คดีจ้างวานฆ่านักกีฬายิงปืนทีมชาติอาชญากรรมที่สะเทือนขวัญ-หากมีสติยับยั้งยึดกฎหมายสังคมก็จะอยู่ร่วมกั
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วศาลได้พิพากษาคดีสำคัญอันเกี่ยวเนื่องมาจากเรื่องสะเทือนขวัญสังคมเมื่อ 3 ปีมาแล้ว ในคำพิพากษาของศาล ให้ประหารชีวิตแพทย์หญิงที่เป็นจำเลยในคดีจ้างวานใช้ให้ฆ่าสามีนักกีฬายิงปืนทีมชาติ ส่วนมือปืน, และผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะ ศาลให้จำคุกตลอดชีวิต สำหรับมารดาของนายแพทย์หญิงที่ถูกดำเนินคดีมาแต่ต้นศาลยกฟ้อง หลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว ทนายได้ยื่นคำร้องขอประกันด้วยหลักทรัพย์เดิม 5 แสนบวกกับหลักทรัพย์ใหม่อีก 2 ล้าน และหนังสือเดินทางเพื่อรับรองว่าจะไม่หลบหนี มารดาของแพทย์หญิงแม้จะได้รับอิสระจากคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ท่าทางแววตามีความทุกข์ ส่วนมารดาของนักกีฬายิงปืนที่ถูกยิงตาย บอกว่าอโหสิกรรมให้ตั้งแต่แรกแล้ว ที่จะไม่ผูกใจเจ็บกันอีกต่อไป ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวแพทย์หญิง โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกราชอาณาจักร มารดาของนักกีฬายิงปืน แสดงความเห็นอีกครั้งว่า เป็นการดีที่หลานทั้งสอง ซึ่งหมายถึงบุตรของคนตายและแพทย์หญิงจะได้อยู่กับแม่ โฆษกศาลยุติธรรม ออกมาแถลงข่าวทันทีที่ทนายของครอบครัวคนตายเปิดเผยว่า ในคดีอย่างนี้ยังไม่เคยมีรายใดที่ศาลจะอนุญาตให้ประกัน โฆษกบอกว่า หากศาลจะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จะต้องปรากฏเกตุอันควรเชื่อ เหตุใดเหตุหนึ่งตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 5 กรณี คือ 1. ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะหลบหนี 2. ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน 3. ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น 4. ผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันไม่น่าเชื่อถือ และ 5. การปล่อยชั่วคราวจะเป็นอุปสรรค หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนเจ้าพนักงาน หรือการดำเนินคดีในศาล คดีนี้ศาลได้พิพากษาแล้ว จึงไม่มีกรณีที่จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงคงมีการพิจารณาเพียงว่า จำเลยจะหลบหนีหรือไม่ ซึ่งเห็นว่า จำเลย มีภูมิลำเนาและประกอบอาชีพที่แน่นอนไม่มีพฤติการณ์ที่สงสัยว่าจะหลบหนี ศาลจึงใช้ดุลยพินิจจากข้อเท็จจริงต่างๆ สอดคล้องกับหลักการสากลว่าในคดีอาญาให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า บุคคลทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิด เรื่อทั้งหมดนี้ ไม่ได้มาพูดกันถึงเนื้อหาที่ศาลได้พิจารณาไปแล้วแต่ให้เห็นภาพถึงความรู้สึกของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ไม่ว่าจำเลยคนสำคัญ,มารดาของทั้ง 2 ฝ่าย, ทนายความ, และการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ ภาพของคดีอาชญากรรมที่สะเทือนขวัญและความรู้สึกของผู้คน แม้ว่าจะต้องขึ้งโกรธตามอารมณ์อันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ก็ตาม แต่หากจะได้มีสติยับยั้งให้ทุเลาเบาบางไปกับอารมณ์ขึ้งโกรธกันบ้าง แล้วยึดกฎหมายบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง มีวัฒนของการอยู่ด้วยกันอย่างมีกฎมีระเบียบ ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาเที่ยงธรรม บางทีภาพที่น่ากลัวและสะเทือนขวัญเหมือนอย่างที่ได้พบเห็นทั่วไปในชีวิตประจำวันนั่นก็อาจเป็นภาพของวัฒนธรรมที่จะต้องอยู่ในสังคมร่วมกันอย่างมีความสุขกันต่อไปอีกนาน เมื่อคนไทยมีวัฒนธรรมของความเป็นไทยด้วยกันอย่างนี้เมื่อใด แม้บ้านเมืองจะมีความขัดแย้งก็น่าจะค่อยๆ ปรับสภาพให้อยู่ด้วยกันในสังคมอย่างผาสุกได้ ที่มา thaitribune
Create Date : 25 ธันวาคม 2559 |
Last Update : 25 ธันวาคม 2559 10:47:56 น. |
|
0 comments
|
Counter : 375 Pageviews. |
|
|