คุณสมบัติ 3 ประการของคนข่าว โดย สมิต มานัสฤดี



สมิต มานัสฤดี หัวหน้าคณะบรรณาธิการ นสพ.ไทยรัฐ วัย 82 ปี ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 ศพตั้งที่ศาลา 1 วัดมกุฎกษัตริยาราม กำหนดสวดพระอภิธรรมเวลา 19.00 น. วันที่ 18 - 24 พฤศจิกายน 2559 รวม 7 คืน สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยได้นำข้อเขียนของ สมิต มาลงด้วยการเขียนถึง คุณสมบัติ 3 ประการของคนข่าว พร้อมทั้งคำพูดที่ว่าอาชีพนักข่าวก็เหมือนกับรถเมล์ ดังนี้.....

 

ปัจจุบัน สมิต มานัสฤดี อายุ 75 ปีแล้ว ( ปีค.ศ.2009) เขาเคยดำรงตำแหน่งบรรณาธิการอาวุโส หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ นักหนังสือพิมพ์ผู้นี้ เข้าสู่วงการตั้งแต่ อายุราว 18 ปี หลังจากเรียนจบเตรียมอุดม (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ราวๆ ปี พ.ศ.2493

เขาเล่าว่า เหตุที่มาทำหนังสือพิมพ์ เรียกได้ว่าเป็นความบังเอิญ เพราะด้วยฐานะครอบครัวลำบากมาก จำเป็นที่จะต้องหางานทำ ครั้นจะไปทำงานราชการอายุก็ยังไม่ถึงเกณฑ์ เผอิญไปรู้จักกับคนที่ทำงานอยู่ในบริษัทไทยพาณิชยการ ซึ่งเป็นนายทุนของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ อาทิ หนังสือพิมพ์พิมไทย หนังสือพิมพ์สยามนิกร

สมิตเข้าไปทำงานในครั้งแรกในฝ่ายกองจัดการ ไปเป็นเด็กรับใช้ในฝ่าย ใช้แรงงานกายทุกอย่าง อาทิ ขับรถส่งหนังสือพิมพ์ ทำอยู่ประมาณ 2 ปี และราวปี พ.ศ. 2495 ก็ย้ายไปทำงานฝ่ายกองบรรณาธิการ ของหนังสือพิมพ์สยามนิกร ก็เริ่มตั้งแต่ระดับต่ำๆคือ ป็นช่างภาพ เป็นเด็กประจำห้องมืด ล้างภาพ ตามรถตระเวนโรงพัก ทำข่าวกีฬา

ช่วงนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงนายทุนของหนังสือพิมพ์เกิดขึ้น จนในที่สุดก็ย้ายมาทำหนังสือพิมพ์ไทยรัฐในที่สุด เริ่มทำตั้งแต่สมัยที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยังใช้ชื่อ หนังสือพิมพ์ข่าวภาพ ส่วนงานด้านข่าวนั้นได้ทำในส่วนของหัวหน้าข่าวต่างประเทศ (อายุ 30 ปี) จนเปลี่ยนหัวหนังสือมาเป็น หนังสือพิมพ์เสียงอ่างทอง เนื่องจากหนังสือพิมพ์ข่าวภาพถูกสั่งปิด โดยคณะรัฐประหารที่นำโดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ราวปี พ.ศ. 2500

สมิต นั่งเป็นหัวหน้าข่าวต่างประเทศ ก่อนจะมาเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการหลังจากที่เปลี่ยนหัวหนังสือพิมพ์มาเป็น ไทยรัฐ

คนทำหนังสือพิมพ์ยุคนั้น จะไม่มีใครรู้อนาคตได้เลยว่าวันนี้ได้ทำ พรุ่งนี้จะได้ทำหรือไม่ ดังนั้นหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ที่รักษาตัว จะหันไปเล่นข่าวอาชญากรรม ข่าวโรงพัก เป็นส่วนใหญ่ ด้านข่าวการเมืองนั้นน้อยมาก เพราะแหล่งข่าวแต่ละคนไม่ค่อยจะให้ข่าวเท่าไรนัก

สมิต เล่าว่าหนังสือพิมพ์ก็เป็นธุรกิจที่ไม่มั่นคง คนทำงานหนังสือพิมพ์จะไม่มีหลักประกันว่าจะสามารถยึดถือเป็นอาชีพเลี้ยงตัว ครอบครัวได้ ซึ่งตอนที่เริ่มทำงาน ก็ไม่ได้คิดว่าจะยึดการทำงานที่หนังสือพิมพ์เป็นอาชีพเลี้ยงตัว ครอบครัว ให้กินดีอยู่ดีได้ เพราะด้วยยอดจำหน่ายน้อย รายได้จากโฆษณามีน้อย ชื่อหนังสือไม่โด่งดัง และเมื่อเทียบกับราชการ เงินเดือนของนักหนังสือพิมพ์ก็ยังน้อยกว่าราชการเสียอีก ดังนั้นคนที่จะอยู่กับอาชีพนี้ได้ก็เพราะใจรักจริงๆ หรือเพราะตัวเองได้ถลำเข้ามานานแล้วจนถอนตัวไม่ได้แล้ว โดยความรู้สึกส่วนตัวอาจเป็นเพราะทำมานานแล้ว จึงเกิดความรักในอาชีพ

คนที่เหมาะกับการทำงานหนังสือพิมพ์จะต้องมีคุณสมบัติ 3 ประการคือ

1.ต้องเป็นคนที่มีความคิด ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีอิสระ แต่อยู่ในกรอบ และกฎระเบียบ

2. มีวิญญาณบางอย่างที่เหมาะกับการทำงานหนังสือพิมพ์ คือ เป็นคนที่รักการต่อสู้ แข่งขัน เพราะอาชีพหนังสือพิมพ์ก็ต้องมีการแข่งขัน ทั้งเรื่องของเวลา ที่ต้องปิดข่าวให้ทันเวลา และต้องแข่งขันกับ หนังสือพิมพ์หัวอื่นๆ เพราะหนังสือพิมพ์จะอยู่ได้ ด้วยยอดจำหน่าย ดังนั้นการทำข่าวด้วยกันก็ต้องทำให้ดีกว่า ให้ได้ข่าวเด่นกว่า ได้ภาพข่าวที่ดีกว่า

ดังนั้น คนที่ทำงานแบบเช้าชาม เย็นชาม หรือ ทำงานไปเรื่อยๆ ก็ไม่เหมาะที่จะทำงานหนังสือพิมพ์ และ

3.ต้องมีความรับผิดชอบ เพราะอาชีพนักข่าวเป็นอาชีพที่ต้องเกี่ยวข้องกับประชาชน เกี่ยวข้องกับสาธารณะทั่วไป

พื้นฐานแรกเริ่มของการเป็นนักข่าวที่ดี สำคัญจะต้องมีความรู้ทางทฤษฏีและความชำนาญด้านปฏิบัติและนักข่าวทุกคนจะต้องมีการหาความรู้เพิ่มเติม เพราะการทำงานหนังสือพิมพ์จะต้องอาศัยฐานความรู้กว้างๆ หลายๆด้าน นอกจากนั้นแล้วจะต้องมีความกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา

คนที่จะเข้ามาทำงานหนังสือพิมพ์สมัยนี้เรียกได้ว่าได้เปรียบกว่าคนรุ่นก่อนๆ มาก เพราะสมัยก่อนจะต้องใช้ความพยายามและความอดทน ต่อสู้อย่างหนักกว่าที่จะเลื่อนตำแหน่งแต่ละขั้นได้

สมิต เปรียบเทียบว่า อาชีพนักข่าวเปรียบเหมือนกับรถเมล์ ที่ไม่มีวันหยุด หากหยุดแล้วคงไม่มีอะไรที่จะขับเคลื่อนต่อไปได้

อาชีพนักข่าว ถือว่างานสำคัญกว่าอย่างอื่นทั้งหมด อาจจะไม่ค่อยมีเวลาสำหรับครอบครัวมากเท่าไหร่ ต้องอุทิศเวลาให้กับงานมากกว่าอย่างอื่น

บนเส้นทางนักหนังสือพิมพ์ของ สมิต มานัสฤดี จึงเป็นห้วงเวลาแห่งการทำงานในสิ่งที่ตนเองรักอย่างแท้จริง .

ที่มา thaitribune




Create Date : 22 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2559 18:18:26 น. 0 comments
Counter : 307 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.