้าและสรุปผลการสอบปากคำว่า วันนี้ได้เรียกประชุม 3 ฝ่าย คือบช.ปส. สำนักงาน ป.ป.ส. และ ป.ป.ง. เพื่อปรึกษาหารือผลของการปฏิบัติ “ชัยยะ สยบไพรี 60/2” จากการเข้าตรวจค้น 39 เป้าหมาย 41 จุดตรวจค้นรวมทั้งการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา 9 หมายจับ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ 3 ราย โดยวันนี้จะประชุมเพื่อพิจารณาดูว่าผลการจับกุมมีความเกี่ยวพันกับยาเสพติดอย่างไร เพื่อเสนอให้ป.ป.ส.ดำเนินการยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมต่อไป

สำหรับการประชุมวันนี้จะแบ่งกลุ่มยาเสพติดเกี่ยวข้องเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการปฏิบัติ “ชัยยะ สยบไพรี 60/2” 2. บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถแลมโบกินี่ และ 3.บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่ถูกยึดมาจากปฏิบัติการ

พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยว่า การประชุมจะเน้นตรวจสอบเรื่องเงิน 6 ล้านบาทที่นายบอยให้เงินสดแก่นายเบนซ์ไปดาวน์รถแลมโบกินี่ กัลลาโด (Lamborghini Gallardo) รุ่นย่อย SuperLeggera LP 570-4 สีเทา-ดำ ทั้งนี้คำให้การของนายเบนซ์ เรซซิ่ง กับการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่ามีความขัดแย้งกันอยู่ จะได้ประชุมหาข้อสรุปกันต่อไป

นอกจากนี้จะได้ทำการประสานเจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางบก เพื่อมาตรวจสอบทะเบียนรถของแลมโบกีนี่ ขณะนี้ยังไม่มีการเชิญน.ส.ธัญรัตน์ วีระเดช ชาวจ.ลำพูน เจ้าของทะเบียนรถ กจ 51 กรุงเทพฯ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าทะเบียนอาจติดรถไป

“นายเบนซ์ให้การว่ารถแลมโบกีนี่ซื้อมาจากเต๊นท์รถ แต่ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน คำให้การของนายเบนซ์มีข้อขัดแย้งกันอยู่บางประเด็น จะมีการหารือกันในวันนี้” พล.ต.ต.พรชัยกล่าว

พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยว่าหมายจับ 9 รายที่ยังคงหลบหนีอยู่ 6 รายนั้นเป็นเครือข่ายของ“เอ๋ เจ็ดเมียน” ซึ่งพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7  พื้นที่ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รูปดารา-รูปตำรวจตม.เลยต้องสอบเพิ่มเติม

พล.ต.ต.พรชัย เปิดต่อว่ากรณีมีรูปดาราที่ปรากฏว่าถ่ายภาพคู่กับท้าวไซซะนะนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องทำการตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวพันกันมากน้อยแค่ไหน จะต้องประชุมหาข้อสรุปกันอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีรูปภาพท้าวไซซะนะถ่ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนั้น จะต้องตรวจสอบอีกครั้งเพราะตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน

รายงานข่าวเปิดเผยว่าหลังทราบข่าวนายไซซะนะถูกตำรวจไทยจับกุม ก็มีชาวลาวจำนวนมากได้โพสต์ภาพถ่ายของข้าราชการไทย มีทั้งนายด่านตม. และตำรวจพื้นที่ ที่ถ่ายภาพแบบสนิทสนมกับนายไซซะนะ ที่อำนวยความสะดวกบริเวณด่านตม.นะกะเซ็ง อ.ท่าลี่ จ.เลย พร้อมกับข้อความเขียนเป็นภาษาลาวว่า “ถ้าปฏิเสว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยไม่รู้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาพวกนี้” (ก็ให้ดูในรูป)

ต่อมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เปิดเผยว่าภาพถ่ายดังกล่าว ตนยังไม่เห็น แต่ทราบจากผู้สื่อข่าวว่าได้มีการเผยแพร่ภาพผ่านทางโซเชียลเป็นภาพของตำรวจไทย 3 คน ถ่ายรูปกับนายไซซะนะ จึงได้สั่งให้ทีมงานตรวจสอบภาพ พร้อมกับมอบหมายให้นายตำรวจระดับสูงของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าภาพดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร ตำรวจทั้ง 3 คนที่ปรากฎในภาพถึงต้องถ่ายรูปกับนายไซซะนะ

ปัจจุบันมี พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร เป็นผบช.สตม.

จ่อเรียกกลุ่มคนดัง-ลูกชายอดีตนักการเมืองสอบ

รายงานข่าวแจ้งว่า นายไซซะนะป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในฝั่งประเทศลาว ประกอบธุรกิจ โรงเลื่อย โรงไม้ เป็นรู้กันดีว่าเป็นผู้ที่ชอบสะสมรถหรูประเภท Super cars  อีกทั้งมีรสนิยมในการเล่นพนันไก่ชน ก่อนหน้านี้เป็นที่ฮือฮาว่า เจ้าตัวเคยเดิมพันชนไก่กับนักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดังรายหนึ่งมีชื่ออักษรย่อว่า อ. การเดิมพันในครั้งนั้นปรากฏว่าเป็นไก่ชนของนายไซซะนะที่คว้าชัยพร้อมกับเงินเดิมพันมาครองได้ ขณะที่กระแสข่าวที่สงสัยว่ายังมีบุคคลในแวดวงสังคมชั้นสูง รู้จักและสนิทสนมกับนายไซซะนะ อีกหลายคนนั้น เบื้องต้นคาดว่าหนึ่งในนั้นน่าจะมีบุตรชายของอดีตนักการเมืองใหญ่ของไทย ซึ่งมีชื่อเล่นอักษรย่อว่า อ. อยู่ในข่ายต้องสงสัยด้วย

เนื่องจากแนวทางการสืบสวนของชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวได้ตรวจพบรูปภาพรูปหนึ่ง ภายในภาพปรากฏถ่ายรูปคู่กับนายไซซะนะอย่างใกล้ชิด รวมถึงดารานักแสดงชื่อดังอย่างนายอาณัติ ฬาพานิช , นายอรรคพันธ์ นะมาตร์ หรืออ๋อม และต้อม เรนโบว์ ที่เคยถ่ายรูปร่วมกับนายไซซะนะ ด้วยเช่นกัน                     

ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อดูความเชื่อมโยงและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่ และอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาว่าจะมีการเชิญตัวกลุ่มบุคคลเหล่านี้มาทำการให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ต่อไป                       

พระเอกช่อง 7 แถลงไม่เกี่ยว

กรณีมีการแชร์ภาพ "อ๋อม" อรรคพันธ์ พระเอกชื่อดัง ช่อง 7 ไปถ่ายรูปกับบุคคลที่หน้าละหม้ายคล้าย "ไซซะนะ" จนทำให้ถูกตั้งคำถามว่า พระเอกหนุ่มชื่อดังของช่อง 7 สี ไปทำอะไร หรือ รู้จักกับพ่อค้ายาเสพติดข้ามชาติคนนี้ อย่างไร ทำไมจึงมีภาพถ่ายร่วมกับ บุคคลที่หน้าคล้าย "ไซซะนะ"

ต่อมา"อ๋อม" อรรคพันธ์ พระเอกชื่อดัง ช่อง 7 เปิดใจให้สัมภาษณ์ ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @omakapan โดยชี้แจงเรื่องนี้ว่า..

“จริงๆ ก็ได้เห็นรูปแล้ว โดยคนในภาพเข้ามาขอถ่ายรูปเรา เป็นงานที่ไปมาแล้วเป็นปีที่ประเทศลาว เวลาไปงาน ซึ่งจะมีกลุ่มนักธุรกิจ หรือกลุ่มผู้ที่อยู่ที่นั่นมาคอยต้อนรับ ผมก็ถ่ายทั่วไป เหมือนเวลามีแฟนๆ มาขอถ่าย ส่วนภาพที่ออกไปแล้ว เราก็แก้ไขอะไรไม่ได้ คนก็เสพข่าวไปแล้ว บางคนเข้าใจถูก บางคนเข้าใจผิด อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้”อ๋อมกล่าว

“แต่อยากขอยืนยันว่าจริงๆ แล้วไม่ได้มีอะไรเลย ยืนยันชัดเจน อยากขอบคุณแฟนคลับทุกๆ คนที่ให้กำลังใจมา และเป็นห่วงอยู่ สบายใจได้ และฝากถึงพี่ๆ สื่อมวลชนด้วย ว่าภาพที่ออกมาก็อยากจะให้ดูดีๆ เพราะว่าภาพที่ออกมาก็ไม่ใช่คนที่ถูกจับไปด้วย แต่ถ้ามีอะไร ถ้าเจอกันก็มาถามผมได้เลย ผมยินดีมากๆ” อ๋อม อรรคพันธ์กล่าว

ขบวนการค้ายาเสพติดนับ 100 เครือข่าย

มีรายงานข่าวเปิดเผยในฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าขบวนยาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) มีอยู่ด้วยกัน 2 กลุ่มหลักประกอบไปด้วยกลุ่มของนายอุสมาน สะแลแมง และกลุ่มของนายไซซะนะ โดยเครือข่ายทั้งสองมีฐานผลิตยาเสพติดในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมตะเข็บชายแดน ก่อนลำเลียงเข้ามาในประเทศไทย

นายไซซะนะนั้นถือเป็นเจ้าพ่อยาเสพติดระดับต้นๆของเอเชีย มีเครือข่ายแฝงตัวอยู่ตามประเทศต่างๆมากมายมายในแถบภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมาเครือข่ายของนายไซซะนะมีมากถึง 100 เครือข่ายแฝงตัวอยู่ โดยกลุ่มของนายไซซะนะได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้เสพเหตุมาจากตัวยาที่กลุ่มของนายไซซะนะคิดค้นมาเอง                        

นอกจากนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลหาความเชื่อมโยงระหว่างนายไซซะนะ กับเครือข่ายเอเย่นต์ยาเสพติดรายอื่นในไทย ทั้งนี้พบว่านายณัฐพลหรือบอย ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้และนายศดายุหรือโน๊ต เหลืองประดับใจ ผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการหลบหนี เคยก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังถูกปิดล้อมขณะรวมกลุ่มพ่อค้ายาจัดปาร์ตี้มั่วยาในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2559 มีความเชื่อมโยงรวมอยู่ในเครือข่ายของนายไซซะนะนี้ด้วย

ไซซะนะคิดค้นสูตรยาเสพติดเอง

รายงานข่าวเปิดเผยว่าตัวนายไซซะนะนั้นจัดอยู่ในกลุ่มนักค้ายาที่ชอบคิดค้นสูตรยาเสพติดใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อสนองตอบความต้องการของกลุ่มลูกค้า ก่อนจะนำสูตรที่คิดค้นขึ้นมาได้ส่งต่อให้กับกลุ่มชนกลุ่มน้อยตามตะเข็บชายแดนพม่าเป็นผู้ผลิตตัวยาขึ้นมา

จากนั้นก็จะประสานให้นำยาลำเลียงไปส่งต่อให้กับกลุ่มพ่อค้ายาในเครือข่ายซึ่งรวมถึงเครือข่ายของนายศดายุและนายณัฐพลหรือบอย คอยเป็นตัวเชื่อมนำยาเสพติดมากระจายส่งต่อให้กับเอเย่นต์ยาเสพติดตามพื้นที่ต่างๆ

ตัวยาทั้งหมดจะโยงไปไม่ถึงตัวนายไซซะนะ เนื่องจากที่ผ่านมานายไซซะนะจะมีฝ่ายจัดทำบัญชีคอยกำกับดูแลเกี่ยวกับเรื่องการโอนเงินค่ายาเสพติดและผู้ที่ถือครองดูแลทรัพย์สิน ด้วยเหตุนี้นายไซซะนะจึงพยายามแทรกตัวเข้าไปอยู่ในแวดวงสังคมชั้นสูงเพื่อตยตาเจ้าหน้าที่และให้ยากต่อการสืบหาหลักฐาน

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2560    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2560 18:02:54 น.
Counter : 344 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.