อวสาน 44 ปีแห่งการรับใช้สังคมของนสพ.บ้านเมือง ครอบครัวที่ผมเติบโตมาอย่างอบอุ่น.....โดย เจือ รัตนพันธ
เจือ รัตนพันธุ์ อดีตผู้สื่อข่าวนสพ.บ้านเมือง เขียนลงในเฟซบุ๊ก Jua Rattanaphun จากเมือง Sunnyvale ย่านเบย์ แอเรีย รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2016 ปัจจุบันเขาเป็นเจ้าของห้องอาหาร Thai Basilอยู่เมืองนี้ เจือ รัตนพันธุ์ ไปอยู่สหรัฐอเมริกากว่า 30 ปี ข้อเขียนของเจือ สะท้อนภาพยุคสมัยเก่าของการทำสื่อโดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ในเมืองไทย จะถือเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งจากเขาก็ได้ ดังนี้..... ผมอ่านเจอข่าว นสพ.บ้านเมือง จะปิดตัวเองแล้วหัวใจห้องหนึ่งก็ใจหายวูบ.. อีกห้องหนึ่งยังงุนงง.. อีกห้องบอกเป็นธรรมดาของสรรพสิ่งเกิดมาแล้วก็ดับสลาย อีกห้องให้คิดถึงอดีตเมื่อครั้งใช้ชีวิตกับงานทำข่าวเขียนคอลัมน์และเติบโตกับ บ้านเมือง ฉบับนี้เมื่อครั้งสมัยอยู่ภายใต้การบริหารของ บก.มานะ แพร่พันธุ์ และ ผอ.วิจารณ์ ภุกพิบูลย์ โอกาสของกาลเวลาแห่งยุคแห่งสมัย มันถูกพัฒนาแปลี่ยนแปลงไปตามกระแสของสังคม กระแสของเทคโนโลยี่ นสพ.บ้านเมืองเกิดในยุคที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ ยังต้องจ้างแรงงานผู้คนจับเรียงตัวอักษรที่เป็นแม่พิมพ์ตะกั่ว เรียงแต่ละคำพูดแต่ละบรรทัด จนจบแต่ละหน้า 16-20หน้าต่อหนึ่งฉบับของหนังสือพิมพ์ ก่อนลงถ่ายบนแผ่นเพลท แล้วเสียบเข้าไปในแท่นพิมพ์ ที่เรียกว่าแบบ เพรส ใช้กระดาษม้วนใหญ่ก่อนจะรันแท่นเครื่องพิมพ์กี่พันกี่หมื่นต่อฉบับต่อวัน แหละเพื่อแข่งขันกันในการข่าวยุคนั้นพิมพ์กันวันละ 2 รอบ คือรอบเช้ากับรอบดึกตีหนึ่ง.. แล้วค่อยๆเปลี่ยน ยกตัวอักษรเรียงทิ้ง เอาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งาน แม้จะตัดแรงงานคนเรียง แต่ต้องมาเพิ่มค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น แต่สะดวกและรวดเร็วกว่าหลายเท่า หลายแผนกถูกตัดทิ้งไป อย่างแผนกตัดปะหัวข่าว...แผนกช่างเรียง..... หนังสือพิมพ์บ้านเมืองยุคนั้นโด่งดังกับ ตลาดนัดบ้านเมือง ที่ บก.มานะ แพร่พันธุ์ งัดเอาการตลาดที่ยังไม่มีใครมี มาเป็นตัวขาย ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน รถ บ้าน ที่ดิน หางาน รับสมัครงาน จนหนังสือบ้านเมือง ขายดิบขายดี ผู้คนซื้อ หาเพื่อใช้เป็นตลาดกลางในการซื้อ ขาย เหมือน เครกลีส (craigslist)ตลาด ซื้อ ขาย ออนไลน์ในขณะนี้ ผมเติบโตจาก นสพ.บ้านเมือง เข้าทำงานตั้งแต่ได้เงินเดือนๆละ 600 บาท (เลข 600 มันถูกโฉลกกับผมทำงานในอเมริกาครั้งแรกก็ได้เงินเดือน$600 เหมือนกัน..) นั่งตัดปะหัวข่าว จน บก.มานะ แพร่พันธุ์ เห็นว่าไอ้หมอนี้มันขยัน ตื่นแต่เช้าทุกวันขึ้นไปเก็บข่าว AP AFP ที่เป็นสำนักข่าวจากอเมริกาและฝรั่งเศสที่ส่งข่าวมาขายจากทั่วโลก แล้วม้วนๆส่งให้กับฝ่าย คุณกมล เข็มทอง บรรณาธิการฝ่ายต่างประเทศสมัยนั้น และดูเหมือนคุณอลงกรณ์ พลบุตร ท่านรองประธานสภาปฏิรูปฯคนที่หนึ่งนั่งแปลข่าวสต๊าฟของพี่กมลด้วยอีกคน พอโทรศัพท์ดัง ไม่มีใครรับ บก.มานะ บอกให้ผมนี่แหละรับโทรศัทพ์จากผู้สื่อข่าวต่างจังหวัด นานๆเข้าแกเลยบอกว่าเอ้ย ไอ้เจือ มึงช่วยจดข่าวรับข่าวให้เขาหน่อย...แล้วแก บก.มานะ แพร่พันธุ์ นอนประจำที่สำนักงานที่เป็นห้องพักและตื่นแต่เช้านั่งเขียนบทความ บก.สอนผมการเขียนข่าวเป็นแบบออโตเมติค สอนผมให้เป็นโดยไม่รู้สึกตัว.. จนเลื่อนตำแหน่งจากเด็กปะหัว เงินเดือน 600 บาท ขึ้นมาตระเวณข่าวอาชญากรรมตามโรงพัก แล้วขยับให้ขึ้นมานั่งฝึกข่าวต่างจังหวัดกับ พี่ ฉัตร เชิงดอย หรือ พี่สุภาพ คลี่ขจาย ก่อนจะส่งไปนั่งทำข่าว เขียนคอลัมน์ บันเทิงกับ ลูกพี่ นพคุณ ทานอุทิศ ที่ฆ่าตัวตายเป็นข่าวดังเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว จนผมมีโอกาสกราบตักอำลา บก.มานะ แพร่พันธุ์ เหินฟ้ามาหาประสพการณ์ในอเมริกาจนมาถึงวันนี้ 12 ปี กับชีวิตในรั้ว บ้านเมือง ผมมีความสุข แม้จะไม่ร่ำรวย แต่ก็อบอุ่นกับการทำงาน ที่มีเจ้านายอย่าง บก.มานะ แพร่พันธุ์ ผู้ที่ให้โอกาสผู้คนเป็นนักเขียน นักประพันธ์มากมายก่ายกองในถนนหนังสือพิมพ์ ฉะนั้นในห้วงเวลานั้นผมได้รู้จักและสัมผัสกับครอบครัวของคนบ้านเมืองใกล้ชิด ที่จะเก็บมาเล่าให้ท่านได้อ่านกันในห้วงเวลาอันควรแล้วกัน... ผมขอคารวะกับสถาบันที่ให้ผมได้ใช้โอกาสในการพิสูจน์ตัวเองและเรียนรู้ในวิชาชีพหนังสือพิมพ์ จนให้ผมเติบโตมาท่ามกลางแวดวง แม้จะไม่โด่งดังเหมือนคนอื่นๆ แต่ผมพอใจกับการที่ได้รับจากหนังสือพิมพ์บ้านเมือง ที่เป็นเบ้าหลอมให้ผมได้เรียนรู้ถึงหน้าที่และความรับผิดชอบและซื่อสัตย์ต่อสังคมและส่วนรวม สิ้นปี 2559 จะเป็นฉบับสุดท้ายของการตีพิมพ์ของ นสพ.บ้านเมือง ตามหนังสือที่นายชลอ จันทร์สุขศรี กรรมการและบรรณาธิการผู้พิมพ์และโฆษณา ได้แจ้งถึงพนักงานทุกคนทราบ ก่อนปิดตัวในวันที่ 1 มกราคม 2560 ที่จะถึง ที่มา thaitribune
| Create Date : 08 ธันวาคม 2559 |
| Last Update : 8 ธันวาคม 2559 23:42:55 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 226 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [
