นายกฯยันถ้าบีบีซีทำผิดกฎหมายไทยต้องถูกดำเนินคดีไม่มีข้อยกเว้น BBC เสนอข่าวเป็นภาษาอังกฤษว่ากำลังถูกส



รองฯประวิตรชี้หากบีบีซีไทยทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดี สันติบาลเผยไม่มีใครบุกค้นสำนักงานเตรียมเชิญแอดมิน คนแปล บ.ก.และผู้เผยแพร่เข้าให้ปากคำขยายผลจากการจับไผ่ ดาวดิน สำนักงานที่อาคารมณียาจดทะเบียนไว้เท่านั้น คนโพสต์อยู่ลอนดอน

 

เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 7 ธันวาคม 2559 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีสื่อต่างชาติโดยเฉพาะบีบีซี นำเสนอข่าววิจารณ์สถาบัน เข้าข่ายผิดกฎหมายของไทยว่า ถ้าสื่อต่างประเทศนั้นมีสาขาอยู่ในประเทศไทยและมีนักข่าวคนไทยอยู่ เมื่อทำผิดกฎหมายไทยก็ต้องดำเนินคดี ก็แค่นั้น

“เหมือนเราไปอยู่ประเทศอื่น ถ้าเราทำผิดในประเทศเขาเราก็โดนดำเนินคดีเหมือนกัน ดังนั้นกฎหมายไทยก็เหมือนกัน ในต่างประเทศเขาอาจจะเห็นว่าไม่ผิด ตรงนี้ผมไม่รู้ แต่ในประเทศไทยถือว่าผิด ยกเว้นไม่ได้ ใช้กฎหมายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสื่อหรือใคร ถ้าผิดก็ต้องผิด ดังนั้นจะทำอะไรก็ต้องระวังก็แล้วกัน อย่าไปทำผิดที่เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวคนอื่นเขา จนทำให้เกิดความวุ่นวายสับสน มาตรา 116 ก็มี ถ้าทำผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คอมพิวเตอร์ฯก็ต้องดำเนินคดี ผมไม่ได้ขู่นะ ดังนั้นถ้าต้องการให้ประเทศชาติสงบสุขก็ต้องช่วยกัน”นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประวิตรหากผิดกฎหมายดำเนินการทั้งนั้น

เมื่อเวลา 08.35 น. วันที่ 7 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึงกระแสข่าวให้พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมที่จะไปนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือไม่ว่า ตนไม่รู้ ยังไม่รู้อะไร เรื่องนี้ต้องถามนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามในเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกฯไม่ได้สอบถามอะไรกับตน และตนก็ไม่ได้แนะนำอะไรไป

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการดำเนินการกับเพจบีบีซีไทยที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสถาบัน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องนี้ก็มีการไปเสนอข่าว เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องดำเนินการไปถือเป็นหน้าที่ที่ต้องดำเนินการ อะไรที่ผิดกฎหมายก็ดำเนินการทั้งหมดไม่ละเว้น

เมื่อถามย้ำว่าจะมีการฟ้องร้องหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ก็ว่ากันไป อะไรที่ผิดก็ว่าไปตามขั้นตอน ผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนการที่ตรวจค้นนั้นเป็นเรื่องที่เขาทำตามหน้าที่ ไปดูว่ามีอะไรผิดบ้าง ส่วนจะเป็นเพจจริงหรือไม่สื่อก็น่าจะรู้ดีกว่าตน และถึงแม้จะมีสำนักงานอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ใช้คนในประเทศไทยไม่ใช่หรือ เป็นเพื่อนๆ สื่อกันทั้งนั้นต้องไปดู

เมื่อถามว่าต้องสั่งปิดสำนักงานในไทยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนยังไม่รู้เลยว่าปิดอะไร ต้องรอเจ้าหน้าที่ดำเนินการ อะไรที่ผิดก็ว่าไปตามผิดไม่มีอะไร

สันติบาลบอกไม่มีใครไปค้นสำนักงานบีบีซีไทย

วันที่  7 ธันวาคม พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รักษาราชการ แทนผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 (รรท.ผบก.ส.4) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังตรวจค้น ที่ทำการสำนักข่าว บีบีซี ประจำประเทศไทย ที่อาคารมณียา ราชประสงค์ ว่ามีการยืนยันจากการตรวจสอบไม่มีตำรวจ และทหาร หรือหน่วยงานความมั่นคงเข้าไปตรวจค้นที่ทำการสำนักงานข่าวบีบีซี ตามที่มีกระแสข่าวออกมา

แต่ยอมรับว่า ตำรวจ บก.ปอท. เตรียมตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าว รวมทั้งเตรียมพิจารณาเชิญตัวแอดมินของเว็บไซต์บีบีซีไทย  ผู้แปล บรรณาธิการ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการหมิ่นสถาบันฯ เข้าให้ปากคำ หลังขยายผลของ สภ.เมืองขอนแก่นที่ควบคุมตัว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดินที่ถูกจับกุมตามหมายจับในข้อหาหมิ่นสถาบันฯตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการแชร์ลิงก์รายงานข่าวของบีบีซีไทย

นอกจากนี้ยังเตรียมตรวจสอบเว็บไซต์อื่น ที่อาจเข้าข่ายในลักษณะความผิดเดียวกัน ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอแนะนำประชาชนไม่ควรแชร์ข้อมูลต่างๆที่อาจเข้าข่ายความผิด รวมถึงไปรวมตัวกันบริเวณหน้าสำนักข่าวบีบีซีประจำประเทศไทย ขอให้ปล่อยเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ผบ.ทบ.จัดหนักกลุ่มหมิ่นสถาบัน

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายของกองทัพบก ในการดูแลปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ หลังในหลวงรัชกาลที่ 10 ขึ้นทรงราชย์ว่า เรื่องการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งในสังคมไทยต้องยอมรับว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนานหลายร้อยปี หากพูดเต็มปากคือบ้านเมืองเราที่มีเอกราช มีความเจริญรุ่งเรื่องมาจนถึงทุกวันนี้เนื่องจากเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมดวงใจประชาชนทุกคน

พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ในเวลานี้ประชาชนคนไทยยังมีความเชื่อมั่น ศรัทธา จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่เสื่อมคลาย เราจะเห็นว่าในวันนี้มีคนไทยเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศทั้งคืนมาเข้าคิวที่สนามหลวง 7-8 ชั่วโมงเพื่อกราบพระพบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม แต่เป็นไปด้วยความอดทน ออกมาก็ด้วยความอิ่มเอมใจที่ได้แสดงความจงรักภักดีแด่พระองค์ท่าน

“การที่จะมีใครคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแสดงความรู้สึก ความคิดเห็นแตกต่างด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม อาจจะด้วยวัฒนธรรมจากสังคมอื่นก็ตามเพื่อทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เสื่อมเสีย โดยที่สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ เป็นเรื่องที่พวกเราเองที่เป็นกำลังหลัก คือ กองทัพ คงยอมไม่ได้ ฉะนั้น ในเรื่องดังกล่าวเราจะบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างเข้มงวดกวดขันกับบุคคลากรที่แสดงออกในพฤติกรรมที่สังคมไทยไม่ยอมรับ ผมต้องฝากเน้นย้ำกับบางคนที่ไม่มีจิตใจตามที่กล่าว แต่ด้วยอารมณ์ชั่ววูบแชร์โพสต์ข้อความต่อ เมื่อเป็นความผิดแล้วต้องดำเนินการ ผมเองจะดำเนินการเข้มงวด กวดขันในเรื่องนี้”พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว

เผยมิตรประเทศต้องเข้าใจไทย 

ส่วนการบังคับใช้มาตรา 112 อย่างเข้มงวด จะเป็นข้ออ้างให้ต่างชาติมาแทรกแซงหรือไม่นั้น พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า วัฒนธรรมแต่ละองค์กรแตกต่างกัน เราต้องการเป็นมิตรกับทุกคน แต่เราเป็นแบบนี้ มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นที่รักของคนไทยทุกคน ตนเชื่อว่าการจะแทรกแซงหรือไม่แทรกแซง เมื่อคนไทยทุกคนไม่ยอมรับการแทรกแซงและยังยึดมั่นในตัวเอง มิตรประเทศและเพื่อนต้องเข้าใจเรา เพราะแต่ละคนมีความแตกต่างในสังคมตัวเอง เราเองยังพยายามเข้าใจสังคมคนอื่น คนอื่นต้องเข้าใจสังคมของเรา

ส่วนการสร้างภาพลักษณ์ให้สถาบันพระมหกษัตริย์นั้น ในส่วนของรัฐบาลและทุกหน่วยงานไม่จำเป็นต้องสร้างภาพลักษณ์ คือในภาพรวมปัจจุบัน ตนมองที่คนไทยทุกคนมีความเชื่อมั่น ศรัทธา จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะฉะนั้นการสร้างภาพลักษณ์ต่างๆ คงไม่จำเป็น แต่เป็นการกระทำแสดงออกด้วยจิตใจของแต่ละคนที่เราทำกันอยู่ทุกวันนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้สถาบันฯ มีความมั่นคงมากขึ้นหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวว่า ในภาพรวมของรัฐบาลและทุกส่วนงานไม่จำเป็นต้องเสริมสร้างภาพลักษณ์ ในปัจจุบันภาคประชาชนมีความเชื่อมั่น ศรัทธา และจงรักภักดีต่อสถาบันฯ ด้วยจิตใจอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการสร้างภาพลักษณ์อะไรต่างๆ ก็ไม่จำเป็น

“พวกเราตอบได้หรือไม่ว่าทำไมผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 50-60 ปี ยอมทนลำบากกราบพระบรมศพในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ในแต่ละวัน 3-4 หมื่นคน สะท้อนถึงอะไร ตอนนี้เกิน 50 วันไปแล้ว ผมมองว่าในระยะยาวคนไทยยังมีความรู้สึกอย่างนี้ เป็นไปตามธรรมชาติของสังคมไทยที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมในจิตใจของคนไทย ส่วนการดำเนินการต่อสำนักข่าวบีบีซีไทยที่เผยแพร่บทความไม่เหมาะสมนั้น ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ตอบไปแล้ว ต้องเป็นไปตามนั้น ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินการ”

สำนักงานตึกมณียาจดทะเบียนไว้

สำหรับเฟซบุ๊กของบีบีซีไทย วันที่ 7 ธันวาคมมีผู้อ่านแชร์ตอบโต้กันไปมาเกี่ยวกับข่าวเจ้าหน้าที่บุกค้นสำนักงานที่ตึกมณียาด้วยการอ้างจาก ทีนิวส์และนิวส์บลู สกาย โดย Thanapol Prapapan ตอบกลับมาว่า bbc ไม่มีสำนักงานในไทยครับ ตึกที่ตำรวจไปบุกเขาแค่จดทะเบียนใว้เฉยๆ ยังไม่ได้ก่อตั้ง  รวมทั้งมีการโพสต์ว่า “จะจับได้ไงครับ เมื่อคนโพส อยู่ ลอนดอน”

ขณะเดียวกันเมื่อคืนวันที่ 7 ธันวาคมสำนักข่าว BBC ได้เสนอข่าวเป็นภาษาอังกฤษซึ่งเป็นข่าวสัมภาษณ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่จะดำเนินคดีกับเฟซบุ๊ก บีบีซีไทยด้วยการพาดหัวว่าไทยกำลังลงมือสอบสวนกรณีบีบีซีเสนอรายงาน “พระราชประวัติกษัตริย์พระองค์ใหม่ของไทย”(Thailand investigates BBC over King Maha Vajiralongkorn profile) รวมทั้งรายงานพระราชประวัติเป็นภาษาอังกฤษ  (Profile: Thailand's new king)    โดยหัวข้อดังกล่าวถูกบล้อค //103.208.24.21/

ข่าวที่บีบีซีเสนออยู่ที่

//www.bbc.com/news/world-asia-38238779

ที่มา thaitribune




Create Date : 08 ธันวาคม 2559
Last Update : 8 ธันวาคม 2559 11:23:19 น. 0 comments
Counter : 685 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.