ทนายวัดพระธรรมกายเข้ารับทราบข้อหาร่วมกันฟอกเงิน-สมคบฟอกเงินเจ้าตัวปฏิสธขอให้การชั้นศาล



ทนายวัดพระธรรมกาย สัมพันธ์ เสริมชีพ พร้อมพวกเข้ารับทราบข้อหาจากดีเอสไอร่วมกันฟอกเงิน สมคบฟอกเงิน เจ้าตัวปฏิเสธตลอดข้อหาขอให้การชั้นศาล เผยยังเป็นทนายให้พระธัมมชโยแต่ไม่ทราบจะมอบตัวเมื่อใด

 

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2559 ที่กรมสวนสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)  นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความวัดพระธรรมกาย พร้อมพวกรวม 4 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีฟอกเงิน กรณีที่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 แทนนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และนำเงินจากสหกรณ์ไปซื้อหุ้นบริษัทดังกล่าว ต่อมานายสัมพันธ์โอนหุ้นคืนให้นายศุภชัย

คดีนี้พ.ต.ท.บรรณฑูรย์ ฉิมกรา ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 เป็นผู้แจ้งข้อหาและสอบปากคำ  

จากนั้นพ.ต.ท.บรรณฑูรย์เปิดเผยว่า นายสัมพันธ์ให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อหา โดยขอให้การสู้คดีในชั้นศาล แต่ได้พิมพ์นิ้วมือเป็นต้องหาในคดีและรับทราบข้อหาแล้ว โดยพนักงานสอบสวนแจ้ง ข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินกับนายสัมพันธ์กับพวกรวม 4 คน

พ.ต.ท.บรรณฑูรย์เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอเคยเรียกนายสัมพันธ์มาให้การในฐานะพยานถึงเหตุผลในการถือครองหุ้นแทนนายศุภชัย การโอนหุ้นและรายการโอนตามที่ปรากฏหลักฐานแสดงต่อราชการ แต่นายสัมพันธ์ไม่สามารถชี้แจงได้ และขอชี้แจงเป็นเอกสารในภายหลัง แต่ก็ไม่มีการส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม พนักงานสอบสวนจึงมีความเห็นให้เรียกนายสัมพันธ์พร้อมกรรมการบริหารบริษัท เอ็ม-โฮมฯเข้ารับทราบข้อกล่าวหา เพราะมีพฤติการณ์ปิดบังทรัพย์สินที่ได้มาจากการซื้อหุ้นด้วยเงินสหกรณ์คลองจั่นฯ และเป็นการทำนิติกรรมอำพราง

คดีนี้เป็นพิเศษที่ 99/2558 ผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คนประกอบด้วย นายสัมพันธ์ เสริมชีพ, นายจำลอง ทับสุวรรณ์, นายบันลือ กองไชย และ นายธวัชกิตต์ ธนานันท์ตระกูล   โดยนายจำลองได้ให้ทนายความมารับทราบแทนเพราะขณะนี้ยังบวชอยู่ เมื่อสึกแล้วจะเข้ารับทราบข้อหา

ต่อมานายสัมพันธ์ให้สัมภาษณ์ว่าตนจะส่งเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมภายหลัง เพราะขณะนี้ไม่ได้เป็นกรรมการบริษัทแล้ว  เรื่องเกิดจากสหกรณ์ต้องการซื้อที่ดินในพื้นที่คลองหลวงที่เป็นทรัพย์สินของบริษัท เอ็ม-โฮม  นายศุภชัย จึงนำเงินสหกรณ์คลองจั่นฯไปลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท

ในส่วนของตนและกรรมการบริษัทคนอื่นๆ เข้าไปเกี่ยวข้องเพราะได้รับสิทธิ์เทคโอเวอร์จากบริษัท ซึ่งตามสัญญาสหกรณ์คลองจั่นต้องจ่ายเงิน 1,000 ล้านบาท หลังชำระหนี้ประมาณ 900 ล้านบาท จะเหลือส่วนต่าง เป็นค่านายหน้าและกำไรประมาณ 30-40 ล้านบาท จะแบ่งผลประโยชน์กัน 3 คน ระหว่างตน,นพ.บรรลือ  กองไชย และนายจำลอง ทับสุวรรณ์

แต่ปรากฎว่านายศุภชัยจ่ายเงินมาเพียง 280 ล้านบาท  ทำให้บริษัทต้องแบ่งขายที่ดินบางส่วนเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ 3 ราย ไม่เช่นนั้นอาจถูกยึดทั้งที่ดินและเงินมัดจำ

ส่วนการทำหน้าที่ทนายความให้กับพระธัมมชโยนั้น ยังทำหน้าที่รับผิดชอบคดีของวัดพระธรรมกาย   ที่ผ่านมาไม่มีโอกาสได้พบกับพระธัมมชโย  มีเพียงสัปดาห์ก่อนที่พบกับแพทย์ที่ทำการรักษาอาการทราบเพียงว่า ยังคงอาพาธ  จึงยังตอบไม่ได้ว่าพระธัมมชโยจะเข้ามอบตัวเมื่อใด 

ที่มา thaitribune




Create Date : 23 สิงหาคม 2559
Last Update : 23 สิงหาคม 2559 6:23:15 น. 0 comments
Counter : 279 Pageviews.

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.