เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2560 ที่สะพานชมัยมรุเชฐ บริเวณทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่1, พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วยแกนนำเครือข่ายต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่ทั้ง 5 คน อาทิ นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล, นายอัครเดช ฉากจินดา,ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร, นายบรรจง นะแส และนายธัชพงศ์ แกดำ ที่ถูกควบคุมตัวก่อนหน้านี้มาพบกับ“กลุ่มเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน”จ.สงขลาและกระบี่ รวมทั้ง “กลุ่มเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ”ที่ชุมนุมอยู่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์

พล.ท.อภิรัชต์ กล่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหทมมีความเป็นห่วงใยพี่น้องทุกคน และเรื่องที่ตนจะพูดในฐานะฝ่ายความมั่นคงนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือทหารก็ได้ประนีประนอมให้มีการชุมนุม ครั้งแรกตกลงกันว่าจะใช้พื้นที่ชุมนุมฝั่งตึกสำนักงานข้าราชกาลพลเรือน (ก.พ.) แต่กลับมีการละเมิดข้อตกลงด้วยการข้ามมาชุมนุมที่ฝั่งทำเนียบรัฐบาล ซึ่งทางแกนนำก็ยอมรับเรื่องนี้ จึงต้องมีการควบคุมตัว

อย่างไรก็ตามการควบคุมตัว มีสื่อหลายแห่งตั้งข้อสงสัยว่าระหว่างการควบคุมตัว บรรดาแกนนำอยู่ดีกินดีหรือไม่ ตนขอยืนยันว่า ผู้ที่ถูกควบคุมตัวได้รับการดูแลอย่างดี เพราะพวกเขาไม่ใช่โจร แต่เป็นผู้หวังดีต่อจังหวัดกระบี่และประเทศ

มีการแทรกแซงจากผู้ไม่หวังดี

พล.ท.อภิรัชต์ กล่าวว่า หลังจากผ่านไป 2 คืน กลับมีผู้ที่ไม่ประสงค์ดีเข้ามาแทรกแซงในกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้วัตถุประสงค์ในการเรียกร้อง มีความผิดเพี้ยนในหลายเรื่อง พยายามทำให้เกิดความขัดแย้งต่อนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ในส่วนของข้อเรียกร้องไม่ว่าจะเป็น ข้อเรียกร้องหลักจัดทำการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)ใหม่

สิ่งหนึ่งที่ตนจะขอยืนยันให้ประชาชนและสื่อรับทราบ คือว่ารัฐบาลนี้ ได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว รัฐบาลมีหน้าที่หาแหล่งพลังงาน ส่วนแหล่งพลังงานจะสร้างได้หรือไม่ ก็อยู่ที่พี่น้องประชาชน ในเมื่อจะมีการทบทวนและเริ่มต้นการทำ EIA กันใหม่ แต่แหล่งพลังงานในประเทศ จะต้องเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหน เพราะพลังงานฝั่งอันดามันไม่เพียงพอต่อความเจริญเติบโตในพื้นที่ และความต้องการในการใช้ไฟฟ้า

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายความมั่นคง เราเห็นใจประชาชน แต่ถ้ามีการแทรกแซงจะดำเนินการทันที ขอให้ประชาชนอย่าตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมือง หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ถ้าจะมีใครชุมนุมตรงนี้ต่อ ทางตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายความมั่นคง”พล.ท.อภิรัชต์กล่าว

เริ่มกระบวนการ EIA ใหม่

ขณะที่พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า เมื่อวานตนได้นำข้อมูลทั้งหมด เรียนท่านนายกฯและรมว.พลังงาน และ นายกฯได้ฝากข้อความมาว่ารัฐบาลเข้าใจกลุ่มผู้ชุมนุนมผู้รักกระบี่ รักประเทศไทย เช่นเดียวกับรัฐบาล โดยจากการหารือที่ได้เชิญเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานระดับสูง ซึ่งได้ข้อสรุปว่าฝั่งประชาชนไม่วิตกว่าจะใช้พลังงานอะไรในการทำไฟฟ้า เพียงแต่ไม่มั่นใจกระบวนการ EIAและรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ(EHIA)  รัฐบาลจึงสั่งให้พลังงานแจ้งไปยัง การไฟฟ้าฝ่ายการผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้เริ่มต้นกระบวนศึกษารายงาน การดังกล่าวใหม่ โดยปรับปรุงเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วม และไม่ว่าผลการศึกษาจะออกมาอย่างไร ก็ยืนยันว่าทุกฝ่ายพร้อมจะยอมรับ

แกนนำบอกรัฐบาลฟังข้อเรียกร้อง-เริ่มต้นใหม่

นายประสิทธิ์ชัย กล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าตนได้รับความสะดวกสบายเป็นอย่างดีระหว่างถูกควบคุมตัว และจากการหารือกับทางรัฐบาล ก็ได้ข้อยุติว่าบกเลิกรายงาน EIA และ EHIA ฉบับเดิมออกไป ดังนั้น การสร้างโรงไฟฟ้าที่กระบี่ขณะนี้จึงกลายเป็นศูนย์หรือ Set Zero ถ้าจะสร้างก็ต้องเริ่มกระบวนการรับฟังความเห็นกันใหม่

นายประสิทธิ์ชัยกล่าวว่าครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิม การรับฟังความเห็นจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย จะไม่มีการจัดตั้งคนสนับสนุนโดยบริษัทที่ปรึกษาของการไฟฟ้าเข้ามาอีกแล้ว ก็ต้องถือว่ารัฐบาลได้ฟังข้อเรียกร้องของเรา ขอขอบคุณที่รัฐบาลเข้าใจ ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตประชาชน หลังจากนี้รัฐบาลจะประกาศยกเลิกรายงาน EHIA ฉบับดังกล่าว ในวันที่ 21 ก.พ. นี้

“ไม่ว่าผลการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมครั้งต่อไปจะเป็นอย่างไร พวกเราก็พร้อมน้อมรับ หลังจากขอให้พี่น้องทุกคนเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย”นายประสิทธิ์ชัยเน้น

จากนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการปล่อยตัวแกนนำทั้ง 5 คน ไปรวมกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อเตรียมเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยรถบัสปรับอากาศ ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดหาให้

นายกฯบอกอีไอเอไม่ผ่านสร้างไม่ได้

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้แจงถึงกรณีที่รัฐบาลเห็นชอบให้เดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน จ.กระบี่ ว่า ข้อเท็จจริงการดำเนินการดังกล่าว จะเน้นเรื่องการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) สรุปขั้นต้น โดยคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เห็นชอบให้คณะกรรมการอีไอเอ ไปพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อ พร้อมนำข้อเสนอแนะของคณะกรรมการไตรภาคีไปพิจารณาประกอบด้วย                                            

“หากคณะกรรมการอีไอเอเห็นว่า จะต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ ทางกระทรวงพลังงานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็ต้องปฏิบัติตาม ประเด็นนี้จะตอบโจทย์ว่า การที่ กพช.เห็นชอบให้เดินหน้าโครงการนี้ตามขั้นตอน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสร้างได้เลยทันที โดยเฉพาะเรื่องอีไอเอจะเป็นจุดผ่านที่สำคัญ ถ้าไม่ผ่านก็สร้างไม่ได้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว                                        

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ากรณีที่กลุ่มเครือข่ายอันดามันต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน ออกมาชุมนุมต่อต้านข้างทำเนียบรัฐบาลนั้น ขณะนี้ถือว่าผิดพ.ร.บ.การชุมนุม ต้องส่งฟ้อง แต่รัฐบาลก็ยังไม่ดำเนินการเลย จะใช้วิธีการเรียกมาคุยเพื่อทำความเข้าใจ

ขณะเดียวกันอยากฝากถึงนางเตือนใจ ดีเทศ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน(กสม.) และนักการเมือง อย่ามาหาคะแนนเสียงในเวลานี้ ที่ผ่านมา เคยฟังเหตุผลและข้อเท็จจริงหรือไม่ แต่กลับคิดเองมาตลอด ทั้งนี้ขอยืนยันว่ารัฐบาล คสช. และนายกรัฐมนตรีต้องการทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ไม่เช่นนั้นจะเข้ามาให้เปลืองตัวทำไม

ดังนั้นขอให้เห็นใจในการดำเนินการของรัฐบาลด้วย ที่ยึดกฎหมายเป็นหลักและโครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2550 ไม่ใช่มาเริ่มในรัฐบาลนี้

ที่มา thaitribune

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2560 2:13:36 น.		0 comments
Counter : 284 Pageviews.
Share Tweet